รถหรูนั่งสบาย สายชิลชอบ ยกไปทั้งครอบครัว ในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41" หรือ Motor Expo 2024 ต้องขอบอกว่า ส่วนใหญ่เรามักจะเห็นเหล่าบรรดาผู้เข้าชมงานไปเดินชมรถยนต์กัน นอกจากไปเป็นคู่แล้ว บางบ้านยกกันไปไปทั้งครอบครัว ว่าง่ายๆ ไปทั้งบ้าน ทั้งพ่อ แม่ ลูก และคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยายไปกันครบ ตัดสินใจทีเดียว โดยเฉพาะอำนาจจะอยู่ที่คุณภรรยา และคุณลูกซะเป็นส่วนใหญ่ก็ตาม คุณสามีมีหน้าที่จ่ายเงินอย่างเดียว จริงหรือไม่จริง ไปชมรถที่ทั้งครอบครัวนั่งกันได้ครบๆ กันดีกว่า
Denza D9
รถตู้อเนกประสงค์ (MPV) ที่มาพร้อมดีไซน์ซึ่งสะท้อนความโมเดิร์นและความหรูหรา เทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงระบบความปลอดภัยและระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ มอบประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์และความมั่นใจให้กับทุกการเดินทาง มาพร้อมกับสมรรถนะอันเป็นเลิศจากมอเตอร์ไฟฟ้าทรงพลังที่ให้กำลังสูงสุดถึง 275 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนด้วยพลังงานจาก BYD Blade Battery ขนาด 103.36 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 580 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC โดยเรเว่ ออโตโมทีฟ ภายใต้กลุ่มธุรกิจเรเว่ได้เปิดตัว DENZA D9 อย่างเป็นทางการไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พร้อมทั้งประกาศราคาจำหน่ายแนะนำสำหรับ 2 รุ่นย่อย ได้แก่ DENZA D9 Performance AWD ราคา 2,699,900 บาท และ DENZA D9 Premium ราคา 1,999,900 บาท ซึ่งเป็นราคาพิเศษเฉพาะผู้ที่จองตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 - 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567 และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เท่านั้น
GAC M8 PHEV
GAC Aion เปิดสิทธิ์รับจอง GAC M8 PHEV ภายในงาน คาดการณ์ราคาจำหน่ายไม่เกิน 3 ล้านบาท ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 2.0 ลิตร TGDI 4B20J2 ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิด 330 นิวตันเมตร ชคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหน้า ให้พละกำลังที่ 182 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบลิเธียมไออออนขนาด 25.5 kWh ทำงานร่วมกันได้แรงม้ารวม 373 แรงม้า แรงบิด 630 นิวตันเมตร วิ่งโหมดไฟฟ้าได้ 106 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTC รวมการทำงานทุกระบบวิ่งได้ไกลถึง 1,032 กิโลเมตร ให้ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กับอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 8.8 วินาที เบาะนั่งหนังแท้ 7 ที่นั่งโดยเบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 12 ทิศทาง และฝั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
GWM WEY 80 PHEV
