Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ทำความรู้จัก เทคโนโลยีอัจฉริยะ DM-i Super Hybrid จาก BYD
โดย : อมรินทร์ นิวส์ - ยานยนต์

ทำความรู้จัก เทคโนโลยีอัจฉริยะ DM-i Super Hybrid จาก BYD

15 มิ.ย. 67
14:27 น.
|
398
แชร์

BYD รถยนต์ประเภท PHEV (Plug-in Hybrid) หรือรถยนต์ที่ขับเคลื่อนโดยการผสานขุมพลังที่สร้างจากไฟฟ้าร่วมกับน้ำมันเชื้อเพลิง

โดย BYD ก็เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่ได้เผยโฉมรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่จะเข้าสู่ตลาดยานยนต์ไทยไปในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 ที่ผ่านมา นำร่องโดย BYD SEALION 6 DM-i เอสยูวีขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด 1.5 ลิตร ที่ใช้แพลตฟอร์ม DM-i เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะจาก BYD ที่ทำให้รถยนต์ PHEV ที่ขับขี่ได้คล้ายรถยนต์ไฟฟ้า

01dm-itechnology

DM-i คืออะไร

เจาะลึกถึง DM–i Super Hybrid เทคโนโลยีขับเคลื่อนยานยนต์ที่ใช้ขุมพลังงานไฟฟ้าจากมอเตอร์เป็นหลัก ป็นเทคโนโลยีระบบพลังงานและชุดควบคุมการทำงานของรถยนต์ประเภท PHEV เอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ BYD โดยอักษรย่อ “DM” หมายถึง “Dual Mode” หรือระบบการทำงานที่ประสานขุมพลัง 2 รูปแบบ คือมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ ส่วนอักษร “i” ย่อมาจากคำว่า “Intelligent" หรือเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ผสานการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคอย่างลงตัว

เทคโนโลยี DM-i Super Hybrid โดดเด่นเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่นๆ คือ เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาภายใต้การขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก (Electricity-based) โดยหลักการคือจะใช้ขุมกำลังขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถรองรับการสร้างพลังงานด้วยการชาร์จไฟทั้งในรูปแบบกระแสตรง DC และ การแสสลับ AC จากภายนอก ซึ่งหากยังไม่เพียงพอในการใช้งานในชีวิตประจำวัน การสร้างพลังงานจากเครื่องยนต์ก็จะเป็นส่วนเสริมในการสร้างพลังงานหลักเพื่อการขับเคลื่อนให้กับ “มอเตอร์ไฟฟ้า” และเมื่อต้องการสร้างพลังงานสูงสุดเพื่อการขับเคลื่อนอย่างเต็มประสิทธิภาพ “เครื่องยนต์” จะสร้างพลังงานเสริมการขับขี่ เช่น การเร่งความเร็วกะทันหัน การแซง การขึ้นเนินสูง การขับขี่ทางไกลที่ใช้ความเร็วคงที่ เป็นต้น

ส่วนสำคัญของเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid คือ แพลตฟอร์มที่ให้ความสำคัญกับการใช้เชื้อเพลิงพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด และมากกว่านั้นก็ยังพัฒนาเพื่อให้รถยนต์มีการปล่อยมลภาวะให้น้อยที่สุด กล่าวคือ ทุกๆ มลภาวะที่ปล่อยออกมาจะต้องมีอย่างจำกัดและถูกปล่อยออกมาเพื่อการใช้งานมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยเปรียบเสมือนการขับเคลื่อนที่เสมือนรถยนต์ไฟฟ้ามากที่สุด ซึ่งการขับเคลื่อนจะมีการส่งกำลังนิ่งเรียบและมอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและต่อเนื่องตลอดเส้นทาง

03ehs

DM-i Super Hybrid ขับเคลื่อน Hybrid รูปแบบต่างๆ ตามสถานการณ์ ดังนี้

  • EV Mode: โหมดการขับเคลื่อนโดยใช้ไฟฟ้า โดยเป็นการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเป็นหลัก ซึ่งมีการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แรงดันสูง เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและไร้เสียงรบกวนเสมือนกับการขับยานยนต์ไฟฟ้า 100%
  • Series Modeหรือโหมด HEV แบบอนุกรม เป็นโหมดการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่กำลังการขับเคลื่อนของมอเตอร์ไฟฟ้าจะถูกสร้างพลังงานจากเครื่องยนต์ที่มีการเดินเครื่องที่เรียบเนียนจึงทำให้การสร้างพลังงานไร้รอยต่อและสร้างสรรค์การขับเคลื่อนให้มีความนุ่มนวล และด้วยการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลักจึงทำให้การขับเคลื่อนนั้นเสมือนยนตกรรมไฟฟ้ามากที่สุด
  • Parallel Modeหรือโหมด HEV แบบขนาน ซึ่งเป็นโหมดการขับเคลื่อนที่มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ประสานการทำงานกันแบบเต็มกำลัง จึงส่งมอบประสิทธิภาพในด้านพละกำลังการขับขี่ที่ดีที่สุด มักจะถูกใช้ในช่วงที่ใช้กำลังขับเคลื่อนสูง เช่น การเร่งแซง การขึ้นเขา เป็นต้น

