ก้าวสู่ทศวรรษที่ 6 แห่งความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสายไฟฟ้าและสายเคเบิล บริษัท บางกอกเคเบิ้ล จำกัด (มหาชน) พร้อมที่จะนำพาประเทศไทยและภูมิภาคสู่ยุคใหม่แห่งพลังงานสะอาดและเมืองอัจฉริยะ ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นความปลอดภัย นวัตกรรม และความยั่งยืน บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะตอบสนองต่อความต้องการด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก พร้อมทั้งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่ออนาคตที่สดใสของทุกคน
บริษัท บางกอกเคเบิ้ล จำกัด (มหาชน) ผู้นำในอุตสาหกรรมสายไฟฟ้าและสายเคเบิลของประเทศไทย ตอกย้ำวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างยั่งยืนในโอกาสครบรอบ 60 ปี พร้อมรับมือกับความต้องการใช้ไฟฟ้าทั่วโลกที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสามเท่าภายในปี 2050 ด้วยการประกาศแนวคิด "3 เซฟ" เพื่อส่งเสริมความปลอดภัยของประชาชน เมือง และสิ่งแวดล้อม
บริษัทฯ เดินหน้ามุ่งมั่นสานต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เปิดตัวสายไฟฟ้าแรงสูง 230kV เพื่อรองรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พลังงานหมุนเวียน และเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ควบคู่ไปกับการเพิ่มกำลังการผลิตสู่ 60,000 ตันต่อปี และตั้งเป้าหมายในการขยายตลาดสู่ภูมิภาคอาเซียนและตลาดโลกภายในระยะเวลา 3 ปี
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนา Smart Factory เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเตรียมจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 9 กันยายน ศกนี้ พร้อมนิทรรศการที่นำเสนอเส้นทางการเติบโตอย่างยั่งยืนและบทบาทของสายไฟในการพัฒนาเมือง
คุณพงศภัค นครศรี กรรมการบริหาร บริษัท สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล จำกัด (BCC) ได้กล่าวถึงบทบาทสำคัญของสายไฟฟ้าในการพัฒนาประเทศไทยตลอดระยะเวลา 6 ทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นย้ำว่าสายไฟฟ้าเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่เชื่อมโยงสาธารณูปโภคต่างๆ เข้าด้วยกัน ส่งผลต่อการพัฒนาเมือง คุณภาพชีวิต และการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมของประเทศ
ในยุคที่ทั่วโลกกำลังมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero GHG Emissions) คุณพงศภัคคาดการณ์ว่าสายไฟฟ้าจะมีความสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าความต้องการการผลิตไฟฟ้าทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นสามเท่า และสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนจะสูงถึง 91% ภายในปี ค.ศ. 2050 ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการสายไฟฟ้าทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 80 ล้านกิโลเมตร
สำหรับประเทศไทย คุณพงศภัคระบุว่าแนวโน้มความต้องการสายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากหลายปัจจัย ทั้งนโยบายการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) แผนการปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้ทันสมัย (Grid Modernization) การเติบโตของธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ และการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานทดแทนทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน
คุณพงศภัคสรุปว่า "สายไฟฟ้าจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานหมุนเวียน และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนอนาคตของเมือง"
ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมสายไฟฟ้าและสายเคเบิลของประเทศไทย บริษัท บางกอกเคเบิ้ล จำกัด (มหาชน) ยึดมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีสายไฟฟ้าที่ล้ำสมัย สอดคล้องกับทิศทางการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยยึดหลักแนวคิด "3 เซฟ" เพื่อส่งเสริมความปลอดภัยและความยั่งยืน
คุณพงศภัค นครศรี กรรมการบริหาร กล่าวว่า "แนวคิด '3 เซฟ' จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ในระยะสั้น บริษัทฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับแนวคิดนี้ เช่น สายไฟฟ้าแรงสูงพิเศษ 230kV และตัวนำอะลูมิเนียมคอมโพสิตหลัก (ACCC®) เพื่อรองรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาเมือง และการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน" นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 60,000 ตันต่อปี และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดสายไฟเป็น 35% ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
ขณะที่ในระยะกลาง บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจสายไฟฟ้าและสายเคเบิลในภูมิภาคอาเซียนภายในระยะเวลา 3 ปี (พ.ศ. 2567-2569) โดยมี 3 กลยุทธ์หลักที่จะขับเคลื่อนการเติบโต
การขยายสู่ตลาดภูมิภาค: บริษัทฯ จะนำความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและมีนวัตกรรม เพื่อนำเสนอในตลาดโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายและซัพพลายเชนของบริษัทฯ ในระดับสากล
ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน กลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง และความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัท บางกอกเคเบิ้ล จำกัด (มหาชน) พร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ทศวรรษใหม่ด้วยความมั่นใจ บริษัทฯ ไม่เพียงแต่จะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสายไฟฟ้าและสายเคเบิลของประเทศไทย แต่ยังมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาคและสากล พร้อมทั้งมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพสูง ตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของโลก และขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุคใหม่แห่งพลังงานสะอาดและเมืองอัจฉริยะ