กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความว่า "เศร้าว่ะ! สมุทรปราการมีคนป่วยโควิด-19 ตายคาบ้านพัก เช้าวันนี้หนักไปกว่านั้นคือ 3 วันที่แล้วบ้านนี้เพิ่งสูญเสียบิดาไป มาวันนี้บุตรชายคนโตมาเสียชีวิต ส่วนมารดาก็ยังอยู่ในบ้าน ยังไม่ได้รับการรักษา และยังไม่มีหน่วยงานไหนมารับไปรักษาเปรียบเสมือนรอความตาย"
ทั้งนี้ชาวบ้านจึงวิงวอนให้เจ้าหน้าที่มารับคุณยายไปรักษาด่วน หากยังปล่อยไว้อาจจะเสียชีวิตยกครัว ล่าสุดคุณยายก็ไม่ไหวแล้ว และขออนุญาตครอบครัวและญาติ ๆ แจ้งพิกัดที่พักอาศัยจะได้มีคนเข้ามาช่วยเหลือโดยเร็ว หมู่บ้านเฟื่องฟ้า 12 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
ล่าสุดวันที่ 30 เม.ย.64 เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจจากมูลนิธิร่วมกตัญญู นำกำลังพร้อมด้วยอุปกรณ์และน้ำยาฆ่าเชื้อและชุดป้องกันโควิด-19 เดินทางมาที่บ้านพักหลังดังกล่าว และเข้าไปเก็บและบรรจุร่างของชายวัย 42 ปี ที่เสียชีวิตอยู่ในบ้านพัก ก่อนพบเจอมารดาวัย 64 ปี ซึ่งนั่งเฝ้าศพบุตรชายอย่างไม่ห่าง ในสภาพขับถ่ายเปรอะเปื้อนติดเสื้อผ้า สร้างความหดหู่ให้กับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก
ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านพักหลังดังกล่าว พบว่าทางเข้าหมู่บ้านมี รปภ. จำนวน 2 นาย ค่อยอำนวยความสะดวกและเข้มงวดวัดอุณหภูมิคนเข้าในหมู่บ้าน เมื่อทีมข่าวเดินทางไปถึงก็ทราบจากเพื่อนบ้านว่า เจ้าหน้าที่ รพ.สต.เทพารักษ์ นำทีมเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมโรค เข้ามาฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ พร้อมรับตัวคุณยายโหวง ไปตรวจโควิด-19 และรักษาที่รพ.สมุทรปราการ แล้ว
นายสมพร พินิษชูเกียรติ อายุ 46 ปี เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า บ้านหลังดังกล่าวอาศัยกันอยู่ 3 คน พ่อแม่และลูกชายคนโต โดยผู้เป็นพ่อป่วยเส้นเลือดในสมองตีบประมาณ 3 ปี แต่จู่ ๆ ในคืนวันที่ 27 เม.ย.64 ที่ผ่านมา ก็ได้เสียชีวิตลง ต่อมาเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ลูกชายคนโตก็ได้เสียชีวิต จึงเหลือเพียงแม่ที่เป็นผู้สูงอายุ ซึ่งมีอาการป่วยหนัก และพบว่าหน่วยงานราชการของ จ.สมุทรปราการ ได้นำตัวผู้เป็นแม่ไปรักษาต่อที่ รพ.สมุทรปราการแล้ว เมื่อประมาณ 11.00 น. ที่ผ่านมา
สำหรับครอบครัวดังกล่าว ยังไม่ทราบว่าติดโควิด-19 หรือไม่ เพราะเมื่อวานนี้คุณยายโหวง ก็ยืนยันกับเพื่อนบ้านว่าไม่มีใครเป็นอะไรและไม่มีใครติดโควิด-19 แต่ตนก็ยังสันนิษฐานว่าครอบครัวนี้น่าจะติดโควิด-19 แต่อาจจะยังไม่รู้ตัวเพราะยังไม่ได้รับการตรวจเชื้อโควิด-19 เนื่องจากไทม์ไลน์ครอบครัวนี้มีลูกชายคนเล็กติดเชื้อโควิด-19 และทราบผลเมื่อวันที่ 28 เม.ย.64 จึงเป็นไปได้สูงมากที่คนในบ้านจะติดโควิด-19 ไปด้วย
ส่วนที่มาที่ไปของครอบครัวนี้ที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 เพราะลูกชายคนเล็กเป็นคัตเตอร์จากทองหล่อ ทำงานในผับทองหล่อ มักเดินทางมาเยี่ยมพ่อเยี่ยมแม่ เป็นประจำโดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ ซึ่งอาจจะนำเชื้อโควิด-19 มาติดคนในครอบครัวหรือไม่
นอกจากนี้ มาตรการของหมู่บ้านในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีหน่วยงานของ รพ.สต.ลงพื้นที่มาฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อบริเวณบ้านเรือนตลอดทั้งซอย ขณะที่ร้านค้าให้ความร่วมมืองดขายของให้กับบุคคลที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย และห้ามลูกค้าเข้าร้านเด็ดขาด จะซื้อของกันนอกร้าน และพื้นที่ด้านหน้าทางเข้าออกของหมู่บ้านจะมีการตรวจวัดอุณหภูมิทุกคนที่เข้าหมู่บ้านอย่างเข้มงวด
แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนยังรู้สึกหวัดระแวง เพราะบ้านอยู่ในละแวกใกล้เคียงกัน และแม้ว่าปกติจะไม่ออกนอกบ้าน และไม่สัมผัสใกล้ชิดกับใคร แต่ก็ยังกลัวและหวาดระแวงว่าเชื้อโควิด-19 อาจจะแพร่กระจายในหมู่บ้านหรือไม่ และยังไม่สนิทใจตอนนี้จึงจะกักตัวเองอยู่ที่บ้านก่อน ไม่ไปไหน
ไทม์ไลน์ครอบครัวชาย 42 ปีเสียชีวิตคาบ้านเฟื่องฟ้า 12 ซึ่งอาศัยอยู่กับพ่อและแม่
ช่วงสงกรานต์เม.ย.64
-น้องชายคนเล็กอายุ 30 ปี มาหาครอบครัว เป็นคัสเตอร์ทองหล่อ ทำงานในผับทองหล่อ กลับไปมีผลยืนยันติดเชื้อเมื่อวันที่ 28 เม.ย.64 รักษาที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง
วันที่ 27 เม.ย.64
-พ่ออายุ 60 ปี เสียชีวิต มีโรคประจำตัวเส้นเลือดในสมองตีบ
วันที่ 29 เม.ย.64
-เพื่อนบ้านไปตะโกนถามคุณยายโหวง ทราบว่าทุกคนสบายดี ไม่มีใครติดโควิด-19 (คาดว่ายังไม่ได้ตรวจหาเชื้อ)
วันที่ 30 เม.ย.64
-ชายวัย 42 ปี ตายคาบ้านเมื่อช่วงเช้ามืด (มีโรคประจำตัวหอบหืด)
-ช่วงบ่ายเพื่อนบ้านประสาน รพ.สต.เทพรักษ์เข้ามารับตัวคุณยายโหวง มารับนำส่ง รพ.สมุทรปราการ เพราะว่ามีไข้หนัก หมดแรง จึงอยู่ระหว่างรอผลตรวจโควิด-19
Advertisement