เห็นแล้วต้องบอกว่าหงุดหงิดเหลือเกิน ขณะขับรถแล้วเจอมนุษย์ที่มักเปิด "ไฟฉุกเฉิน" หรือที่บางคนเรียกว่า "ไฟผ่าหมาก" แบบพร่ำเพรื่อใช้กันแบบผิด ๆ ไม่รู้สอบใบขับขี่ผ่านมาได้อย่างไร เฮ้อ! มาดูวิธีการใช้ไฟฉุกเฉินที่ถูกต้องกันดีกว่า
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าฉุกเฉิน ไฟฉุกเฉินก็เอาไว้เปิดตอน มีเหตุการณ์ฉุกเฉินนั่นเอง แล้วปุ่มมันอยู่ตรงไหน? มันเป็นปุ่มกดที่มีสัญลักษณ์สามเหลี่ยมที่อยู่ในรถ หาง่ายไม่ยากหรอก มองไปรอบ ๆ รับรองเจอแน่นอน
เหตุการณ์สำคัญ ๆ สำหรับรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุ เฉี่ยวชน รถเสีย หรือจำเป็นต้องจอดเมื่อมีอะไรผิดปกติ ซึ่งจะเป็นจะต้องจอดข้างทาง หรือแม้แต่กลางถนน
การจำเป็นต้องชะลอเพื่อเบรกแบบกระชั้นชิด เป็นการเตือนไม่ให้รถยนต์ที่วิ่งตามมาด้านหลังชนท้าย กดปุ่มใช้ไฟฉุกเฉินนี้ได้เลยไม่ต้องเกรงใจใคร
สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน ขณะที่ฝนตกหนัก มองทางไม่เห็น ห้ามเปิดไฟนี้เด็ดขาด เพราะรถที่ขับตามท่านด้านหลัง ไม่สามารถจะทราบได้เลยว่าท่านจะขับไปไหน จะไปทางซ้ายหรือขวา อาจเกิดอุบัติชนท้ายได้ หากไม่แน่ใจ มองไม่เห็นทางจริง ๆ ให้ท่านขับขะลอแล้วไปจอดในที่ที่ปลอดภัย เมื่อฝนหยุด หรือมองเห็นทางชัดเจนแล้วค่อยเดินทางกันต่อ จะปลอดภัยกว่า
หรือแม้แต่ในกรณีที่ขับข้ามทางแยก อันนี้พบบ่อยมาก บางแยกไม่มีสัญญาณไฟจราจร หากท่านเปิดไฟนี้ ในขณะที่ขับข้ามทางแยกต่างๆ รถยนต์ที่ขับตามหลังมาก็ไม่ทราบได้ว่าท่านจะขับตรงไป หรือเลี้ยวไปทางไหนเช่นกัน อันตรายมากหากท่านเปิดไฟฉุกเฉินนี้
พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 56 ในกรณีที่เครื่องยนต์หรือเครื่องอุปกรณ์ของรถขัดข้องจนต้องจอดรถในทางเดินรถ ผู้ขับขี่ต้องนำรถให้พ้นทางเดินรถโดยเร็วที่สุด ในกรณีตามวรรคหนึ่งถ้าจำเป็นต้องจอดรถอยู่ในทางเดินรถ ผู้ขับขี่ต้องจอดรถในลักษณะที่ไม่กีดขวางการจราจร และต้องแสดงเครื่องหมายหรือสัญญาณตามลักษณะและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง