Xiaomi SU7 Ultra เปิดรับพรีออเดอร์ในประเทศจีน ราคา 814,900 หยวน เป็นเงินไทยราว 3.86 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคมปีหน้า (2025)
Xiaomi SU7 Ultra ถูกออกแบบปรับแต่งจาก SU7 รุ่นปกติ ที่มีราคาจำหน่าย 215,900-299,900 หยวน (1.02-1.41 ล้านบาท) โดยเฉพาะงานดีไซน์ที่มีการปรับให้มีความสปอร์ตมากขึ้น ทั้งกันชน สปอยเลอร์ที่มีขนาดใหญ่ และตัวถังที่ปรับให้กว้างมากขึ้น มิติตัวถัง Xiaomi SU7 Ultra มีขนาด 5,115 x 1,970 x 1465 มม. และระยะฐานล้อ 3,000 มม. ในขณะที่ SU7 ตัวปกติจะมีขนาดตัวรถที่ 4,997 x 1,963 x 1,440 มม. ส่วนระยะฐานล้อเท่ากับตัว Ultra
ดิฟฟิวเซอร์ด้านท้ายเป็นแบบ Active สามารถปรับเปลี่ยนตามสภาวะการใช้งาน สปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่มีความกว้าง 1,560 มม. ทำให้ Xiaomi SU7 Ultra มีแรงกดจากอากาศที่ 285 กก. เลยทีเดียว
แบตเตอรีของ Xiaomi SU7 Ultra ใช้ Qilin 2.0 ของ CATL ขนาดความจุ 93.7 kWh วิ่งได้ไกล 630 กม./ชาร์จ CLTC กำลังจ่ายไฟสูงสุด 1,330 kW และเมื่อแบตเตอรีเหลือเพียง 20% จะยังสามารถจ่ายไฟได้สูงสุดถึง 800 kW โครงสร้างแบบ CTB (Cell to Body) ของ Xiaomi ประสิทธิภาพสูงในด้านระบายความร้อนและความปลอดภัย รองรับการชาร์จไฟ DC 5.2C หมายถึงมันมีกำลังในการชาร์จไฟมากกว่าความจุแบตเตอรีประมาณ 5 เท่า หรือราวๆ 490 kW ใช้เวลาแค่ 11 นาที ชาร์จไฟจาก 10-80%
Xiaomi SU7 Ultra จะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว เป็นแบบ e-motor V8 2 ตัวและ e-motor V6 1 ตัว พละกำลังรวม 1,548 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,770 นิวตันเมตร ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 1.98 วินาที ความเร็ว 200 กม./ชม. ใน 5.86 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 350 กม./ชม.
ระบบเบรกของ Xiaomi SU7 Ultra เป็นดิสก์เบรกคาร์บอนเซรามิกขนาดใหญ่ที่สุดที่มีการติดตั้งในรถสปอร์ต ทนความร้อนสูงสุดถึง 1,300 องศาฯ ทนต่อการสึกหรอและเบากว่าเบรกทั่วไป อายุการใช้งานยาวนานกว่า 500,000 กม. และทำให้รถเบาขึ้นอีก 57 กก.โดยด้านหน้าติดตั้งดิสก์เบรกขนาด 430 มม. x 40 มม. และดิสก์เบรกหลังขนาด 410 มม. x 32 มม. คาลิปเปอร์ Akebono 6 pot ที่เพลาหน้า และแบบ 4 pot ที่เพลาหลัง มีความสามารถในการหยุดรถจาก 100-0 กม./ชม. ในระยะเพียง 30.8 เมตร
ภายใน Xiaomi SU7 Ultra เน้นความสปอร์ตมากขึ้นและพวงมาลัยอัปเกรดใหม่ เบาะนั่งใหม่มีแถบปักลายพิเศษและโลโก้ Ultra วัสดุของพวงมาลัยใช้คาร์บอนไฟเบอร์ หุ้มด้ามจับด้วย Alcantara การออกแบบภายในจับคู่กับเข็มขัดนิรภัยสีเหลืองและปุ่ม Boost สีแดงบนพวงมาลัย วัสดุภายในหลายๆ จุดถูกปรับแต่งให้เป็น Alcantara นำเข้าจากอิตาลี ครอบคลุมพื้นที่กว่า 5 ตร.ม.
หน้าจอควบคุมส่วนกลาง หน้าจอมาตรวัด และ Interface UI บางส่วนของ HUD มีการอัปเกรดและออกแบบ UI ใหม่ให้เข้ากับความสปอร์ตของตัวรถมากขึ้น
Xiaomi SU7 Ultra ยังใช้คาร์บอนไฟเบอร์เป็นวัสดุหลัก ช่วยลดน้ำหนักลง ไม่ว่าจะเป็นส่วนของ แผงด้านหลังเบาะนั่งคู่หน้า แผงคอนโซลหน้า เป็นต้น Xiaomi SU7 Ultra ใช้หลังคาเป็นคาร์บอนไฟเบอร์เช่นเดียวกัน ทำให้ตัวรถเบาลงถึง 12 กก.
ช่วงล่างของ Xiaomi SU7 Ultra ใช้สปริงลมแบบ Dual-Chamber ควบคุมด้วยระบบ CDC และชุดโช้คอัพคอยล์โอเวอร์ Bilstein EVO T1 สำหรับรถแข่ง ปรับได้ 10 ระดับ
Xiaomi SU7 Ultra จะเริ่มวางจำหน่ายเดือนมีนาคม 2025 แต่ได้มีการเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าไปแล้วในจีน โดยมีการคาดการณ์ว่า Xiaomi SU7 Ultra จะมียอดขาย 4,000 คันในปี 2025 แต่หลังเปิดให้จองล่วงหน้า Xiaomi SU7 Ultra มีคำสั่งจองเข้ามาแล้วถึง 3,680 คัน ภายใน 10 นาที
Xiaomi SU7 รุ่นปกติมีการส่งมอบไปแล้วกว่า 2 พันคันในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายที่จะส่งมอบให้ได้ถึง 120,000 คันภายในสิ้นปี 2024 นี้