โควิดเรือนจำ 18 พ.ค. 64 วานนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงข่าวถึงแผนเชิงรุกของกรมราชทัณฑ์รับมือการระบาดโควิด19 ในเรือนจำทั่วประเทศ ว่า พื้นที่กทม.ปริมณฑล รวมทั้งต่างจังหวัดตัวเลขนักโทษติดเชื้อโควิดรวมแล้ว 10, 384 ราย
ชัชชาติ หายงง หลังเห็นงบคุมโควิดเรือนจำทั่วประเทศ เฉลี่ย 2.41 บาทต่อคน
ทั้งนี้ ตนอยากให้เป็นการทานเชิงรุก คือบุคลากรของกรมราชทัณฑ์ ตั้งแต่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ รองอธิบดีฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมแรงร่วมใจกันอย่างเต็มที่ ซึ่งได้บอกกับอธิบดีฯและรองอธิบดีฯว่า หากมีอะไรหย่อนยานต้องปรับปรุงกัน ทั้งคน บุคลากรทั้งหมดที่เราต้องดำเนินการ
สำหรับ มาตรการ 10 มาตรการที่ได้เตรียมไว้และได้ให้กรมราชทัณฑ์ปฏิบัติ มีดังนี้
1. แถลงความจริงจำนวนผู้ต้องขังที่ได้ตรวจเชิงรุกไปแล้วให้ทราบ 100%
2. แจ้งให้ทราบว่าจะตรวจเชิงรุกให้ครบทุกเรือนจำ ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง รวมถึงผู้บริหารระดับสูงของกรมราชทัณฑ์ โดยจะเริ่มในส่วนของ กรุงเทพฯปริมณฑล ก่อนซึ่งจากตัวเลข 55,198 คน ขณะนี้จะต้องตรวจให้ครบ
3. การสืบข้อเท็จจริงหรือการสืบสวนโรครวมถึงสาเหตุที่ติดเชื้อ หากไม่แน่ชัดจะแจ้งให้ทราบ หรือหากได้ความแน่ชัดต้องแจ้งให้ทราบโดยไม่ปิดบังอะไรทั้งสิ้น
4. การรักษาการณ์และเฝ้าดูคนไข้ทำไปแล้วจะทำไปตลอดเวลาไม่มีวันหยุดทุกคนต้องทำงานแข่งกับเวลา
5. การรักษาประสานกับกระทรวงสาธารณสุข โดยวางเป้าหมาย ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravia)สำหรับผู้ต้องขังที่ติดเชื้อเพื่อหาวิธีการรักษาและได้ผลดีที่สุดรวมทั้งการใช้สมุนไพร เช่น ฟ้าทะลายโจรเข้าช่วยเหลือรักษาในขณะรอดูอาการโดยเฉพาะผู้ป่วยระดับสีเขียวที่ติดเชื้อและไม่แสดงอาการและอาการระดับสีเหลืองที่กำลังเริ่มแสดงอาการ
6 ผู้ต้องขังเป็นประชาชนคนไทยด้วยกันกับเราที่ต้องอยู่ในเรือนจำ ไปไหนไม่ได้การอยู่ในที่ถูกล้อมไว้ขยับขยายไปไหนไม่ได้เป็นอุปสรรคมากมายต่อการแก้ไขปัญหาประกอบกับห้องนอนมีนักโทษแออัด
7.จึงมีความจำเป็นต้องให้นักโทษและผู้คุมที่ไม่ติดเชื้อทุกเรือนจำฉีดวัคซีนโดยด่วน
8. ติดประกาศหน้าเรือนจำทุกแห่ง ให้แจ้งให้ทราบว่ามีผู้ต้องขังติดเชื้อกี่คนและไม่ติดเชื้อกี่คนหายแล้วกี่คน สัปดาห์ละ 1 ครั้ง และจะปรับตัวเลขทุกวันเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ
9. ผู้บัญชาการเรือนจำทุกคนจะทำรายชื่อผู้ติดเชื้อและปรับปรุงเป็นรายวันเพื่อให้ญาติผู้ต้องขังทุกคนสามารถเข้าตรวจสอบได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการตั้งแต่ 8.00 น.ถึง 18.00 น.
10. กระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ จะรีบวางแผนเตรียมรับมือการระบาดครั้งนี้และการระบาดในอนาคต และให้ดำเนินการโดยรีบด่วน ประชุมพิจารณาเพิ่มบุคลากรเช่นพยาบาล แพทย์ อุปกรณ์ทางการแพทย์รวมถึงพื้นที่ ในการรองรับดูแลรักษาผู้ต้องขัง
นอกจากนี้ ในจังหวัดเชียงใหม่ที่มีตัวเลขการติดเชื้อโควิด19 ในเรือนจำสูงที่สุดในประเทศ ทางกรมราชทัณฑ์ได้ออกกฏใหม่หลายอย่าง โดยเฉพาะการให้นักโทษใส่หน้ากากอนามัยหรือแมสก์ตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนนอน ซึ่งอุดรธานีก็เป็นอีกจังหวัดที่ใช้มาตรการนี้
สำหรับเรือนจำกลางอุบลราชธานี ได้ออกประกาศงดเยี่ยมผู้ต้องขังตั้งแต่เกิดการระบาดระลอก 3 ตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย. การเยี่ยมใช้วิธีเขียนจดหมายผ่านไลน์ ที่เรือนจำจัดทำ และส่งจดหมายให้ผู้ต้องหาได้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ส่วนการฝากเงินซื้อของใช้ให้ผู้ต้องขัง ยังอนุญาตตามปกติ
พร้อมกันนี้ระหว่างถูกคุมขัง นักโทษต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ทั้งช่วงปล่อยตัวออกมาทำกิจวัตรช่วงกลางวัน และตอนนอน พร้อมกับห้ามนักโทษข้ามแดนไปมา ส่วนน้ำที่ใช้อาบก็ผสมคอลรีนฆ่าเชื้อ ผู้คุมที่ปฏิบัติหน้าที่ในแต่ละแดน ต้องสวมหน้ากากอนามัยด้วย
นพ. วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายปฎิบัติการ เปิดเผยว่า ในแต่ละเรือนจำ มีผลบวก 25-50% สูงกว่าจำนวนที่ตรวจค้นหาในประชากรทั่วไปมาก สภาวะเรือนจำไม่ใช่บ้านพักปกติ
อย่างไรก็ตาม แม้อธิบดีกรมราชทัณฑ์มีบัญชาให้ใส่หน้ากากตลอด 24 ชม. แต่โดยข้อเท็จจริงไม่สามารถทำได้ เพราะต้องไปอาบน้ำ กินข้าว และส่วนหนึ่งออกไปศาล ต้องไปกินข้าวเที่ยงที่ใต้ถุน ไม่มีใครปิดหน้ากากกินข้าวได้ เรื่องนี้จึงเป็นข้อจำกัดมากๆ
ภาพจาก AFP
โควิดเรือนจำ ทะลักหมื่น! คุกเชียงใหม่พุ่งสูงสุดใน ตจว. 3,929 ราย
เชียงใหม่ แถลงแล้ว! ต้นตอโควิดแพร่ในเรือนจำ ผู้ต้องขังติดเชื้อ 3,793 ราย
Advertisement