แต่ละยุคแต่ละสมัย คนเราก็มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแตกต่างกันออกไป รถยนต์ก็เช่นกัน บางอุปกรณ์บางฟังก์ชัน ที่เคยเป็นเหมือนของสำคัญ หรือบางชิ้นอาจเป็นหัวใจหลักในยุคก่อน แต่มาในยุคนี้กลับขาดหายไป ไม่เจอในรถรุ่นใหม่ๆ อีกต่อไปแล้ว
ในอดีตรถแทบทุกคันจะมีอุปกรณ์จุดบุหรี่ประจำรถ บางรุ่นไฮโซเพิ่มขึ้นไปอีกด้วยที่เขี่ยบุหรี่แบบถอดเอาไปทิ้งได้ เนื่องจากในอดีตนั้นการสูบบุหรี่ของผู้คนยังไม่ได้เป็นเรื่องตระหนักถึงพิษภัยเท่ากับทุกวันนี้ ยังมีการสูบบุหรี่กันได้อย่างเสรีทั่วโลก ไม่ว่าจะในรถยนต์ หรือกระทั่งบนเครื่องบิน ที่ครั้งหนึ่งก็เคยอนุญาตให้สามารถสูบบุหรี่ได้ แต่ในทุกวันนี้เทรนด์การให้ความสนใจเรื่องพิษภัยจากควันบุหรี่ ที่เกี่ยวข้องกับคนรอบข้าง เริ่มเป็นที่ถูกพูดถึง และคนสูบบุหรี่ในที่ผู้คนหนาแน่นเริ่มไม่ถูกยอมรับ ทำให้สถานที่สาธารณะต่างๆ เริ่มห้ามสูบบุหรี่ หรือมีการจัดพื้นที่เฉพาะเอาไว้ให้สิงห์อมควันจัดการตัวเอง
ซึ่งในรถยนต์รุ่นหลังๆ ก็เช่นกัน ที่เริ่มทยอยถอดอุปกรณ์จุดบุหรี่จนหายไปในที่สุด เหลือเอาไว้เพียงช่องสำหรับชาร์จไฟ 12V เพียงเท่านั้น เอาไว้ใช้เสียบอุปกรณ์ใช้ไฟอื่นๆ แทน อาทิ กล้องบันทึกหน้ารถ รวมถึงเครื่องฟอกอากาศภายในรถอีกด้วย
นี่คือสิ่งที่เต็มไปด้วยข้อคิดเห็นโต้แย้งกันไปมาจากคนใช้รถ ยางอะไหล่ที่เริ่มขาดหายไปในรถรุ่นหลัง ถูกแทนที่ด้วยอุปกรณ์ปะยางฉุกเฉิน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้ มันมีทั้งข้อดีและข้อเสียชนิดหักกันไม่ลง สำหรับข้อเสียของยางอะไหล่ ที่ทุกคนเป็นอันรู้กัน คือเรื่องน้ำหนัก และวิธีการเปลี่ยนยางต้องมีทักษะและพละกำลังกันสักหน่อยถือจะทำสำเร็จลงได้ แต่การถอดยางอะไหล่ออกย่อมส่งผลดีต่อต้นทุนรถหนึ่งคันด้วยเช่นกัน
แล้วชุดน้ำยาปะยางฉุกเฉินที่มากับรถละ ทำไมบางคนโจมตีกันจริงจัง มาดูข้อดีกันก่อน จะเห็นว่าการใช้งานไม่ต้องใช้แรงเยอะสามารถทำได้ง่ายดายกว่าต้องเปลี่ยนล้ออะไหล่แน่นอน มีราคาที่ถูกกว่าเยอะ ตัวน้ำยาหลักร้อย ซื้อทดแทนง่าย แม้จะไม่ใช้จนหมดอายุก็เปลี่ยนกระป๋องใหม่ได้เลย ส่วนข้อเสียหลักๆ ก็คือมันมีข้อจำกัด กับลักษณะยางที่ฉีกขาด รั่วตรงแก้มยาง หรือยางที่เสื่อมสภาพ พวกนี้ไม่สามารถใช้น้ำยาอุดเพื่อเดินทางต่อได้ ต่างกับถ้ามียางอะไหล่ ไม่ว่าจะเสียหายลักษณะไหนก็สามารถเดินทางต่อได้อย่างแน่นอน
