เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยโฉม Batur Convertible รถสปอร์ตแบบเปิดประทุน รุ่นตัวถังออกแบบพิเศษโดย Bentley Mulliner แผนกออกแบบพิเศษของเบนท์ลีย์ มอเตอร์สและเป็นผู้ผลิตตัวถังรถยนต์ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่สุดของโลก โดย Batur Convertible ถือเป็นอัครยนตรกรรมออกแบบพิเศษรุ่นที่ 3 หลังจากการเปิดตัวรุ่น Bacalar และ Batur แบบคูเป้ สำหรับอัครยนตรกรรมรุ่นพิเศษรุ่นนี้จะประกอบขึ้นเพียง 16 คันเท่านั้นด้วยนวัตกรรมทั้งในด้านสีสันและวัสดุพิเศษจากแรงบันดาลใจของความลึกล้ำแห่งธรรมชาติที่ถือเป็นครั้งแรกของเบนท์ลีย์
Batur Convertible เป็นการต่อยอด DNA การออกแบบของรุ่น Bacalar และ Batur แบบคูเป้ที่จะเป็นแนวทางสู่การออกแบบอัครยนตรกรรมเบนท์ลีย์ในอนาคต
Batur Convertible มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์รุ่น W12 กว่า 750 แรงม้าจากเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ขนาด 6.0 ลิตร ขุมพลังที่ทรงสมรรถนะที่สุดของเบนท์ลีย์รุ่นนี้
เบนท์ลีย์แบบเปิดประทุนมีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่แบรนด์ถือกำเนิดขึ้นในปี 2462 ไปจนถึงรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Bacalar การผสมผสานงานออกแบบของ Bacalar และ Batur รวมถึงคุณสมบัติแบบเปิดประทุนนักออกแบบเลือกที่จะเน้นคุณสมบัติแบบสองที่นั่งด้วยห้องโดยสาร
การออกแบบ 'Airbridge' หรือฝาครอบบริเวณด้านหลังเบาะโดยสารทำให้นึกถึงรถยนต์สปอร์ตแบบเปิดประทุนในยุคเก่าที่เน้นสมรรถนะและผู้ขับขี่ ฝาครอบดีไซน์พิเศษมีช่องเก็บสัมภาระด้านหลังเบาะโดยสารทั้งสอง
หลังคาเปิดประทุนแบบแข็ง วัสดุฉนวนระบบซีล และการควบคุมเสียงภายในห้องโดยสาร หลังคาแบบเปิดประทุนสามารถเปิดออกและจัดเก็บได้ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 19 วินาทีในขณะที่รถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 50 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง
ทีมออกแบบจากมูลิเนอร์และลูกค้าจะออกแบบ Batur Convertible ร่วมกันผ่าน Mulliner Visualizer ที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษ ปรับแต่งสีและพื้นผิว
สำหรับตัวเลือกของเฉดสีมีหลากหลาย เริ่มด้วยชุดสีจากมูลินเนอร์แบบเต็มรูปแบบตามความต้องการ หรือกราฟิกที่วาดด้วยมือ สำหรับการตกแต่งภายนอกสามารถออกแบบด้วยการผสมเฉดสีโทนสว่างและเข้ม แบบด้านหรือแบบเงาหรือไทเทเนียม ใช้สีตัดกันแบบไล่ระดับกับกระจังหน้า
Batur Convertible มาพร้อมกับการออกแบบ Airbridge ให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยฝาครอบปิดส่วนท้ายของรถและวัสดุหลังคาที่สามารถเลือกสรรให้เข้ากับภายในห้องโดยสารและการตกแต่งภายนอกได้
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมกับตัวเลือกเฉพาะสำหรับการพิมพ์แบบ 3 มิติในเฉดสีชมพู Rose Gold อาทิ แป้นตัวเลือกโหมดการขับขี่ของเบนท์ลีย์บริเวณรอบปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์และโหมดแชสซี และบริเวณคอนโซลกลางที่รับกับกระจังหน้า เฉดสีชมพู Rose Gold ยังได้นำมาตกแต่งกับปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศ Organ Stop เป็นเอกลักษณ์ของเบนท์ลีย์บนแผงหน้าปัดและบนพวงมาลัย
เบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ยังได้ร่วมมือกับช่างทองผู้เชี่ยวชาญในย่าน Jewellery Quarter ของเมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเครื่องประดับมาอย่างยาวนานหลายศตวรรษเพื่อออกแบบชิ้นส่วนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยผสมผสานเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงเข้ากับการเลือกใช้วัสดุและเทคนิคการตกแต่งแบบดั้งเดิม
