ซื้อรถจากเต็นท์ ต้องดูแลรักษายังไงต่อ เพื่อให้ใช้ได้ไปอีกนาน

ปัจจุบันผู้คนหันมาใช้รถส่วนตัวมากขึ้น ในขณะเดียวกัน รถยนต์ก็ยังจำเป็นต่อการเดินทางไปทำงานหาเงินสำหรับคนจำนวนไม่น้อย ทำให้ความต้องการซื้อรถยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งรถยนต์ใช้แล้วที่มีราคาเอื้อมถึงจับต้องได้ อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ และเต็นท์รถยนต์ก็เป็นตัวเลือกสำหรับการไปเลือกซื้อรถที่มีราคาย่อมเยา นอกจากได้เห็นคันจริง ซื้อง่าย วิธีการไม่ยุ่งยาก แต่เมื่อได้มาเป็นเจ้าของแล้วนี่สิ มันต้องดูแลรักษาต่อยังไง เพื่อให้รถใช้ได้ไปอีกนาน

เรื่องการดูแลรักษารถมือสองนั้น ก็ไม่ยากเย็นอะไรหรอก เริ่มตั้งแต่พอซื้อรถจากเต็นท์มา เราก็ควรนำรถไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และน้ำมันเฟืองท้ายใหม่เสียก่อน พร้อมเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องด้วย ก็จะเป็นการดีและปลอดภัยที่สุด เพราะส่วนใหญ่เต็นท์หรือผู้ขายรถมือสอง มักยังไม่ได้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันต่าง ๆ เหล่านี้มาให้



ต่อมาก็ดูพวกสายพานไทม์มิ่งหรือที่เค้าเรียกว่า สายพานราวลิ้น ต้องตรวจสอบดูว่าเปลี่ยนมานานแล้วหรือยัง โดยอาจจะสังเกตจากสติ๊กเกอร์ที่แปะไว้ตรงฝาครอบสายพานไทม์มิ่งหน้าเครื่อง จะบันทึกวันเดือนปีและเลขกิโลที่เปลี่ยนสายพานครั้งล่าสุดไว้ แต่ถ้าบางคันไม่มีและผู้ขายรถให้ก็ไม่ทราบ ก็ควรเปลี่ยนใหม่จะคุ้มกว่า เพราะถ้าเกิดสายพานไทม์มิ่งขาด อาจทำให้วาล์ว ฝาสูบ หรือลูกสูบ ชำรุดได้ เสียเงินค่าซ่อมเครื่องเป็นหลักหมื่นได้ ซึ่งโดยทั่ว ๆ ไปแล้วสายพานไทม์มิ่ง หรือ สายพานราวลิ้น นี้ จะเปลี่ยนกันทุกๆ 40,000 – 100,000 กิโลเมตรแล้วแต่รุ่นของเครื่อง จากนั้นก็ทำการเช็คระบบเบรก ว่าผ้าเบรกเหลือมากน้อยแค่ไหน ถ้าเหลือน้อยมากก็ควรเปลี่ยนใหม่ดีกว่า

คอนเทนต์แนะนำ

สายเหนือเริ่มแน่น! ปชช.ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา

เปิดยิ่งใหญ่! เทศกาลอาหารสมุทรปราการ กระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี

หมอสุรัตน์ เปิดข้อมูลชัดๆดื่มแค่ไหนถึงตาย ฉะคอนเทนต์ขยะ

หลังจากนั้นเมื่อใช้รถไปได้ซักพัก ก็ให้เข้าอู่ตรวจเช็คตามระยะ เช่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก ๆ ระยะทาง 5,000 – 10,000 กม. ขึ้นอยู่กับการใช้งานและชนิดของน้ำมันเครื่องที่ใช้ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์และเฟืองท้ายทุก ๆ ระยะทาง 20,000 กม. ตรวจเช็คผ้าเบรกทุก ๆ 10,000 กม. เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกปีละ 1 ครั้ง เพราะจะทำให้เบรกมีประสิทธิภาพดีอยู่เสมอ จูนอัพเครื่องยนต์ทุก ๆ 10,000 กม. ตรวจเช็คช่วงล่างทุก ๆ 25,000 กม. และเปลี่ยนถ่ายน้ำในหม้อน้ำทุก ๆ 6 เดือน นี่ก๋เป็นวิธีคร่าวๆ ในการดูแลรถที่มีสภาพดี ใช้งานมาน้อย แค่นี้ก็จะใช้งานรถมือสองได้สบายใจแล้ว

สำหรับวิธีการเลือกรถยนต์มือสองจากเต็นท์ยังไงนั้นเราจะนำเสนอกันอีกครั้ง