Mazda BT-50 Minorchange 2025 มาแบบนี้ สงสัยจะได้กลับมาแจ้งเกิด!

Mazda BT-50 Minorchange 2025 มาแบบนี้แต่แรกสนุกไปแล้ว หลังจาก Mazda ปล่อยมือจาก Ford แล้วหันมาร่วมพัฒนารถกับ Isuzu ก่อนจะเปิดตัว Mazda BT-50 โฉมใหม่ออกมาในปี 2020 แต่เหมือนทุกอย่างพังทลายด้วยยอดขายที่เหงาหงอย โดยเฉพาะในบ้านเรา ที่ต้องลดราคากระหน่ำหลักหลายแสนบาทเพื่อเคลียร์รถออกไปบ้าง

คอนเทนต์แนะนำ

“นิด้าโพล” เผย ปี 67 คนไทยเหนื่อยกับปัญหาเศรษฐกิจ-แก๊งคอลฯ

หนุ่ม 16 ซิ่งเบนช์หรูเสียหลักเหินขึ้นท้ายรถ 6 ล้อ

กกต.อุบลฯคาดมีผู้ใช้สิทธิเลือกนายกอบจ.วันนี้ ร้อยละ 65

จนกระทั่งมีการปรับปรุงกระตุ้นตลาดเล็กๆ น้อยก่อนหน้านี้ แต่เหมือนจะสร้างความผิดหวังให้บรรดาแฟนๆ Mazda ไม่น้อย เนื่องจากการปรับครั้งล่าสุดก็ดูจะไม่ได้มีอะไรโดดเด่นและแตกต่าง วิธีการดำเนินอัดส่วนลดยังคงต้องดำเนินต่อไปเพื่อประคองยอดขายที่ไม่เป็นใจนัก

Mazda BT-50 Minorchange 2025 รอบนี้เหมือนเป็นการเอาจริงสักทีสำหรับงานดีไซน์จากค่าย Mazda ที่เคยเลื่องชื่อเป็นอย่างมากในทศวรรษหลัง แต่เหมือนหยุดพัฒนาไปดื้อ สำหรับภาพของ Mazda BT-50 Minorchange ที่เผยให้เห็นงานดีไซน์ที่ถูกปรับแต่งไปอย่างถูกที่ถูกทาง

โดยเฉพาะด้านหน้าที่ถ่ายทอดความเป็นแบรนด์มาสด้าออกมาอย่างหนัก ต่างกับตัวเดิมที่ออกแนวกั๊กๆ จะไปทางไหนยังงงๆ อยู่ ไฟหน้ามาแบบ Full LED และไฟ DRL ดีไซน์สวย โฉบเฉี่ยวและคมกริบในกลิ่นของความสปอร์ต

กระจังหน้าและกันชนที่ถูกปรับใหม่ทั้งชุด ว่ากันว่ามันอาจติดตั้ง Shutter Grill ที่เปิดปิดได้ ช่วยระบายอากาศในยามจำเป็น และปิดลงเพื่อลดแรงเสียดทานด้านหน้า

ด้านข้างตกแต่งด้วยซุ้มล้อทรงเหลี่ยมเพิ่มมัดกล้ามได้อย่างน่ามองขึ้นตัวรถมากับสีแดง Red Earth Metallic ที่จะเป็นสีใหม่ประจำตัวใน BT-50 โฉมนี้ และรวมถึงสี Geode White Pearl และ Sailing Blue Metallic

หน้าจอ Infotainment กลางใหม่ขนาดใหญ่ 9 นิ้ว ที่ปรับให้ทันสมัยทัดเทียมคู่แข่งได้สักทีรอบนี้ สามารถเชื่อมต่อแบบไร้สายได้ทั้ง Android Auto และ Apple CarPlay แต่ยังคงเก็บปุ่มสั่งการต่างๆ เพื่อความสะดวกในการใช้งานไว้อย่างครบถ้วน มาตรวัดเรือนไมล์คนขับขนาด 7 นิ้ว

ระบบช่วยเหลือการขับขี่ต่างๆ จะถูกอัพเกรดขึ้นด้วยในการปรับโฉมรอบนี้ ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยเบรกขณะถอย ระบบอ่านป้ายจราจร รวมถึงกล้องสเตอริโอด้านหน้าที่เพิ่มการจับได้กว้างไกลขึ้นเป็นสองเท่า ระบบเบรกฉุกเฉินที่สามารถตรวจจับได้ทั้งจักรยานยนต์และคนเดินเท้า การรักษารถในตัวเลนทำได้ดีขึ้นแม้เส้นจราจรไม่ชัดเจน

ด้านขุมพลังคาดว่าเป็นดีเซลขนาด 1.9 ลิตร พละกำลัง 148 แรงม้า และในรุ่นดีเซล 3.0 จะให้พละกำลัง 187 แรงม้า จับคู่กับเกียร์ 6 สปีด

สำหรับการเปิดตัวในออสเตรเลียประเทศแรก น่าจะได้รายละเอียดทั้งหมดในช่วงต้นปีหน้าก่อนที่จะเปิดตัวทางการในไตรมาสแรกของปี 2025 สำหรับในตลาดประเทศไทยต้องรอลุ้นว่าทาง Mazda จะนำโฉมนี้มาทำตลาดในบ้านเราหรือไม่ และเมื่อไหร่