ทัวร์จีนกรุ๊ปแรกถึงไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งบินตรงจากกว่างโจว ประเทศจีน เมื่อวันที่ 6 ก.พ.66 ที่ผ่านมา หลังจากที่รัฐบาลจีนอนุญาตให้คนออกเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ได้แล้ว แน่นอนว่าเรื่องนี้ส่งผลดีมากๆ กับการท่องเที่ยวของไทยและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งไกด์นำเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร และรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักสำคัญของเศรษฐกิจไทยเลยทีเดียว
โดยททท. ได้มีการเปิดเผยข้อมูลว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2566 มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยแล้ว 99,429 คน และคาดว่ายในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 มีจำนวนเที่ยวบินจากจีนมายังไทยกว่า 2,000 เที่ยวบิน รวม 445,655 ที่นั่ง
ข้อมูลจากกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า
ปี 2563 นักท่องเที่ยวจีนเข้าไทย 1.2 ล้านคน
ปี 2564 นักท่องเที่ยวจีนเข้าไทย 1.3 หมื่นคน
ปี 2565 นักท่องเที่ยวจีนเข้าไทย 2 แสนคน
จากตัวเลขดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงหลายหลายเท่าตัว จากระดับล้านคน เหลือเพียงแค่ 2 แสนคน จากการล็อคดาวน์ของประเทศจีน เป็นเหตุให้ตัวเลขลดลงอย่างฮวบฮาบ มา ณ วันนี้จีนเปิดประเทศแล้ว ให้คนจีนเดินทางออกนอกประเทศได้แล้ว จึงเชื่อว่ายอดนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาในไทยจะเพิ่มขึ้นในอนาคต นับจากนี้
ด้านนาย ‘นายยุทธศักดิ์ สุภสร’ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ในเดือน ม.ค. 2566 มีนักท่องเที่ยวรวม 2,088,832 คน
อันดับ 1 มาเลเซีย 257,684 คน
อันดับ 2 รัสเซีย 202,642 คน
อันดับ 3 เกาหลีใต้ 168,605 คน
อันดับ 4 อินเดีย 101,343 คน
อันดับ 5 จีน 91,080 คน
ททท. จึงได้มีการปรับเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยในปี 2566 จากเดิมที่คาดมีนักท่องเที่ยวเพียง 5 ล้านคน ททท.ขยับเป้าหมายมาเป็น 7-8 ล้านคน
ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติภาพรวมตลอดทั้งปี2566 ททท. คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 30 ล้านคน สร้างรายได้ 2.38 ล้านล้านบาท ใกล้เคียงกับศูนย์วิจัยกสิกรไทย ที่ประเมินว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยปี2566 ประมาณ 25.5 ล้านคน สร้างรายได้ 1.07 ล้านล้านบาท
หากโฟกัสเฉพาะตลาดจีนถือว่า เป็นตลาดใหญ่ที่สำคัญมากกับภาคการท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวจีนมีการจับจ่ายสูงพอสมควร โดยข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยสถิติเมื่อปี 2562 นักท่องเที่ยวจีนมาไทยพักเฉลี่ยอยู่ที่ 7.8 วัน โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 6,118 บาท/คน/วัน หรือคิดเป็นค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อทริปประมาณ 47,723 บาท/คน/ทริป
ดังนั้นแน่นอนว่าการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนในคราวนี้จะส่งผลดีอย่างมากกับธุรกิจโรงแรม และร้านอาหาร โดยบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ได้ออกมาประเมินธุรกิจที่จะได้รับอานิสงส์จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนมี 6 แบรนด์ ดังนี้ MINOR ,CENTARA , ERAWAN , Siam Wellness Group , บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน หรือAU และ บริษัท เอสโฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน)หรือSHR
