MG IM6 จัดโปรฯ เดือด เฉพาะเดือนเม.ย. กับ PRIME PACKAGE กว่า 1.5 แสนบาท

11 เม.ย. 68

13:12 น.

แชร์

MG IM6 รถ e-SUV ระดับบนจาก MG ที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างดี จากในงาน Motor Show 2025 ที่เพิ่งผ่านไป รอบนี้มีการอัพเดทโปรโมชันสำหรับคนที่จองและรับรถ New MG IM6 ภายในเดือนเมษายน 2568 นี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เอ็มจียิ้ม! ยอดจอง MG S5 EV และ MG IM6 ในงานมอเตอร์โชว์กว่า 1,200 คัน

พรีวิว MG IM6 รถยนต์ EV ที่จะเป็นตัวแทนความไฮเทคของ MG ในอนาคต

เคาะแล้ว! NEW MG IM6 เปิดตัวและราคาอย่างเป็นทางการเริ่ม 1,399,900 บ.

ราคา MG IM6

MG IM6 (Premium 2WD) 1,399,900 บาท
MG IM6 (Performance AWD) 1,799,900 บาท

จองและรับรถ NEW MG IM6 ภายในเม.ย. 68 รับ PRIME PACKAGE มูลค่ารวมกว่า 150,000 บาท*

MG SHIELD ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. นาน 2 ปี มูลค่า 72,000 บาท
รับ IM MAG HUB PACKAGE มูลค่า 17,380 บาท
MG HOME CHARGER พร้อมติดตั้ง มูลค่า 38,500 บาท
บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนระดับพรีเมียม นาน 5 ปี มูลค่า 12,500 บาท
ค่าบริการระบบปฏิบัติการ i-SMART นาน 5 ปี มูลค่า 7,450 บาท
บริการค่าจดทะเบียน กรอบป้ายทะเบียน และชุดพรมปูพื้น มูลค่า 8,385 บาท
สิทธิพิเศษ การบริการ PREMIUM FAST LANE
สิทธิพิเศษ การบริการ PREMIUM CALL CENTRE
ดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% นาน 48 เดือน
รับประกันแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชุดควบคุม ตลอดอายุการใช้งาน
รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

*เงื่อนไขรายการส่งเสริมการขาย เป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ดีไซน์และโครงสร้าง

มิติตัวถัง 4,904 x 1,988 x 1,669 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง)
ระยะความยาวฐานล้อ 2,950 มิลลิเมตร
กระจกข้างแบบไร้กรอบ พร้อมกระจกรอบคัน 2 ชั้น
ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
ไฟหน้า ไฟท้าย และ ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
ระบบควบคุมการ เปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
กระจกมองข้างพับ และปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
หลังคากระจกพาโนรามิก
ที่เปิดประตูแบบเก็บซ่อนในตัวรถ (Hidden Door Handle)
ล้ออัลลอย ขนาด 21 นิ้ว สำหรับรุ่น Performance AWD และขนาด 20 นิ้ว สำหรับรุ่น Premium 2WD

ระบบขับเคลื่อนและสมรรถนะ

NEW MG IM6 ใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor โดยมีสองรุ่น:

Premium 2WD มอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 295 แรงม้า และแรงบิด 450 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที แบตเตอรี่ 75 kWh วิ่งได้ 550 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (NEDC)
Performance AWD มอเตอร์คู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลังสูงสุด 787 แรงม้า และแรงบิด 802 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.48 วินาที และความเร็วสูงสุดมากกว่า 240 กม./ชม. แบตเตอรี่ 100 kWh วิ่งได้ 634 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (NEDC)
รองรับ Quick Charge 10-80% ในเวลาน้อยกว่า 20 นาที และระบบ V2L สำหรับจ่ายไฟให้เครื่องใช้ไฟฟ้า
ระบบ Cooling system เจนเนอเรชั่นใหม่ ที่สามารถระบายความร้อนได้ 15 องศาเซลเซียส ภายในเวลา 30 วินาที
แบตเตอรี่ 12V แบบ Lithium- ion
ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 10% - 80% ใช้เวลาน้อยกว่า 20 นาที* ด้วยแรงดันไฟฟ้า 800 โวลต์ รองรับการชาร์จแบบกระแสตรงสูงสุด 396 kW
รองรับระบบ V2L สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสูงสุด 6.6 kW

*ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า

ทั้งสองรุ่นใช้ระบบช่วงล่างถุงลม (Intelligent Air Suspension) และระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อ นอกจากนี้ยังมีโหมดขับขี่ 6 รูปแบบ รวมถึง Super Eco ที่ช่วยดึงพลังงานสำรองจากแบตเตอรี่มาใช้เพิ่มอีก 80 กิโลเมตร

ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 2 ระดับ
รัศมีวงเลี้ยว 5.09 เมตร
ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมช่องระบายความร้อน จาก Continental
ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ Double Wishbone พร้อมระบบถุงลม และด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงค์พร้อมระบบถุงลมสำหรับรุ่น Performance AWD
ระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้ออัจฉริยะ (Intelligent Four-Wheel Steering System)
ระบบ One Touch iAD ที่ช่วยในการถอยจอดด้านข้าง (One Touch Side Parking) ด้วย Crab Mode ที่สามารถปรับมุมทั้ง 4 ล้อแล้วสไลด์เข้าจอดได้ รวมถึงการจอดและออกจากช่องจอดรถในพื้นที่จำกัด (One Touch Escape) และการถอยหลังอัตโนมัติเมื่อขับเจอซอยตัน (One Touch Traceback)
ระบบการขับขี่ 6 โหมด ได้แก่ Eco / Comfort / Sport / Snow / Custom และ Super Eco ซึ่งจะดึงไฟสำรองจากแบตเตอรี่มาใช้อีก 80 กิโลเมตร
ระบบช่วงล่างถุงลมอัจฉริยะ (Intelligent Air Suspension) สามารถปรับสูง-ต่ำได้ 3 ระดับ ได้แก่ ระดับความสูงปกติ (Standard) ปรับเตี้ยลง 5 เซนติเมตร และปรับสูงขึ้น 2 เซนติเมตร พร้อมปรับการทำงานอัตโนมัติตามรูปแบบการขับขี่