อุบัตเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด และไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น จากข่าวคราวที่โด่งดังกระทบกระเทือนจิตใจคนทั้งประเทศในช่วงที่ผ่านมา เป็นช่วงที่เด็กๆ ก็กำลังอยู่ในช่วงปิดเทอม หลายโรงเรียน และหลายครอบครัวมักจะพาบุตรหลานไปเที่ยว เปิดจินตนการ และพักผ่อนกันไปด้วย
เคยคิดหรือไม่ว่า หากรถยนต์ที่โดยสารไปนั้น เกิดยางเกิดระเบิดขึ้นในขณะที่รถกำลังวิ่งอยู่จะทำอย่างไรดี? เป็นคำถามที่ดีใช่มั้ย? กับช่วงเวลานี้ ขอหยิบเอาประเด็นนี้ขึ้นมาแชร์เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจกันอีกสักครั้ง ก่อนสายเกินแก้
เพราะในการเดินทางไกลด้วยรถยนต์ เรื่องยางรถระเบิดเป็นเรื่องที่น่ากลัวไม่ด้อยไปกว่าเรื่องของ “เบรกแตก” ทีเดียวนะ อย่าลืมว่าความเร็วที่เรามักใช้ขณะวิ่งทางไกล ส่วนใหญ่ใช้กันเกิน 100 กม./ช.ม.ทั้งนั้น น้อยคนนักที่จะขับด้วยความเร็วต่ำกว่านี้ และคิดว่าน่าจะเกินกว่าร้อยละ 50 หรือ ครึ่งต่อครึ่งของคนขับรถทางไกล ที่มักใช้ความเร็วเกินกว่า 120 กม./ช.ม.ด้วยซ้ำไป ซึ่งในความเร็วระดับนั้น หากเกิดการผิดพลาดของสิ่งใดสิ่งหนึ่งขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นที่คนหรือที่ตัวรถก็ตามที การควบคุมหรือบังคับให้รถหลีกเลี่ยงจากอุบัติเหตุ ก็จะเป็นไปได้ยากขึ้นตามไปด้วย
เมื่อรถที่กำลังขับอยู่ เกิดยางระเบิดขึ้นมากระทันหัน ให้ลองปฏิบัติตามนี้ เผื่อช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ไม่มากก็น้อย
สิ่งที่ว่ามาทั้งหมดต้องปฏิบัติในเวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้น จึงจำเป็นต้องใช้สติมากๆ ถึงมากที่สุด ทำแบบมีขั้นมีตอน และที่สำคัญคือ ต้องแข่งกับเวลา ถ้าขับรถมาด้วยความเร็วสูงมาก นั่นก็เท่ากับว่า มีเวลาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่สั้นมากด้วยเช่นกัน หรือบางครั้งอาจจะไม่มีเลย
ในบางงานวิจัยเรื่องของยางรถระเบิดขณะที่วิ่งด้วยความเร็วสูง ข้อมูลระบุไว้ว่า หากขับรถด้วยความเร็วสูงเกินกว่า 160 กม./ช.ม. หรือประมาณ 100 ไมล์/ช.ม. แล้วยางรถเกิดระเบิดขึ้น โอกาสที่รถจะพลิกคว่ำมีมากถึง 53% แต่ถ้ารถวิ่งที่ความเร็ว 96 กม./ช.ม. หรือประมาณ 60 ไมล์/ช.ม. แล้วยางเกิดระเบิด โอกาสที่จะทำให้รถพลิกคว่ำทันทีทันใด มีเพียง 11% เท่านั้น นั่นก็แสดงให้เห็นว่ายิ่งขับช้ายิ่งปลอดภัย เพราะฉะนั้นเวลาขับรถเดินทางไกล ขับแบบเรื่อย ๆ ถึงช้าดีกว่าไปไม่ถึงนะ!