Batur Convertible ได้รับการรังสรรค์ขึ้นด้วยช่างฝีมือชาวอังกฤษตลอดระยะเวลาหลายเดือนในเวิร์คช็อปของมูลินเนอร์ ณ โรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เมืองครูว์ ประเทศอังกฤษ อัครยนตรกรรมรุ่นพิเศษจะมีเพียง 16 คันในโลกเท่านั้น โดยจะถือเป็นอัครยนตรกรรมเบนท์ลีย์รุ่นสุดท้ายที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์รุ่น W12 อันทรงสมรรถนะที่สุดของแบรนด์
สำหรับเครื่องยนต์รุ่น W12 ขุมพลังของ Batur Convertible เครื่องยนต์ได้รับการปรับปรุงระบบ พร้อมด้วยเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่อัปเกรด อินเตอร์คูลเลอร์ใหม่ และการปรับจูนใหม่ ทำให้สามารถผลิตพละกำลังสูงถึง 750 แรงม้า แรงบิด 1,000 นิวตันเมตร มอบสมรรถนะที่เหนือชั้นให้กับอัครยนตรกรรมแกรนด์ทัวริ่งรุ่นพิเศษนี้ โดยการพัฒนาเครื่องยนต์รุ่น W12 ถือเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว เครื่องยนต์รุ่น W12 ได้รับการพัฒนาให้ผลิตพละกำลังได้มากขึ้นเกือบ 40% ในขณะเดียวกันก็ยังมอบประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีขึ้น 25% เครื่องยนต์รุ่น W12 มาพร้อมกับเกียร์คลัตช์คู่ 8 สปีดและท่อไอเสียแบบสปอร์ต มอบอรรถรสความสปอร์ตด้วยเสียงที่ไพเราะจากท่อไอเสียดีไซน์พิเศษ ซึ่งระบบท่อไอเสียทั้งหมดผลิตจากไททาเนียม พร้อมการตกแต่งขั้นสุดท้ายด้วยไทเทเนียมแบบพิมพ์ 3 มิติ
รถยนต์ต้นแบบ Batur Convertible Car #0 มาพร้อมกับความใส่ใจในรายละเอียดด้วยงานสีภายนอกแบบพิเศษกับเฉดสีส้มแบบมันเงา Vermillion Gloss และเฉดสีส้มแบบด้าน Vermillion Satin ซึ่งให้สีสันที่สดใสพร้อมกับความร่วมสมัย ตัวถังตกแต่งด้วยสปลิตหน้า สเกิร์ตข้าง และดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังที่ผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์มันวาวสูง
ด้านหน้าของ Batur Convertible Car #0 โดดเด่นด้วยกระจังหน้าที่รังสรรค์ขึ้นอย่างโดดเด่นด้วยดีไซน์เมทริกซ์แบบมันเงาในโทนสีเข้ม Gloss Dark Titanium เน้นด้วยการเล่นสีตัดกันในรูปแบบออมเบรแนวนอนที่ทอดยาวจากเฉดสีดำบริเวณตรงกลางและสว่างขึ้นสู่ด้านข้างด้วยเฉดสีส้มมันวาว Vermillion Gloss พร้อมด้วยเส้นสาย “endless bonnet” ที่เคลือบด้วย Gloss Dark Titanium เช่นเดียวกับล้ออัลลอยด์ที่ออกแบบพิเศษขนาด 22 นิ้วแบบมัน-ด้านในเฉดสีดำ Black Titanium กับการตกแต่งด้วยการเน้นเฉดสีส้ม Vermillion Gloss
เบนท์ลีย์ส่งมอบ รุ่น Bentayga Hybrid และ Flying Spur Hybrid ทันทีกับสต๊อกเฉดสีและออปชันที่ครบครันและครอบคลุมทุกความต้องการกับราคาที่ดีที่สุด เริ่มต้นที่ 13.7 ล้านบาท พร้อมรับข้อเสนอพิเศษ ‘Crafting Your Dream Offers’ ที่ผู้สนใจครอบครองรถยนต์เบนท์ลีย์สามารถออกแบบแผนการเงินเองได้และทำให้การตัดสินใจเป็นเจ้าของรถยนต์เบนท์ลีย์เป็นเรื่องง่าย และเหนือกว่าด้วยเอกสิทธิ์การบริการหลังการขายมาตรฐานโรงงานผู้ผลิตด้วยการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดที่ ‘นานที่สุด’ ถึง 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) การรับประกันโดยโรงงานผู้ผลิตและสิทธิ์การต่อการรับประกัน (Bentley Extended Warranty) สูงสุด 4 ปี และบริการผู้ช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง (24-hour Bentley Roadside Assistance) นาน 3 ปีเต็ม
ผู้สนใจครอบครองรถยนต์เบนท์ลีย์สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โทร. 080-925-9999 หรือ 02-261-1050 LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V