ทั้งนี้ มองว่าในกลุ่มโรงแรมที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะได้ประยชน์ จะเป็นห้องพักที่ราคาเข้าถึงนักท่องเที่ยวจีนได้ และจีนนิยมที่จะเลือกใช้บริการในกลุ่มโรงแรมดังกล่าว ส่วนร้านอาฟเตอร์ยู นักท่องเที่ยวจีนมีความชื่นชอบขนมหวาน
หลังจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมี 6 แบรนด์ที่ได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวจีน ทีม Spotlight
จะพาไปส่องดูรายได้ของแต่ละแบรนด์จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าแต่ละแบรนด์รายได้เท่าใด มาเริ่มที่
บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT โดย MINT ผู้นำธุรกิจโรงแรม และร้านอาหารที่ใหญ่ ที่สุดในเอเชียแปซิฟิค และธุรกิจไลฟ์สไตล์ โดยมีโรงแรม อาทิ อนันตรา, อวานี, โอ๊คส์, ทิโวลี, เอ็นเอชคอลเลคชั่น, เอ็นเอช, นาว, เอเลวาน่า, แมริออท, โฟร์ซีซั่นส์, เซ็นต์รีจิส, เรดิสันบลู
ปี2563 รายได้ 58,695 ล้านบาท ขาดทุน 21,407 ล้านบาท
ปี2564 รายได้ 76,211 ล้านบาท ขาดทุน 13,166 ล้านบาท
ปี2565 รายได้ 88,174 ล้านบาท กำไร ล้านบาท (9เดือน)
บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL มีธุรกิจโรงแรมในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้แบรนด์ เซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทารา เซ็นทรา โคซี่
ปี2563 รายได้ 13,249 ล้านบาท ขาดทุน 2,775 ล้านบาท
ปี2564 รายได้ 11,635 ล้านบาท ขาดทุน 1,733 ล้านบาท
ปี2565 รายได้ 12,713 ล้านบาท ขาดทุน 99 ล้านบาท (9เดือน)
บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW ดำเนินธุรกิจโรงแรม เช่น โรงแรมเอราวัณ
ปี2563 รายได้ 2,348 ล้านบาท ขาดทุน 1,715 ล้านบาท
ปี2564 รายได้ 1,641 ล้านบาท ขาดทุน 2,050 ล้านบาท
ปี2565 รายได้ 2,941 ล้านบาท ขาดทุน 463 ล้านบาท (9เดือน)
บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ C)SPA ดำเนินธุรกิจด้านสปาเพื่อสุขภาพ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจสปา เช่น แบรนด์ "Let's Relax" แบรนด์ "RarinJinda Wellness Spa" แบรนด์ บ้านสวนมาสสาจ
ปี2563 รายได้ 435.ล้านบาท ขาดทุน 209 ล้านบาท
ปี2564 รายได้ 174 ล้านบาท ขาดทุน 286 ล้านบาท
ปี2565 รายได้ 446 ล้านบาท ขาดทุน 101 ล้านบาท (9เดือน)
บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ AU ดำเนินธุรกิจร้านขนมหวาน 2. การขายสินค้าและวัตถุดิบ 3. การขายและการจัดงานนอกสถานที่ 4. แฟรนไชส์ เมนู อย่างเช่น ขนมปังเนยโสดคิทแคท ช็อกโกแลตคิทแคทปั่น
ปี2563 รายได้ 774 ล้านบาท กำไร 55 ล้านบาท
ปี2564 รายได้ 628 ล้านบาท กำไร 4 ล้านบาท
ปี2565 รายได้ 683 ล้านบาท ขาดทุน 82 ล้านบาท (9เดือน)
บริษัทเอสโฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR ดำเนินธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมและลงทุนในธุรกิจโรงแรมระดับนานาชาติ เช่น โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ (Holiday Inn)
ปี2563 รายได้ 2,215 ล้านบาท ขาดทุน 2,370 ล้านบาท
ปี2564 รายได้ 4,689 ล้านบาท ขาดทุน 1,234 ล้านบาท
ปี2565 รายได้ 6,260 ล้านบาท ขาดทุน 93 ล้านบาท (9เดือน)
นับว่าเป็นปัจจัยบวกอย่างมากเมื่อทัวร์จีนเข้าไทยได้แล้ว คาดว่าจะส่งผลดีกับ 6 แบรนด์ที่นักวิเคราะห์กล่าวมาเบื้องต้น ไม่เพียงแค่ 6 แบรนด์ที่จะได้รับประโยชน์ แต่…เชื่อว่าธุรกิจน้อยใหญ่อื่นๆก็จะได้รับอานิงสงส์จากทัวร์จีนเช่นกัน !!!!