การพ่วงแบตเตอรี่ที่ถูกต้องทำอย่างไร วิธีการไม่ยากทำง่ายได้ด้วยตัวเอง
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักแบตเตอรี่กันก่อน แบตเตอรี่เป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงานจากปฏิกิริยาทางเคมี เป็นพลังงานไฟฟ้า ประกอบด้วย เปลือกหม้อที่ผลิตจากวัสดุจำพวกพลาสติก แผ่นธาตุ ซึ่งประกอบด้วย แผ่นตะกั่วบริสุทธิ์และแผ่นตะกั่วอ๊อกไซด์ โดยจะมีแผ่นฉนวนกั้นระหว่างแผ่นธาตุน้ำยาหรือ Electrolite เป็นส่วนผสมของน้ำกรดกำมะถันกับน้ำกลั่น ให้ได้ ถ.พ. หรือ ความถ่วงจำเพาะตามที่กำหนด
คอนเทนต์แนะนำ
ดังนั้น แบตเตอรี่จึงเป็นอุปกรณ์สำคัญ และจำเป็นต้องใช้ในรถยนต์ มีโครงสร้างไม่ซับซ้อนนัก ซึ่งค่อนข้างมีราคา ถ้าเราไม่ได้ดูแลเอาใจใส่ หรือบำรุงรักษาให้ถูกวิธี ก็จะทำให้อายุการใช้งานสั้น ไม่คุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายไปครั้งละเป็นพันบาท
เราก็ได้รู้จักโครงสร้างของแบตเตอรี่กันไปแล้ว คราวนี้ลองมาดูกันสิว่า ช่วงนี้อากาศหนาวเย็น มีส่วนทำให้แบตเตอรี่ทำงานหนักมากกว่าปกติ รถสตาร์ทติดยาก และเป็นเหตุให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพไวในช่วงฤดูหนาว ผู้ขับขี่จึงควรหมั่นตรวจเช็กแบตเตอรี่ก่อนออกเดินทางไปไหนมาไหนให้มั่นใจว่าใช้งานได้ปกติ เพื่อป้องกันปัญหาแบตหมดจะหมดสนุก และต้องทำการพ่วงแบตเตอรี่ เพื่อเดินทางต่อ
สำหรับการพ่วงแบตเตอรี่นั้น จริง ๆ แล้วทำได้ไม่ยากเลย โดยทำตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
- ใช้สายพ่วงแบตเตอรี่คีบที่ขั้วบวก(+)แบตเตอรี่ ของรถคันที่จะนำแบตเตอรี่มาพ่วง ส่วนปลายสายอีกข้าง ก็ให้คีบที่ขั้วบวก(+)ของรถคันของเรา ที่แบตเตอรี่ไม่มีไฟ
- จากนั้น ให้ใช้สายพ่วงแบตเตอรี่อีกเส้น คีบที่ขั้วลบ(-)ของแบตเตอรี่ ของรถคันที่จะนำแบตเตอรี่มาพ่วง หรืออาจจะคีบที่โครงรถ ในจุดที่สายขั้วลบต่ออยู่กับโครงรถแทนก็ได้ ส่วนปลายสายอีกข้าง ก็ให้คีบที่ขั้วลบ(-)ของรถคันของเรา ที่แบตเตอรี่ไม่มีไฟ
- ให้เร่งเครื่องยนต์ของรถคันที่มีจะพ่วงแบตเตอรี่ให้ โดยเลี้ยงรอบเครื่องยนต์ไว้ที่ 2,000 รอบ/นาที เมื่อรอบเครื่องยนต์คันที่มาช่วยเหลือนิ่งดีแล้ว
- ให้สตาร์ทเครื่องยนต์คันของเราที่แบตเตอรี่ไม่มีไฟ เมื่อเครื่องยนต์ติดเรียบร้อยแล้วให้พ่วงแบตเตอรี่ค้างไว้แบบนั้น ประมาณ 1 – 2 นาที แล้วจึงถอดสายพ่วงออก แบบย้อนกลับ คือตอนใส่เรียงตามลำดับ จากข้อ 1-2-3-4 แต่ตอนถอดสายพ่วงออก ก็ให้ทำย้อนกลับจากขั้นตอน เป็นข้อ 4-3-2-1 คงพอเข้าใจ
เพื่อให้การเดินทางไม่สะดุด ไม่ต้องมานั่งพ่วงแบตฯ ก็หมั่นตรวจสอบแบตเตอรี่ให้พร้อมให้งานอยู่เสมอ
