เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดตัวรถ 4 รุ่นจาก 4 แบรนด์ที่งานปักกิ่ง ออโต้โชว์
GWM เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดตัวรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่เทคโนโลยีระดับโลก ไฮไลท์ 4 รุ่น 4 แบรนด์ ได้แก่ GWM TANK 700 Hi4-T รถยนต์ออฟโรดระดับพรีเมียมรุ่นเรือธง และ GWW SAHAR POER Hi4-T รถกระบะออฟโรดขุมพลังไฮบริดคันแรกของโลก เสริมทัพด้วย GWM HAVAL H6 4th Generation รถยนต์คอมแพคเอสยูวีโฉมใหม่ยอดขายติดอันดับทั่วโลกอยู่ใน 10 อันดับแรกในกลุ่มรถยนต์คอมแพคเอสยูวีเป็นระยะเวลา 5 ปีซ้อน และ GWM WEY 80 รถสำหรับทุกคนในบ้าน มาพร้อมฟังก์ชันและความหรูหราแบบครบครัน ที่งานปักกิ่ง ออโต้โชว์ ครั้งที่ 18
คอนเทนต์แนะนำ
ขนทัพรถยนต์ไฮไลท์รวม 4 รุ่น
GWM TANK 700 Hi4-T
GWM TANK 700 Hi4-T รถออฟโรดเทคโนโลยีไฮบริด ขนาดที่ยาวกว่า 5 เมตร และกว้างมากกว่า 2 เมตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 3.0T Hi4-T เครื่องยนต์หลายสูบและมอเตอร์ไฟฟ้า P2 ให้กำลังรวมสูงสุด 385 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร (850 นิวตันเมตร สำหรับรุ่น Limited Edition) และอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลาไม่ถึง 5 วินาที อีกทั้งยังมาพร้อมกับโหมดการขับขี่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทุกเส้นทางมากถึง 12 โหมด และสามารถลุยน้ำได้สูงสุดถึง 970 มิลลิเมตร ภายในของ GWM TANK 700 Hi4-T เบาะนั่ง Light Cloud ทำจาก หนัง BADER NAPPA จากเยอรมนี มุมกว้างพิเศษ เบาะด้านหน้าสามารถปรับระดับได้ถึง 156 องศา และ 141 องศา สำหรับเบาะด้านหลัง ที่วางขาสามารถปรับได้ 2 ทิศทาง ที่ดันหลังปรับได้ 4 ทิศทาง ระบบระบายอากาศของเบาะปรับได้ 3 ระดับ พร้อมระบบปรับอากาศ 9 ระดับ ร่วมกับระบบเสียงจาก Harman Kardon ที่มาพร้อมลำโพง 16 ตัวที่สร้างความละเอียดเสียงระดับ Hi-Fi (High Fidelity) มีระบบเก็บเสียงผนึกประตูข้างถึง 3 ชั้น และประตูด้านหลังถึง 2 ชั้น พร้อมกับกระจกที่ป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกหนา 5 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับระบบลดเสียงของ Harman Kardon ทำให้ห้องโดยสารเงียบแม้จะขับขี่ที่ความเร็วสูงถึง 199 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
GWM SAHAR POER Hi4-T
กระบะออฟโรดขุมพลังไฮบริดระดับไฮเอนด์ลักซ์ชัวรี่คันแรกของโลก มาพร้อมกับ GWM Hi4-T Off-road Super Hybrid Architecture ที่พัฒนาโดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ ผสมผสานพลังงานน้ำมันและพลังงานไฟฟ้าเข้าไว้ด้วยกัน เครื่องยนต์ที่มีเสถียรภาพและมอเตอร์ที่มีความแข็งแกร่ง การขับขี่ทั้งทางเรียบและออฟโรด ร่วมกับการลดการใช้พลังงานน้ำมันและพลังงานไฟฟ้าถึงสองเท่า เครื่องยนต์ 2.0T เกียร์ 9HAT และมอเตอร์ไฟฟ้า P2 ให้กำลังรวมสูงสุด 300 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร และอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 7.15 วินาที ร่วมกับโหมดการขับขี่ถึง 3 โหมด ได้แก่ โหมดไฟฟ้าล้วน โหมดไฮบริด และโหมดอัจฉริยะ เมื่อระดับแบตเตอรี่อยู่ต่ำกว่า 13.5% ระบบจะเปลี่ยนเป็นไฮบริดโดยอัตโนมัติ และเมื่ออยู่ในระบบไฮบริดและแบตเตอรี่ต่ำกว่า 10% รถจะเปลี่ยนเป็นการขับเคลื่อนเป็นเครื่องยนต์โดยอัตัโนมัติ และทำการชาร์จพลังงานเข้าแบตเตอรี่ สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนในระยะ 100 กิโลเมตร โดยในการขับขี่ทางไกล อัตราการสิ้นเปลืองพลังงาน 2.5 ลิตรต่อ 100 กิโลแมตร โดยสามารถวิ่งได้ไกลถึง 780 กิโลเมตร มีการใช้มอเตอร์ไฟฟ้า P2 ให้กำลังสูงสุด 120 กิโลวัตต์ต่อ 400 นิวตันเมตร ให้ประสิทธิภาพมากกว่า 96% ไม่ว่าจะอยู่ในภาวะแรงกดอากาศสูงและอุณหภูมิต่ำ
GWM HAVAL H6
รถยนต์เอสยูวีที่สามารถเข้ากับสถานการณ์ได้อย่างหลากหลาย เหมาะกับครอบครัวของคนรุ่นใหม่ GWM HAVAL H6 ในเจนเนอเรชัน 4 นี้ ได้รับการเปลี่ยนโฉมใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Star River Aesthetics” หรือความพลิ้วไหวของสายน้ำและดวงดาว ด้วยระบบส่งกำลัง 2 ระบบ ได้แก่ 1.5T และ 2.0T โดยระบบส่งกำลัง 1.5T ใช้เครื่องยนต์ 4B15L ทำงานร่วมกับเกียร์ 7DCT ที่ได้รับการปรับปรุงการใช้เชื้อเพลิง ส่วนระบบส่งกำลัง 2.0T ใช้เครื่องยนต์ทรงพลัง 4N20A ทำงานร่วมกับเกียร์ 9DCT ขับเคลื่อนสี่ล้อที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะของ BorgWarner พร้อมการขับขี่ 6 โหมด และมีระบบตอบสนองหลายภูมิประเทศ โดย GWM HAVAL H6 มีพละกำลังมากขึ้น ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงขึ้น เทคโนโลยีแพลตฟอร์มอัปเกรดจาก Coffee Intelligence เป็น “Coffee AI” พิ่มความสะดวกสบาย ให้ผู้ขับขี่สนทนากับระบบได้ รวมถึง Coffee Pilot ที่จะปรับเปลี่ยนตามลักษณะการท่องเที่ยวของผู้ขับขี่ในรูปแบบต่าง ๆ 
GWM WEY 80
รถยนต์ครอบครัวสะดวกสบายและหรูหรา มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ออกแบบภายในรองรับสรีระของผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้เป็นอย่างดี เพื่อสร้างความผ่อนคลายและการพักผ่อน นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับตู้เย็นขนาดใหญ่สองประตูภายในรถยนต์ ประตูตู้เย็นที่สามารถเปิดได้ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ร่วมกับระบบควบคุมอุณหภูมิสองโหมด ได้แก่ โหมดทำความเย็น (0-15 องศาเซลเซียส) และโหมดทำความร้อน (35-50 องศาเซลเซียส) มาพร้อมปริมาณความจุ 12.5 ลิตร ระบบเสียง Harman Kardon พร้อมลำโพงรอบทิศทาง มอบความเงียบในห้องโดยสาร เมื่อความเร็วอยู่ที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เสียงห้องโดยสารจะถูกควบคุมอยู่ที่ 65 เดซิเบล ควบคู่กับเทคโนโลยีลดเสียงรบกวนของเครื่องยนต์ (HALOSonic EOC) เครื่องฟอกอากาศระบบพลาสมา ระบบทำความสะอาดอากาศในห้องโดยสารอัจฉริยะ Volvo Air Quality System (AQS) และม่านบังแดดสำหรับแถวที่ 2 และ 3 อีกด้วย
เกรท วอลล์ มอเตอร์ส่งเสริมแนวคิดระบบนิเวศยานยนต์ (Ecological Globalization) ควบคู่ไปกับการวิจัย ด้านการผลิต และด้านการขาย ในปัจจุบันได้ตั้งฐานการผลิตยานยนต์ในประเทศไทยและในบราซิล และมีโรงงานแบบ KD ในปากีสถาน เอกวาดอร์ และประเทศอื่น ๆ ซึ่งการตั้งสายการผลิตยานยนต์ในพื้นที่ท้องถิ่น สามารถแข่งขันทางด้านราคาในตลาด ยังมีส่วนในการสร้างอาชีพให้กับประชากร สร้างรายได้ในประเทศนั้น ๆ ควบคู่ไปกับการสะท้อนความรับผิดชอบต่อสังคมในประเทศที่เข้าไปตั้งฐานการผลิต
