ศบค.เตรียมเปิด รพ.สนาม ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี แบ่งกลุ่มผู้ป่วยเป็น 3 ระดับ ก่อนส่งต่อไปรักษาตามสถานพยาบาลตามลำดับของอาการ ตั้งเป้าหาวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดส
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม. วันพุธที่ 5 พฤษภาคม 2564 ณ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยระบุว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยขณะนี้ทาง ศบค.ได้บริหารจัดการเตียงสำหรับผู้ป่วย จะแบ่งกลุ่มผู้ป่วยออกเป็น 3 กลุ่ม ตามระดับอาการ คือ
• สีเขียว ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ หรืออาการน้อย จะให้เข้าโรงพยาบาลสนาม
• สีเหลือง ผู้ป่วยที่มีอาการปานกลาง จะให้เข้าโรงพยาบาลทั่วไป
• สีแดง ผู้ป่วยที่มีอาการุนแรง จะให้เข้าโรงพยาบาลเฉพาะทาง
โดยให้ปรับรูปแบบการคัดกรองผู้ป่วยให้ไปที่ รพ.สนาม แทน รพ.ทั่วไป เพื่อลดความแออัด รัฐบาลยังให้จัดตั้งศูนย์แรกรับผู้ป่วยเพื่อแยกผู้ติดเชื้อออกจากชุมชุม ก่อนจะส่งตัวให้ไปรักษาต่อตามอาการ โดยปัจจุบันนี้ไม่มีผู้ป่วยที่รอเตียงเกินกว่า 48 ชั่วโมงแล้ว ซึ่งการจัดตั้งศูนย์แรกรับและส่งต่อ ทำให้รับผู้ป่วยได้แล้ว 96% นอกจากนี้ รัฐบาลกำลังจัดตั้ง รพ.สนาม เพิ่มเติมที่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี อีกด้วย
ส่วน ยาฟาวิพิราเวียร์ ที่จะให้แก่ผู้ป่วยโควิดนั้น ตอนนี้มีอยู่ในสต็อก 1.5 ล้านเม็ด และเดือนนี้จะได้มาเพิ่มอีก 3 ล้านเม็ด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะกระจายยาไปยังทั่วประเทศ และทางกระทรวงสาธาารณสุขจะหารือเพิ่มเติมว่าจะให้ยากับผู้ป่วยในขั้นตอนไหนอีก นอกจากผู้ป่วยที่มีอาการหนัก
ส่วนวัคซีนนั้น ขณะนี้ไทยมีวัคซีนตามแผนแล้ว 63 ล้านโดส จากที่ตั้งเป้าไว้คือ 100 ล้านโดส โดยจะเริ่มฉีดให้กับผู้สูงอายุ กลุ่มเสี่ยง จำนวน 16 ล้านคน ทางสาธารณสุขได้เสนอแผนจัดหาวัคซีนโควิดเพิ่มเติม ได้แก่ วัคซีนไฟเซอร์ 5-20 ล้านโดส วัคซีนสปุตนิก วี วัคซีนซิโนแวค วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน อย่างละ 5-10 ล้านโดส รวมทั้งวัคซีนอื่นๆ ที่ะมีการขึ้นทะเบียนในอนาคต ซึ่ง ศบค.ตั้งเป้าว่าจะต้องฉีดวัคซีนให้ได้เดือนละ 15 ล้านโดส
Advertisement