รถกะเทย ถ้าคุณรู้จักหรือเคยได้ยิน อายุคุณไม่น้อยแล้วนะ ช่วงเดือนมิถุนายนนี้ ที่ถือเป็นเดือนแห่ง Pride Month เดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ที่จะมีการเฉลิมฉลองกันในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกๆ ปี โดยเป็นการขับเคลื่อนทางสังคม เช่น การเดินพาเหรด การแสดงออกถึงความต้องการสิทธิความเท่าเทียมกันในสังคมของเหล่า LGBTQIAN+
ในด้านยานยนต์เราก็ไม่ขอตกเทรนด์ในเดือนนี้ ขอหยิบยกเรื่องราวของ "รถกะเทย" มาเล่าสู่กันฟัง หลายคนเข้าใจผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง และอีกหลายคนก็ไม่เคยได้ยินเลยด้วยซ้ำว่า "รถกะเทย" นั้นคือรถอะไร เราจะมาไขข้อสงสัยที่มาที่ไปกัน
รถกระเทย คือ รถจักรยานยนต์ที่ไม่ใช่สาวประเภทสองหรือชายหญิงข้ามเพศนิยมนำไปใช้ขับขี่ และไม่ใช่คำใช้เหยียดใดใด แต่เป็นชื่อที่เรียกขานกันในยุค 80 ของรถที่มีลักษณะพิเศษ ก็คือลักษณะช่วงด้านท้ายของตัวรถจักรยานยนต์ จะเป็นสไตล์เรียบๆ คันเล็กแบบรถครอบครัวนิยมใช้ แต่ในชิ้นส่วนประกอบด้านหน้า จะมีกระบอกโช๊คอัพเป็นส่วนประกอบ ซึ่งจะไปเหมือนในแบบของรถจักรยานยนต์คันใหญ่ CC. สูง ที่ผู้ชายนิยมใช้ขับขี่คันโตๆ จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกต่อๆ กันว่า "รถกะเทย" เพราะเป็นการผสมผสนานกันระหว่างรถครอบครัวคันเล็กและรถสปอร์ตทรงผู้ชายคันโต ซึ่งเกิดเป็นจักรยานยนต์ Segment ใหม่สำหรับตลาดไทยและอาเซียนขึ้นมา ในรูปทรง Sports-Family ซึ่งทาง Yamaha นั้นเรียกว่าเป็นเจ้าแรกที่ผลิตรถรุ่นนี้ขึ้นมาในประเทศไทย
สำหรับจักรยานยนต์รุ่นแรกที่ผลิตออกมาจำหน่าย จะถือว่าเป็นรุ่นแรกของโลกก็ไม่ผิด ก็คือ Yamaha Belle 80 ที่มีด้วยกันสองรุ่น คือ Belle 80 และ Belle 80 Super และต่อมาจักรยานยนต์ประเภทนี้ก็ได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ ทางค่ายจักรยานยนต์ก็ผลิต "รถกะเทย" ออกจำหน่ายตอบโจทย์ตลาดในยุคนั้นกันหลากหลายรุ่นเลยทีเดียว
ในหน้าประวัติศาสตร์บ้างก็ว่า "รถกะเทย" นี่แหละคือผู้ที่กอบกู้ให้รถจักรยานยนต์ Honda อยู่รอดในไทยมาได้จนถึงปัจจุบันนี้ เพราะหากมองย้อนกลับไปในยุคนั้น รถจักรยานยนต์ Honda ไม่ได้มีชื่อชั้นที่จะสู้รบในตลาดกับทาง Yamaha หรือ Suzuki ได้แม้แต่น้อย จนแทบจะประสบปัญหาใหญ่ในการดำเนินงาน จนกระทั่งมีการออกรถรุ่นใหม่ชื่อ Honda Nova และมันกลายเป็นรถที่เปลี่ยนเกมทันที!!
สำหรับรถจักรยานยนต์ทรงกะเทยที่เป็นที่รู้จักของวัยรุ่นยุค 80-90 ก็อาทิ Honda Nova Tena, Yamaha Belle-R, Honda Nova RS, Honda Nice, Honda Dash, Honda Sonic, Kawasaki Tuxedo, Suzuki Sprinter เป็นต้น ซึ่งรถจักรยานยนต์รุ่นเหล่านี้เชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักกันดี เนื่องจากยุคหนึ่งมันเคยวิ่งกับเกลื่อนบนท้องถนน ถือเป็นรถจักรยานยนต์ที่่มีเครื่องยนต์แบบ 2 จังหวะ และมีแบบ 4 จังหวะต่อมาในภายหลัง โดยที่ผู้คนในสมัยนั้นนิยมใช้กันเป็นอย่างมาก รวมถึงการนำมาแต่งซิ่งตามแต่สไตล์ที่ตัวเองชอบ ไม่ว่าจะโหลดหน้า ตัดโช้ค ลงล้อ เปลี่ยนท่อ หรือว่าปาดเบาะ ก็เรียกว่า Custom ได้ตามใจปรารถนาเลยนั่นเอง
แต่เมื่อยุคสมัยเคลื่อนผ่านไป คำเรียก "รถกะเทย" ก็ค่อยๆ จางหายไปกับกาลเวลา ด้วยรูปลักษณ์ของรถจักรยานยนต์ที่เริ่มเปลี่ยนไป รวมถึงความนิยมในรถลักษณะนี้เริ่มลดน้อยถอยลงนั่นเอง ทำให้คำที่เคยคุ้นหูกลายเป็นคำที่หลายคนสงสัยไปในที่สุด