GWM WEY 80 PHEV Executive Extended Edition ยานยนต์พลังงานใหม่อเนกประสงค์ระดับไฮเอนด์วีไอพี ด้วยมิติตัวรถ 5,405 x 1,960 x 1,890 มิลลิเมตร เบาะนั่งคู่เต็มตัวสไตล์กัปตัน (Double Full-Size Captain’s Seats) ทั้ง 3 แถว รองรับสรีระผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิ ระบบระบายอากาศ ระบบเบาะนวดไฟฟ้า และระบบลอยตัวในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง มาพร้อม “เพดานดวงดาว” ตกแต่งด้วยจุดแสงดวงดาวมากถึง 830 จุด ระบบกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่นำเสนอกลิ่นมาให้ถึง 3 รูปแบบ กับตู้เย็นขนาดใหญ่แบบสองประตูที่ถูกออกแบบมาได้อย่างมีเอกลักษณ์กับฝาเปิดแบบที่พักแขนสำหรับเบาะนั่งแถวหน้าและแบบลิ้นชักสำหรับผู้โดยสารแถวหลัง ระบบเสียงพรีเมียมจาก Harman Kardon กับลำโพงจำนวน 20 ตำแหน่ง เปลี่ยนทุกการเดินทางให้เป็นประสบการณ์เสียงระดับมาสเตอร์พีซ เครื่องยนต์เทคโนโลยีไฮบริดใหม่ล่าสุด 1.5T กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ “Hi4 Performance Edition” ทำงานร่วมกับมอเตอร์คู่ด้านหน้าและด้านหลังที่ให้พละกำลังสูงสุด 337 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 644 นิวตันเมตร ทำให้สามารถเร่งความเร็วจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในเวลาเพียง 5.7 วินาที นอกจากนี้ยังมีอัตราการใช้น้ำมันรวมตามมาตรฐาน WLTC อยู่ที่ 0.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร รวมถึงยังประหยัดน้ำมันภายใต้สภาวะที่แบตเตอรี่หมด โดยมีอัตราการใช้น้ำมันอยู่ที่ 7.2 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTC อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีระบบนำทางอัจฉริยะ Coffee Pilot ที่มาพร้อมกับระบบช่วยขับขี่หลายรูปแบบ
Hyundai Staria
ปรับไปใช้โลโก้แบรนด์แบบใหม่สองมิติ และยังมีกุญแจดีไซน์ใหม่ในรูปทรงของโลโก้ฮุนได เช่นเดียวกับ ฮุนได สตาร์เรีย ยูโร 5 รุ่นอื่น ส่วนล้ออัลลอยด์มีขนาด 17 นิ้ว สำหรับอุปกรณ์อื่นในห้องโดยสารมีทั้ง ช่องชาร์จแบบ USB Type C, ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย ผู้ขับขี่สามารถอ่านข้อมูลการขับขี่อย่างชัดเจน ผ่านหน้าจอแสดงผลความละเอียดสูงแบบ LCD ขนาด 4.2 นิ้ว ทั้งยังปลอดภัยและสะดวกสบายในทุกการจอดกับ เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold มีอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยหลายรายการ พร้อมให้การปกป้องผู้โดยสารทุกที่นั่ง ด้วยเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 11 ที่นั่ง, จุดติดตั้งคาร์ซีทสำหรับเด็ก ISOFIX จำนวน 2 จุด, เซ็นเซอร์กะระยะเข้าจอด (หน้า / หลัง), ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESC, ระบบควบคุมเสถียรภาพเมื่อมีลมปะทะข้างตัวรถ CSC, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC, ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา BSW และ ถุงลมนิรภัย 6 จุดพร้อมม่านถุงลมนิรภัย เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ขนาด 2.2 ลิตร ซึ่งได้รับการพัฒนาให้ผ่านมาตรฐาน ยูโร 5 และติดตั้งมาในทุกรุ่นย่อยของ ฮุนได สตาร์เรีย โดยยังคงมอบสมมรรถนะเต็มระดับเท่าเดิมด้วย กำลังสูงสุด 175 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 431 นิวตันเมตร แต่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยิ่งกว่า ด้วยอัตราการสร้างมลพิษลดลง ทั้งยังเปลี่ยนเกียร์อย่างนุ่มนวลผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อม Paddle Shift ราคาเริ่มต้นเพียง 1,659,000 บาท
Kia Carnival
