ผู้ประกอบการท่องเที่ยว โรงแรมยังคงรอความหวังให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)เคาะโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส5 หลังจากที่รอแล้ว รออีก รอแล้ว รออีก มาตั้งแต่ปลายปี 2565 จวบจนมาถึงการประชุมครม.นัดแรกของปี2566 ก็ยังคงรอเก้ออยู่ และผู้ประกอบการก็ยังคงต้องลุ้นอีกต่อไปว่าสรุปจะเคาะหรือไม่เคาะ โดยโครงการนี้คาดการณ์กันว่าจะมีเงื่อนไข ดังนี้งบประมาณ 4,000 ล้านบาท ลดจากเดิมที่งบอยู่ที่ 8,700 ล้านบาท ซึ่งจัดสรรงบประมาณแบ่งเป็น 2 โครงการ คือ
1.โครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส5 วงเงิน 2,016 ล้านบาท เงื่อนไขการใช้สิทธิ์ดังนี้
-รัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่ายห้องพัก 40% จำนวน 560,000 สิทธิ์ (ห้องต่อคืน) สูงสุด 3,000 บาท
-จำกัดให้สิทธิ์จองได้สูงสุดคนละ 5 สิทธิ์ (ห้องต่อคืน)
-อีวอยเชอร์ 600 บาท
-ไม่สนับสนุนค่าใช้จ่ายเรื่องตั๋วเครื่องบิน เหมือนเฟส1-4
2.โครงการบูสเตอร์ช็อตกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ วงเงิน 1,984 ล้านบาท ดำเนินการ 4 เรื่องหลัก คือ กระตุ้นตลาดต่างประเทศ กระตุ้นไทยเที่ยวไทย ยกระดับสินค้าบริการท่องเที่ยว อีกทั้งการสื่อสารการตลาด ประชาสัมพันธ์
ล่าสุดเรื่องนี้มีความคืบหน้าจาก “นายยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยกับทีม “Spotlight” ยืนยันว่าโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส5 จะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้ททท. ได้ส่งข้อมูล และรายละเอียดโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส5 ไปให้สำนักงบประมาณตรวจสอบ และพิจารณาเพื่อเสนอต่อครม.ต่อไป แต่สาเหตุของความล่าช้ายังไม่แน่ใจว่าตัดขัดอะไร เฉพาะนั้นต้องรอกันต่อไป คาดว่าจะมีการเสนอครม.ได้ในเร็วๆนี้ เพื่อเร่งกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของเราเที่ยวด้วยกันเฟส5 จะไม่มีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายเรื่องตั๋วเครื่องบิน เนื่องจากโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินทั่วไปดีกว่า และจะให้สิทธิ์ต่อคนต่อห้องจะลดลงเพื่อกระจายให้ผู้รับสิทธิ์มีมากขึ้น อย่างไรก็ตามสำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวไทยขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้นจากการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงการที่จีนเปิดประเทศส่งผลดีอย่างมากเพราะไทย คือ จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจีน จึงทำให้มี ไฟลต์บินเข้าไทยมากขึ้น โดยตั้งเป้าว่าปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยจำนวน 25 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 2.38 ล้านล้านบาท
ด้าน “นางละเอียด บุ้งศรีทอง” ที่ปรึกษากรรมการสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า ผู้ประกอบการโรงแรมยังรอลุ้นเราเที่ยวด้วยกันเฟส5 ว่าครม.จะไฟเขียวได้เมื่อไหร่ แต่ส่วนตัว มองว่า ถ้ามีโครงการนี้ต่อไปก็ดี แต่ถ้าไม่มีก็เข้าใจได้ว่ารัฐต้องนำเงินไปบริหารประเทศกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนอื่นๆ ในขณะที่ความเชื่อมั่น และกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวในประเทศก็เริ่มกลับมาตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติก็เริ่มกลับมาแล้ว โดยเฉพาะเชียงใหม่สัญญาณการฟื้นตัวดีมาก โดยในไตรมาสที่ 4 ของปี2565 อัตราเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 65-75 % และเชื่อว่าในไตรมาสที่1 ปี2566 อัตราเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 65-75 % เช่นกันื อยู่ในเกณฑ์ที่ดี เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติเจ้าเข้าไทยมากขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการโรงแรมต้องเตรียมความพร้อมในทุกๆด้านรองรับ
ขณะที่ “นายเรืองชัย จิตรสกุล” ประธานกรรมการโรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว และโรงแรมเวียงอินทร์ จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ยังรอโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส5 เพราะที่ผ่านมาสามารถทำให้เงินสะพัดในธุรกิจโรงแรมได้อย่างมหาศาล เชื่อว่าช่วงต้นปีแบบนี้คนยังอยากเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ในขณะที่ภาพรวมการจับจ่ายของประชาชนทั่วไปก็ปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ คาดว่าถ้ามีเราเที่ยวด้วยกันเฟส5 จะกระตุ้นการเดินทางได้มากกว่านี้