เป็นจุดที่เชื่อว่าหลายคนลืมสังเกตไปแล้ว ในอดีตรถเก๋งหรือรถขนาดเล็กแทบทุกรุ่นจะมีอุปกรณ์ที่เรียกว่าบังโคลนติดมาด้วย โดยในยุคแรกๆ เรามักพบว่าจะใช้เป็นเพียงยางสีดำ หรืออาจมีการปั๊มตราโลโก้ของค่ายรถเพื่อตกแต่งสวยงามเอาไว้ ในยุคต่อมาตัวบังโคลนเริ่มมีขนาดเล็กลงเพื่อให้ดูมีความกลมกลืนไปกับตัวรถมากขึ้น และเริ่มมีการทำสีบังโคลนให้เป็นสีเดียวกับตัวรถจนแทบจะเป็นงานชิ้นเดียวกันไปก็มี แต่สิ่งที่เริ่มเห็นในปัจจุบันรถรุ่นใหม่ๆ เริ่มไม่ใส่ใจกับอุปกรณ์ชิ้นนี้อีกต่อไปแล้ว ยกเว้นรถกระบะ หรือรถขนาดใหญ่ที่ยังพอพกพาบังโคลนออกมาจากโชว์รูมอยู่บ้าง แต่ก็เชื่อว่าเราคงไม่ได้เป็นเดือดเป็นร้อนกับการขาดหายไปของบังโคลนเท่าใดนัก เนื่องจากการใช้งานบนสภาพถนนทั่วไปบังโคลนที่ว่ามีส่วนช่วยที่ไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอันมากนัก เพราะอย่างไรซะรถก็เลอะเป็นปกติอยู่ดี
เป็นอุปกรณ์ชิ้นเล็ก ที่บางคนอาจไม่เคยเช็กหรือสังเกตว่ารถตัวเองมีหรือไม่ ในอดีตลิ้นชักหน้ารถหลายๆ รุ่นจะมีการติดตั้งไฟสำหรับหาของเอาไว้ ทำให้เวลาเปิดใช้งานในเวลาค่ำมืดก็สามารทำได้อย่างไร้ปัญหา ยกเว้นช่วงหลอดไฟขาดแค่นั้น แต่ในรถรุ่นหลังๆ หลอดไฟในลิ้นชักหน้าเริ่มถูกเอาออกไปแบบเนียนๆ แต่ก็ด้วยเหตุผลว่าในลิ้นชักหน้าไม่ได้ใส่ของจำเป็นหรือต้องเปิดปิดเพื่อหาของบ่อย (ไม่งั้นรถบางรุ่นคงไม่ตัดลิ้นชักหน้าออกไปเลยหรอกเนอะ) รวมถึงอีกเหตุผลอาจเป็นเพราะว่าในปัจจุบันทุกคนมีมือถือที่มีไฟฉายติดตัวอยู่แล้ว แต่ยังไงซะมันก็คงไม่สะดวกไปกว่าเราเปิดลิ้นชักแล้วไฟสว่างขึ้นมาทันทีเลยจริงไหม
น่าจะเดาได้ไม่ยาก อุปกรณ์นี้น่าจะหายไปพร้อมๆ กับยางอะไหล่ที่ถูกถอดออกไปจากอุปกรณ์มาตรฐานนั่นแหละ เพราะส่วนมากก็ใช้งานร่วมกันเป็นหลักอยู่แล้ว แต่บางทีอาจลืมไปว่าแม่แรงสามารถทำหน้าที่ได้หลากหลายมากกว่า ไม่ว่าจะยกเพื่อดูจุดเสียหายบางเหตุการณ์ในใต้ท้องรถได้ หรืออาจใช้ตรวจสอบควาเสียหายของโครงสร้างเบื้องต้นได้ ในกรณีเกิดการกระแทกรุนแรงที่ใต้ท้องรถ ทำให้เราหาจุดเสียหายและรีบหาอู่เพื่อซ่อมแซมได้อย่างทันท่วงที
อันนี้เชื่อว่าหลายคนรู้กันดี เพราะเป็นสิ่งที่เจ้าของรถต้องสัมผัสทุกวันอยู่แล้ว รถยุคนี้ส่วนมากหันมาใช้รีโมททั้งเปิด-ปิดประตูรถ รวมถึงสตาร์ทรถ จะมีแค่จะรถบางประเภท รวมถึงรถในรุ่นเริ่มต้นบางรุ่นเท่านั้นที่ยังหลงเหลือลูกกุญแจ และรูกุญแจสตาร์ทแบบอนุรักษ์นิยมเอาไว้ สำหรับส่วนนี้มองว่าเป็นการปรับเปลี่ยนพัฒนาที่ดีขึ้น หลายคนก็น่าจะชื่นชอบกับปุ่ม Push Start มากกว่าการบิดกุญแจ เพราะมันดูดี มีความเบากว่ากันเยอะ แต่ก็น่าเสียดายฟีลลิ่งการบิดกุญแจที่มันให้แล้วอารมณ์อีกแบบกำลังจะจางหายไปในอีกไม่นานอย่างแน่นอน