The Kia Carnival รถยนต์เอ็มพีวีระดับลักซ์ชัวรี ซึ่งเป็น Grand Utility Vehicle ที่ได้รับการออกแบบให้เหมาะกับทุกครอบครัว มอบประสบการณ์การเดินทางระดับพรีเมียม โดดเด่นในด้านความอเนกประสงค์ที่ผสานนวัตกรรมพื้นที่ใช้สอย ความสะดวกสบาย คุณภาพ และสไตล์อันโดดเด่นไว้ด้วยกันได้ มีให้เลือกทั้งแบบ 11 ที่นั่ง ใน 3 รุ่นย่อย คือ The Kia Carnival LX, The Kia Carnival EX และ The Kia Carnival SXL และรุ่นใหม่ 7 ที่นั่ง ในรุ่น The Kia Carnival SXL Luxury เหมาะกับครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกในครอบครัว 5-7 คน มาพร้อมประตูสไลด์แบบไฟฟ้าระบบ Smart power Sliding door และฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (เปิด-ปิดอัตโนมัติ) ด้วยระบบ Smart power tailgate ที่ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเดินเข้าที่นั่งแถวหลังได้อย่างสะดวกสบาย และสามารถเปิดท้ายรถได้อย่างง่ายดายในขณะที่ถือสัมภาระ The Kia Carnival มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล Smartstream ขนาด 2.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 202 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร สามารถขับขี่เป็นระยะทางไกลได้โดยไร้ข้อกังวล นอกจากนี้ยังมีระบบการควบคุมการขับขี่ที่ช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายเหมือนขับรถยนต์นั่งโดยสารทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทัศนวิสัย ตำแหน่งที่นั่ง รวมถึงระบบกันสะเทือนและระบบควบคุมพวงมาลัยที่ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างนุ่มสบาย ราคาเริ่มต้น 1,659,000 - 2,419,000 บาท
Lexus LM
Lexus LM ยนตรกรรมระดับหรูยอดนิยมในกลุ่มมินิแวน ที่มาพร้อมกับความคล่องแคล่ว หรูหรา และสง่างาม พร้อมที่จะมอบสุดยอดประสบการณ์ “Omotenashi” สร้างสภาพแวดล้อมอันผ่อนคลาย ราวกับว่าอยู่ภายในห้องสวีทของโรงแรมสุดหรู หรือห้องทำงานเคลื่อนที่ ให้สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการผ่อนคลาย ทั้งร่างกายและจิตใจ และพื้นที่สำหรับแรงบันดาลใจเชิงบวก ทั้งด้านความคิดและการกระทำ ให้ความหรูหราเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล สะท้อนวิสัยทัศน์ “Making Luxury Personal” ของเลกซัส มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการที่หลากหลาย อาทิ จอส่วนตัว Personalized Screen แยกการนำเสนอเนื้อหาแต่ละบุคคล พร้อมระบบเครื่องเสียงแบบ 2-Zone Audio System แยกระบบเสียงด้านหน้าคนขับและด้านหลัง สามารถรับฟังคอนเทนท์ที่แตกต่างกันได้โดยไม่รบกวนซึ่งกันและกัน หลังคา Moon roof หน้าจอแสดงผล ระบบปรับอากาศแบบแยกโซนสามารถควบคุมได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสด้วย Overhead Control และแท็บเล็ตสั่งการด้านหลัง Removable Touchscreen Rear Controller ราคา Lexus LM 350h Executive 7-Seater ราคา 6,290,000 บาท Lexus LM 350h Executive 4-Seater ราคา 7,590,000 บาท Lexus LM 500h Executive 6-Seater ราคา 6,990,000 บาท และ Lexus LM 500h Executive 4-Seater ราคา 8,290,000 บาท
Mercedes-Benz V 300 d Exclusive