เพื่อการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและเสมือนกับการขับขี่ยนตกรรมไฟฟ้ามากที่สุด ทุกๆ การชะลอความเร็วและการเบรกนั้น ระบบ Regenerative Braking เก็บพลังงานจลน์ที่เกิดขึ้นสร้างพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ เพื่อเพิ่มระยะทางการเดินทางด้วยไฟฟ้าให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงปรับปรุงอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงให้ดีมากยิ่งขึ้นรวมถึงอัตราการปล่อยมลภาวะให้ลดน้อยลง และ เพื่อให้รถยนต์นั้นใกล้คำว่ารถยนตกรรมไฟฟ้ามากที่สุด ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสถึงยนตรกรรมที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่จะช่วยให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารรวมถึงผู้คนสาธารณะได้รับทั้งเรื่องของความปลอดภัยในการใช้ถนนสาธารณะ และ มลภาวะสภาพแวดล้อมสาธารณะที่สะอาดมากยิ่งขึ้น

จุดเด่นของเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid

ไฮไลต์ของเทคโนโลยี DM-i คือเป็นแพลตฟอร์มที่รวมเอานวัตกรรมเทคโนโลยีอัจฉริยะไว้ ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาเทคโนโลยีโดยใช้เครื่องยนต์ประสิทธิภาพเชิงความร้อนสูงซึ่งออกแบบเฉพาะสำหรับรถยนต์ระบบปลั๊กอินไฮบริด เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงพร้อมด้วยเทคโนโลยี Blade Battery เสริมด้วยระบบระบายความร้อนแบตเตอรี่อัจฉริยะที่พัฒนาขึ้นสำหรับรถยนต์ไฮบริดโดยเฉพาะ ฟังก์ชันการถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น รวมถึงเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมากมายที่มอบความสะดวกให้ผู้ขับขี่ใช้งานได้อย่างมั่นใจ เช่น ระบบ VtoL ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้เทคโนโลยี DM-i Super Hybrid มีข้อได้เปรียบกว่าเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดอื่นๆ ในตลาดอยู่หลายประการ อาทิ

  • ประสิทธิภาพเชิงความร้อนของเครื่องยนต์ที่มากกว่า
  • ประสิทธิภาพการทำงานของระบบส่งกำลังไฮบริดที่มากกว่าเนื่องด้วยการพัฒนาเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังสำหรับเทคโนโลยี Plug-In Hybrid โดยเฉพาะ
  • เทคโนโลยี Blade Battery ซึ่งปลอดภัยกว่า ทั้งยังมีความจุที่มากและเพียงพอ เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เทคโนโลยี DM-i ทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพทั้งด้านพละกำลัง ความนิ่งเรียบของการส่งถ่ายกำลังของขับเคลื่อน และการใช้อัตราสิ้นเปลืองของพลังงานและเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ
  • การทำงานของ NVH (ระดับเสียง ความสั่นสะเทือน และความกระด้างของรถยนต์) ที่มีประสิทธิภาพ

02sealudm-i

พลังงานระบบไฮบริดที่ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

เทคโนโลยี DM-i ได้รับการพัฒนาให้ขับเคลื่อนด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก และด้วยขนาดของแบตเตอรี่ที่ออกแบบมาให้เพียงพอและเหมาะสมต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งหากเลือกขับรถด้วย EV Mode หรือโหมดการขับเคลื่อนโดยใช้ไฟฟ้า ในขณะที่แบตเตอรี่มีพลังงานคงเหลือปกติ ก็จะทำให้ขับขี่ได้โดยไม่สร้างมลพิษทางอากาศเลยแม้แต่น้อย เสมือนใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เพราะ EV Mode จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นระบบขับเคลื่อนหลักโดยสมบูรณ์ และไม่มีการใช้ขุมพลังจากเครื่องยนต์เลย

ถ้าขับขี่ขณะที่แบตเตอรี่มีพลังงานคงเหลือต่ำ (Low SOC หรือแบตเตอรี่น้อยกว่า 25%) ระบบก็จะยังคงใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเป็นหลัก โดยใช้วิธีสร้างพลังงานจากเครื่องยนต์และส่งต่อมาที่มอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งช่วยทั้งในเรื่องของการลดปริมาณการปล่อยมลพิษได้อย่างชัดเจน และยังเป็นการใช้พลังงานเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพราะเมื่อระบบมีพลังงานไฟฟ้าที่เพียงพอต่อการขับเคลื่อนแล้ว เครื่องยนต์ก็จะหยุดทำงานแล้วเปลี่ยนกลับมาขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ได้พลังงานมาจากแบตเตอรี่คงเหลือแทน นอกจากนี้ แบตเตอรี่ยังได้รับการออกแบบให้มีขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งาน ทำให้รถยนต์ไม่ต้องแบกภาระน้ำหนักรวมของตัวรถที่มากเกินความจำเป็น ซึ่งจะทำให้เกิดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในการสร้างพลังงานขับเคลื่อนมากขึ้น

เทคโนโลยี DM-i Super Hybrid ที่กล่าวมาข้างต้น มีมาในรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเผยโฉมในประเทศไทยอย่าง BYD SEALION 6 DM-i พร้อมเปิดจองสิทธิ์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของ BYD SEALION 6 DM-i ในประเทศไทยได้ที่ Facebook BYD RÊVER Thailand

03seal-u-dm-i(1)

แชร์
ทำความรู้จัก เทคโนโลยีอัจฉริยะ DM-i Super Hybrid จาก BYD