#ทีมมช พุ่งเทรนด์ทวิตเตอร์สับปม คณบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สั่งยึดงานศิลปะนักศึกษา
จากกรณีปรากฏคลิปในสื่อสังคมออนไลน์ เหตุการณ์บุคลากรของ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เข้าไปเก็บผลงานศิลปะของนักศึกษาในคณะวิจิตรศิลป์ แต่ทางนักศึกษาไม่ยินยอม และได้มีอาจารย์เข้ามาสอบถามถึงเหตุผล ก่อนลั่นวลี ศิลปะไม่เป็นเจ้านายใครและไม่เป็นขี้ข้าใคร กลายเป็นประเด็นที่สังคมจับตามองถึงข้อเท็จจริงในเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ล่าสุดมีความคืบหน้า สภานักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ออกจดหมายเปิดผนึกสภานักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เรื่อง ตั้งข้อซักถามต่อเหตุการณ์รื้อถอนงานศิลปะของนักศึกษา
โดยจดหมายเปิดผนึก ระบุใจความว่า เรียน อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณบดีคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
จากกรณีที่มีผู้บริหารและเจ้าหน้าที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ทำการเก็บรื้อถอนงานศิลปะของนักศึกษา ในวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 14.00 น. ณ หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พฤติการณ์คือมีการเก็บและรื้อถอนผลงานศิลปะของนักศึกษาลงถุงขยะทำให้ทรัพย์สินเกิดความเสียหาย โดยมิได้แจ้งหรือมีหนังสือคำชี้แจงใดๆ อันอาจเป็นการละเมิดงานศิลปะของนักศึกษาและขัดต่อประกาศมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่าด้วยเรื่องจรรยาของคณาจารย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ข้อ 9 ที่กำหนดว่า อาจารย์พึงรักษาความสัมพันธ์กับศิษย์อย่างกัลยาณมิตร เป็นที่พึ่งแก่ศิษย์ สนับสนุนให้ศิษย์มีความก้าวหน้าทางวิชาการอยู่เสมอ
ทั้งนี้สภานักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในฐานะองค์กรที่เป็นตัวแทนสะท้อนเสียงของนักศึกษาขอตั้งข้อซักถามต่อเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น และขอให้คณบดีคณะวิจิตรศิลป์ออกมาชี้แจงเหตุการณ์ดังกล่าวต่อสาธารณะ พร้อมกันนี้ขอให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และชี้แจงต่อนักศึกษาโดยเร็วที่สุด เนื่องด้วยเหตุการณ์ดังกล่าวกระทบกับทรัพย์สินของนักศึกษา และเกี่ยวข้องโดยตรงกับสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของนักศึกษาในพื้นที่มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นหน้าที่ของสภานักศึกษาในการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสิทธิเสรีภาพของนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่
สุดท้ายนี้สภานักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะพิจารณาและเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อชี้แจงต่อนักศึกษาโดยเร็วต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในประเด็นร้อนดังกล่าวมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างดุเดือด ส่งผลแฮชแทก #ทีมมช ร้อนฉ่าขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ตั้งแต่เมื่อคืนเรื่อยมาจนกระทั่งเช้าวันนี้
Advertisement