วางจำหน่ายในราคา 5,820,000 บาท เป็นรถแวนอเนกประสงค์ 6 ที่นั่ง ในตระกูล V-Class เป็นรุ่นนำเข้ามาตรฐานยุโรป ออกแบบมาเพื่อเป็นรถสำหรับครอบครัว หรือผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย และความหรูหราระดับเฟิร์สคลาส มาพร้อมการตกแต่งภายในที่พิถีพิถัน พื้นที่กว้างขวาง ฟังก์ชั่นการใช้งานที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร สมรรถนะและการขับขี่ที่ดีเยี่ยม รวมถึงเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยตามแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เจเนเรชั่นใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 1,950 ซีซี สามารถรีดพละกำลังสูงสุด 237 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ได้ในระยะเวลา 7.4 วินาที มีความเร็วสูงสุดโดยประมาณที่ 220 กม./ชม. โดยมีระบบส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 9 จังหวะ (9G-TRONIC) ที่มีจุดเด่นในการรักษาระดับการทำงานของรอบเครื่องยนต์ให้ต่ำ และช่วยให้จังหวะการเร่งเครื่องมีความต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น
MG Maxus 9
ถือเป็นรถตู้แบบหรู หรือ MPV 7 ที่นั่ง ที่เป็นพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกอย่างเป็นทางการในประเทศไทยก็ว่าได้ ถือเป็นการเปิดมิติใหม่ของรถยนต์พลังงงานไฟฟ้าในกลุ่มนี้ (สเปค MG Maxus 9) ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้ต้องบอกว่ามันเป็นรถที่มีขนาดกำลังดี ไม่ใหญ่จนดูเทอะทะหรือเกะกะเกินไปในขณะขับขี่ เมื่อรวมกับการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ทำให้รถมีพละกำลัง และแรงบิดมาในรอบต่ำ ยิ่งทำให้มันกลายเป็นรถตู้ที่มีความคล่องตัวในระดับที่ดีเลยทีเดียว ที่นั่งตอนหลังของ MG Maxus 9 ต้องบอกว่ามันคือไฮไลท์สำคัญของรถรุ่นนี้ก็คงไม่ผิด เนื่องจากรถกลุ่มนี้ส่วนมากจะเน้นใช้งานในพื้นที่โดยสารเป็นหลัก อุปกรณ์ความสะดวกสบายมีมาให้ค่อนข้างครบครัน พื้นที่กว้างขวาง เรียกได้ว่าที่นั่งตอนหลังคือเหยียดยืดขาได้แทบสุดเลยทีเดียว เบาะนั่งแบบนวดได้ วัสดุในงานประกอบถือว่าเป็นเกรดพรีเมียม มีผิวสัมผัสที่ดีทีเดียว แต่สำหรับการตกแต่งในที่นั่งตอนหน้า แผงคอนโซล ผมยังมองว่าเป็นการออกแบบที่ไปทางทันสมัยเสียมากกว่า จึงทำให้ลดทอนความหรูหราลงไปไม่น้อย เนื่องจากทาง MG เน้นดีไซน์ให้ดูโปร่งและเรียบง่าย อันนี้เลยต้องบอกว่าแล้วแต่มุมมองจริงๆ แต่ส่วนตัวผมอยากให้มันหรูหราขึ้นกว่านี้อีกหน่อยในส่วนของตำแหน่งผู้โดยสารตอนหน้าเคาะราคาเริ่มต้นที่ 2,499,000 บาท
Nissan Serena
ราคา 1,469,000 บาท เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ที่ให้พลังแรง 150 แรงม้า (PS) และแรงบิด 200 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ให้การขับขี่ที่ราบรื่น เครื่องยนต์แบบ S-Hybrid (mild hybrid) จะทำงานร่วมกับ ECO Motor ที่ให้ทั้งความสนุกจากการตอบสนองทันใจ และประหยัดเชื้อเพลิง ประตูสไลด์อัตโนมัติพร้อมระบบแฮนด์ฟรี ช่วยให้เข้าออกจากรถได้สะดวกแม้ในขณะที่มือไม่ว่าง นิสสัน เซเรน่า ใหม่ ยังเป็นรถ MPV รุ่นเดียวในตลาดที่มีฝาท้ายอเนกประสงค์ (Dual Back Door) น้ำหนักเบา จึงเปิดได้ง่ายทั้งแบบเต็มบาน หรือครึ่งบาน เพิ่มความสะดวกแก่ผู้โดยสาร และผู้ขับขี่ให้สามารถเปิดฝาท้ายได้แม้จอดชิดด้านหลัง ภายในรถ เบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถปรับได้อิสระและแยกออกจากกันได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ระหว่างที่นั่ง ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเคลื่อนไหวได้สะดวก แต่ยังคงมีความเป็นส่วนตัวสูง ส่วนที่นั่งแถว 3 สามารถปรับเอนได้เพิ่มความสบายในการเดินทางระยะไกล นอกจากนี้ ยังมีที่เก็บของหลายจุด ที่วางแก้ว 14 จุด ช่องเสียบ USB 6 ช่อง (ที่นั่งแถวละ 2 จุด) ระบบแอร์แยกส่วนที่ผู้โดยสารสามารถปรับอุณหภูมิได้ตามความต้องการเฉพาะตัว โต๊ะเล็กอเนกประสงค์ในแถวที่ 2 สำหรับวางสิ่งของ
