เปิดตัว NEW Mitsubishi Xpander Cross รถยนต์เอสยูวี 7 ที่นั่ง มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่ “เอวายซี” (Active Yaw Control: AYC) ให้ความปลอดภัย เสถียรภาพการทรงตัว และความสะดวกสบายในหลากหลายสภาพถนนและสภาพอากาศที่แตกต่าง
มร. เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เปิดตัวครั้งแรกในไทยเมื่อปี 2561 โดยนับเป็นการปฏิวัติวงการ ที่ทำให้เกิดเซ็กเมนต์ใหม่ในตลาด ซึ่งก็คือตลาดรถเอ็มพีวีในวันนี้ และนับแต่นั้นเป็นต้นมา มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ก็ครองตำแหน่งแชมป์ตลาดเอ็มพีวี ในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดรถยนต์เอ็มพีวีก็มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี”
Mitsubishi Xpander ออกแบบโดยดึงจุดเด่นที่เป็นดีเอ็นเอสำคัญของ Pajero Sport มาผสมผสานกับรถคอมแพกต์เอสยูวี และกลายเป็น รถครอสโอเวอร์ และได้รับการพัฒนามาเป็น Mitsubishi Xpander Generation 2 ที่เปิดตัวครั้งแรกในงานมอเตอร์ โชว์ เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2565 พร้อมกับเกียร์ CVT ใหม่ ช่วงล่างและระบบกันสะเทือนที่ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงใหม่
NEW Mitsubishi Xpander Cross มาพร้อมรูปลักษณ์ใหม่ทั้งไฟหน้าจรดไฟท้าย ดีไซน์ด้านหน้ารถแบบ Advanced Dynamic Shield เอกลักษณ์เฉพาะตัว ให้อารมณ์เอสยูวีหรูผสานความดุดัน ไฟหน้าแบบ LED ยกชุด ทั้งไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (DRL) แบบ LED ไฟเลี้ยว LED และไฟตัดหมอก LED ไฟท้ายแบบ LED และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ติดตั้งตำแหน่งสูงเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยขณะขับขี่ช่วงเวลากลางคืน
ล้ออัลลอยสปอร์ตทูโทนขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และซุ้มล้อแบบ “ครอสดีไซน์” (CROSS Design) หลังคาสีดำและราวหลังคาสีดำ
• สีเขียว (Green Bronze Metallic) ใหม่!
• สีขาวมุก (Quartz White Pearl)
• สีเงิน (Blade Silver)
• สีเทา (Graphite Gray)
พร้อมกับมีสีทูโทนอีก 2 สไตล์ ได้แก่ สีเขียวหลังคาดำ (Green Bronze Metallic with Black Roof) และสีขาวหลังคาดำ (Quartz White Pearl with Black Roof) ให้ลูกค้าเลือกสรร
ภายในห้องโดยสารของ NEW Mitsubishi Xpander Cross ตกแต่งด้วยเบาะหนังที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนสีทูโทน ดำ-น้ำเงิน ออกแบบแผงควบคุมด้วยแนวคิด Horizontal Axis จอแสดงข้อมูลการขับขี่ (Dashboard) แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว แสดงผลข้อมูลที่จำเป็นครบครัน และพวงมาลัย 4 ก้านหุ้มหนังดีไซน์ใหม่ พร้อมสวิตช์ควบคุมระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัย (Cruise Control) สวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียง และปุ่มรับสาย-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย
หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Bluetooth และการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ระบบเบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Brake Auto Hold ช่องต่ออุปกรณ์ USB-A และ USB-C ช่องจ่ายกระแสไฟ DC 12 โวลต์ ระบบปรับอากาศด้านหลังแบบแยกอิสระ พร้อมแผงควบคุมและช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง กระจกมองหลังแบบตัดแสงสะท้อนอัตโนมัติ และระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ และระบบปรับอากาศแบบดิจิตอลที่มีแผ่นกรองอากาศ PM 2.5
เทคโนโลยีช่วยเสริมความปลอดภัยขณะเข้าโค้ง “เอวายซี” (Active Yaw Control: AYC) ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ช่วยควบคุมการขับเคลื่อนให้เข้าโค้งได้กระชับแม่นยำ ปลอดภัยกว่าด้วยการควบคุมการขับเคลื่อนและการเบรกของล้อหน้าด้านซ้ายและด้านขวา เพิ่มสมรรถนะการเข้าโค้งและรักษาเสถียรภาพการขับขี่ได้ดีบนถนนที่เปียกลื่น
ระบบความปลอดภัยอื่นๆ ประกอบด้วย
• ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Active Stability Control: ASC)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (Traction Control System: TCL)
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist: HSA)
• ระบบไฟกระพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ (Emergency Stop Signal System: ESS)
• ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
• คานเหล็กนิรภัยกันกระแทกบริเวณแผงประตูและการออกแบบตัวถังด้านหน้าช่วยลดความรุนแรงจากแรงกระแทกของรถที่เกิดขึ้นกับคนเดินถนน
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ MIVEC DOHC 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ ECO-Dynamic CVT
ราคา 946,000 บาท ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นเพียง 7,000 บาทจากรุ่นเดิม