ทีมงาน 34AUTO ได้ร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้นโดย OMODA & JAECOO ทดสอบสมรรถนะรถยนต์รุ่นใหม่ JAECOO 7 SHS (Super Hybrid System) ที่พัฒนาต่อยอดจาก Chery Automobile เจเนอเรชั่นที่ 3 ณ Pathumthani SpeedWay
เทคโนโลยี SHS (Super Hybrid System) นวัตกรรม HEV + EV พัฒนาต่อยอดมาจากเทคโนโลยีไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 3 ของ Chery Automobile ทำให้ระบบเครื่องยนต์สามารถปรับเปลี่ยนการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงได้แบบเรียลไทม์ตามสภาพการขับขี่ พร้อมระบบระบายความร้อนประสิทธิภาพสูง (Thermal Efficiency) ช่วยรักษาสมรรถนะในการขับขี่แม้ในสภาวะที่ทำงานหนัก จึงช่วยหลีกเลี่ยงสถานการณ์เครื่องยนต์สมรรถนะตกหรือทำงานผิดปกติที่เกิดจากความร้อนสูงเกินไป
เครื่องยนต์ 1.5TDGI เจเนอเรชั่นที่ 5 ระบบซูเปอร์อิเล็กทริกไฮบริด DHT (Super Electric Hybrid DHT System) ที่ออกแบบมาเพื่อรถยนต์ไฮบริดโดยเฉพาะ พละกำลังสูงสุด 347 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 525 นิวตัน-เมตร
ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนได้ที่ความเร็วสูงสุด 120 กม./ ชม. หากมีแบตเตอรี่มากกว่า 25% ซึ่งหากรวมระยะทางการขับขี่ทั้งน้ำมัน และไฟฟ้า ได้ถึง 1,300 กม.
JAECOO 7 SHS (Super Hybrid System) มาพร้อมระบบแบตเตอรี่ที่มีการป้องกันการทนความร้อน แรงกระแทก และการกันน้ำ พร้อมฟังก์ชันการป้องกันการปิดเครื่องภายใน 0.002 วินาทีหลังเกิดการชน ทำให้สามารถตัดแหล่งจ่ายไฟ ได้อย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่อุณหภูมิสูงเกินไป และมีระบบรักษาความปลอดภัยแบบเรียลไทม์
นอกจากนี้ยังมีความหนาแน่นของพลังงานสูง ทำให้มีระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนได้ระยะไกล 106 กม. (NEDC) สามารถปล่อยประจุไฟฟ้าภายนอกให้อุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอกได้ 3.3 กิโลวัตต์
หลังจากได้ทดลองขับแบบสั้นๆ ไม่ได้ทดสอบแบบหนักหน่วงหนัก แต่ก็ได้สัมผัสหลายอย่าง โดยเฉพาะช่วงล่างของ JAECOO 7 SHS คันนี้ที่ปรับจูนออกมาได้แตกต่างกับคู่แข่งโดยตรงอย่าง BYD Sealion 6 DM-i แบบสุดขั้น ของ BYD จะเน้นนุ่มสบาย แต่ JAECOO 7 SHS ออกไปทางแนวเฟิร์ม แน่นปึ๊กอย่างชัดเจน จะบอกว่าในสนามที่เราทดลองนั้น ช่วงล่างเก็บอาการสะเทือนขึ้นมาถึงตัวเราชัดมาก แต่ไม่ใช่อาการของความแข็ง แต่มันเป็นอาการของการสัมผัสกับลักษณะของพื้นผิวถนนได้ เป็นช่วงล่างที่เหมาะกับการขับที่ความเร็วอย่างแน่นอน แต่ก็ต้องลองที่ความเร็วสูงถึงจะตอบได้ว่าจะมีอาการอื่นแทรกแซงหรือไม่ ถ้ามีโอกาสจะกลับมาเล่าให้ฟังต่อไป
ขนาดตัวรถใกล้เคียง Honda CR-V แต่เล็กกว่า Sealion 6 ทำให้เราคาดว่าไม่น่าจะมีค่าตัวเกินรถจาก BYD แต่ถ้าสุดท้ายเปิดราคาสูงกว่า ก็คงต้องมาดูกันว่าหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร งานดีไซน์ภายนอกถือว่าไปทาง SUV ยุโรปได้เหมือนกัน ชิ้นงานไม่ได้เป็นระดับพรีเมียมระดับบน แต่ใช้การออกแบบเข้าช่วยทำให้ตัวรถดูมีความโดดเด่นไม่น้อย ส่วนภายในค่อนข้างเรียบง่ายตามสไตล์รถจากประเทศจีน คือเน้นสมัยใหม่ มีหน้าจอกลางเป็นหัวใจสำคัญ มาพร้อมกับพาโนรามิคซันรูฟบานโต
โดยรวมหลังได้ลองขับ สิ่งที่ตอบสนองได้เลยคือ อัตราเร่ง ช่วงล่างที่เฟิร์ม ควบคุมรถมั่นใจ เบาะคู่หน้าดีไซน์สวยเลย ส่วนที่นั่งแถวสองเราชอบกระจกบานหลังที่วิสัยทัศน์กว้าง ผู้โดยสารน่าจะชื่นชอบแน่นอน แต่แอร์หลังต้องแย่งกันหน่อย เพราะปรับหันได้ทางใดทางหนึ่งเท่านั้นนะ
สำหรับ JAECOO 7 SHS (Super Hybrid System) จ่อเปิดตัวในประเทศไทยเร็วๆ นี้แน่นอนแล้ว แต่รายละเอียดตัวรถ สเปคทั้งหมด และที่สำคัญในเรื่องราคา รออัปเดตความคืบหน้าต่อไป