Xpeng X9
ราคา 2,790,000 บาท เปิดรับจองสิทธิ์ พร้อมส่งมอบตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2568 เอสยูวีไฟฟ้าอัจฉริยะ ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากนักเขียนนิยาย ไซ-ไฟ (Sci-Fi) แบ่ง 2 รุ่นย่อย คือ G6 Standard Range ชาร์จไฟเต็ม ขับได้ไกลสุด 505 กิโลเมตร (NEDC) และ G6 Long Range ชาร์จไฟเต็ม ขับได้ไกลสุด 625 กิโลเมตร (NEDC) มาพร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ 800 โวลต์ SiC Architecture ทั้งในส่วนระบบขับเคลื่อนและแบตเตอรี่ ส่งผลให้กินกระแสไฟต่ำ ความร้อนสะสมน้อย และประสิทธิภาพโดยรวมสูงแบตเตอรี่ 800 โวลต์ SiC Architecture รองรับความเร็วในการชาร์จสูงสุดถึง 330 กิโลวัตต์ โครงสร้างตัวถังสถาปัตยกรรม SEPA2.0 ที่พัฒนาโดย เอ็กซ์เผิง รูปลักษณ์ได้แรงบันดาลใจจากยานอวกาศ (Starship) ห้องโดยสารกว้างขวาง มีพื้นที่ใช้สอยมากถึง 7.7 ตารางเมตร ผสาน Zero-gravity Seat หรูหรา มีระดับ โดยที่เบาะแถว 3 สามารถพับแบนราบด้วยระบบไฟฟ้า ปรับเปลี่ยนการโดยสารเป็นแบบ 4 หรือ 7 ที่นั่ง ได้ตามต้องการ ติดตั้งจอภาพขนาด 21.4 นิ้ว รองรับความบันเทิงเต็มรูปแบบ ขับกล่อมด้วยลำโพง Xopera 23 ตำแหน่ง ติดตั้งชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8295 เด่นด้วยระบบเลี้ยว 4 ล้ออัตโนมัติ ช่วยให้วงเลี้ยวแคบเพียง 5.4 เมตร คล่องตัวสูงสุดเทียบกับรถกลุ่มเดียวกัน มาพร้อมช่วงล่างถุงลม Dual-Chamber ปรับสูง-ต่ำและความหนืดอัตโนมัติ
ZEEKR 009
รถเอ็มพีวีไฟฟ้าเซกเมนต์ลักชูรีที่ผสานความหรูหราระดับเฟิร์สคลาส และนวัตกรรมสุดล้ำอย่างลงตัว สามารถวิ่งได้ไกลถึง 686 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ในการชาร์จเพียงครั้งเดียว ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง รองรับผู้โดยสารได้ 6 คน พิเศษด้วยเบาะที่นั่งผู้โดยสารแถวสองแบบ Sofaro First Class Airline Seats พร้อมโหมดการการปรับแบบ Eames Lounge Chair Mode ที่สามารถปรับเอนนอนได้เพียงปุ่มเดียว และโต๊ะแบบพับเก็บได้ เบาะนั่งบุด้วยหนัง Nappa แบบนุ่ม เบาะนั่งคนขับ ผู้โดยสารด้านหน้าและผู้โดยสารแถวสองมาพร้อมระบบนวดไฟฟ้า มีหน้าจอ OLED แบบทัชสกรีนขนาด 15.05 นิ้ว และหน้าจอเสมือนบนกระจก AR HUD ขนาด 35.95 นิ้ว พร้อมหน้าจอเพดาน สำหรับผู้โดยสารด้านหลังแบบ Touch Screen OLED ขนาด 17นิ้ว ตกแต่งหรูหราพร้อมอุปกรณ์ครบครัน ทั้งไฟ Ambient Light พร้อมกับระบบเสียงรอบทิศทางจาก YAMAHA ทั้งหมด 30 ตำแหน่ง ระบบกันสะเทือนแบบถุงลมประสิทธิภาพสูง พร้อมระบบ CCD Electromagnetic Damping รองรับการเดินทางสำหรับครอบครัวหรือผู้บริหารได้อย่างสมบูรณ์แบบ ราคาเริ่มต้น 3,099,000 บาท
ครอบครัวไหนยังชมไม่จุใจ ยังพอมีเวลา สามารถไปทดลองนั่งรถคันจริงกันได้ที่งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41" หรือ Motor Expo 2024 ที่ อาคารชาลเลนเจอร์ Impact เมืองทองธานี ได้ตั้งแต่วันนี้ - 10 ธันวาคม 2567