รายงานข่าวจาก สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) หรือ กพท.แจ้งว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) หรือ ศบค. ได้ผ่อนผันให้มีการเดินทางออกจากพื้นที่สีแดงเข้ม สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) จึงได้ประสานกับหน่วยงานด้านการบินที่เกี่ยวข้อง ร่วมหารือเตรียมมาตรการรองรับเพื่อเปิดเที่ยวบินโดยสารในประเทศได้พร้อมกันตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้เป็นต้นไป โดยการเดินทางด้วยเครื่องบินจะเป็นไปในรูปแบบระบบปิดซึ่งสามารถคัดกรองผู้โดยสารและสอดรับกับมาตรการของ ศบค. ในการผ่อนผันให้เดินทางได้แต่ยังต้องเป็นไปด้วยความรัดกุม เพื่อให้ปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้โดยสาร
สายการบินต่าง ๆ จะเริ่มทำการบินเพื่อให้บริการผู้ที่มีความจำเป็น สามารถเดินทางออกจากพื้นที่สีแดงเข้มได้ในต้นเดือนกันยายนนี้ โดยสายการบินจะดำเนินการตรวจสอบเอกสารเพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ของมาตรการการเข้าออกจังหวัดพื้นที่ปลายทาง ผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางสามารถตรวจสอบมาตรการของ แต่ละจังหวัดได้จาก https://www.moicovid.com/
เอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อการเดินทาง (รายละเอียดตามมาตรการของแต่ละจังหวัด) สรุปได้ดังนี้
- เอกสารยืนยันการได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือ
- เอกสารแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยวิธี RT-PCR หรือ Antigen Test Kit (ATK) หรือ
- เอกสารที่แสดงถึงการได้รับการยกเว้น ตามที่จังหวัดปลายทางกำหนด เช่น ผู้ที่เคยติดเชื้อมาแล้วไม่เกิน 90 วัน ผู้ผ่านการกักตัวแล้ว หรือผู้โดยสารตามโครงการพื้นที่นำร่องเปิดประเทศ (Sandbox) เป็นต้น
สำหรับเอกสารยืนยันการได้รับวัคซีน ให้แสดงผลการฉีดวัคซีนที่ได้รับจากโรงพยาบาลหรืออาจใช้หลักฐานจากแอปพลิเคชันหมอพร้อมเพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ ส่วนผู้ที่ต้องการตรวจหาการติดเชื้อ สามารถค้นหาสถานที่ตรวจได้จากเว็บไซต์ https://service.dmsc.moph.go.th/labscovid19/
ซึ่งจะมีรายชื่อห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองและสามารถออกเอกสารที่สายการบินยอมรับ ซึ่งปัจจุบันสมาคมสายการบินกำลังดำเนินการร่วมกับผู้จัดทำแอปพลิเคชันหมอพร้อม เพื่อให้สามารถแสดงหลักฐานการดำเนินการทั้งหมดบนแอปพลิเคชัน หากดำเนินการเรียบร้อยแล้วจะสามารถนำมาใช้ประกอบการเดินทางได้
ทั้งนี้ มาตรการสำหรับจำนวนผู้โดยสารในเที่ยวบิน ให้มีผู้โดยสารได้ไม่เกินร้อยละ 75 ของขีดความสามารถในการรับผู้โดยสารของเครื่องบินที่ใช้ในเที่ยวบินนั้น ๆ และสายการบินจะพิจารณาการจัดที่นั่งในเครื่องบิน โดยคำนึงถึงมาตรการเว้นระยะห่าง แต่หากผู้โดยสารเดินทางมาด้วยกันสายการบินสามารถลดการเว้นระยะห่างได้แต่ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมด้วย
ทั้งนี้ CAAT และผู้ให้บริการด้านการบินทุกหน่วยงานได้หารือและร่วมมือกันจัดทำมาตรการให้ครอบคลุมด้านการบริการทางอากาศเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร เช่น การตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าอาคารผู้โดยสาร การจัดระเบียบในอาคารผู้โดยสาร การจัดระเบียบการขึ้นลงอากาศยาน การจัดที่นั่งให้มีความเหมาะสมเพื่อสร้างระยะห่าง การวางแนวทางเดินของผู้โดยสาร รวมถึงขอความร่วมมือกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่เพื่อความสะดวกในการเดินทาง โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้โดยสารทุกท่านจะร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การเดินทางโดยเครื่องบินเป็นการเดินทางที่ปลอดภัยสูงสุดและยังสามารถอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางได้ แม้ในสถานการณ์ที่ยังคงต้องระมัดระวังและให้ความร่วมมือในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคที่ยังต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดต่อไปในขณะนี้
ภาพจาก AFP
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สนามบินเชียงใหม่เงียบเหงา เที่ยวบินเป็นศูนย์ ร้านค้า-ร้านอาหารปิดไฟมืด
- การบินไทย รัดเข็มขัด ประกาศให้พนักงานลาหยุด 1 ปี โดยไม่ได้รับเงินเดือน
- การบินไทย พลิกกำไรกว่า 1.1 หมื่นล้าน จากการขายสินทรัพย์ แต่ผลดำเนินงานการบินยังขาดทุน
Advertisement