พรรคเพื่อชาติ ชู "ปฏิวัติเขียว" เป็นตัวนำเศรษฐกิจชาติ
พรรคเพื่อชาติ ชู "ปฏิวัติเขียว" เป็นตัวนำเศรษฐกิจชาติ ชิงความได้เปรียบในเวทีระหว่างประเทศ สร้างความเป็นผู้นำ ในฐานะผู้ผลิตอาหาร
คอนเทนต์แนะนำ
วันที่ 16 เม.ย. 66 ในการเลือกตั้ง 66 พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ พร้อมคณะกรรมการสาขาพรรคเพื่อชาติ ลงพื้นที่พบปะพูดคุยร่วมกับชาวบ้าน อ.นาเชือกจ.มหาสารคาม และทำบุญสรงน้ำพระตามวัดต่างๆ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 ระหว่างวันที่ 13-15 เม.ย.66
ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ นอกจากรองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติกับคณะกรรมการสาขาพรรคเพื่อชาติจะไปเพื่อร่วมทำบุญในเทศกาลสงกรานต์ 2566 กับชาวบ้านแล้ว ยังถือโอกาสเข้าไปรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรว่าในปัจจุบันนี้ต้องการความช่วยเหลืออะไรที่เป็นการเร่งด่วน รวมทั้งสอบถามถึงความเป็นอยู่ วิถีชีวิตในการทำเกษตรว่าปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง
พล.ต.ต.ชยุต ระบุว่า พรรคเพื่อชาติจะเข้ามาปฏิวัติวงการเกษตรกรรมใหม่ โดยใช้ทฤษฎีและแนวคิดที่เรียกว่า “ปฏิวัติเขียว” เพื่อให้เกษตรกรรมและทรัพยากรธรรมชาติของไทยกลับมาเป็นตัวนำเศรษฐกิจของชาติ ให้เกษตรกรรมผลิตอาหาร และนำรายได้ตลอดจนความได้เปรียบในเวทีระหว่างประเทศกลับสู่ประเทศไทย
“เรื่องนี้พรรคเพื่อชาติมองว่า วันนี้หลายประเทศทั่วโลกกำลังประสบปัญหาด้านความมั่นคงทางอาหาร หลายประเทศอดอยากเพราะผลิตอาหารไม่ได้ ประเทศไทยจะใช้จุดแข็ง คือการเกษตรออกไปสร้างความเป็นผู้นำ ในฐานะผู้ผลิตอาหาร ตลอดจนเป็นผู้แก้ปัญหา ความมั่นคงทางอาหารในเวทีโลก โดยพรรคเพื่อชาติจะเน้นไปที่เรื่องของต้นทุนในการทำการเกษตรที่จะต้องไม่ส่งผลกระทบกับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม รวมถึงเน้นไปที่การพัฒนาการเกษตรด้านใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโรงงานปุ๋ยอินทรีย์ทั่วประเทศที่จะช่วยลดต้นทุนด้านปุ๋ยให้กับเกษตรกร และยังมีเรื่องของธนาคารเมล็ดพันธุ์ ที่จะมีอยู่ทั่วประเทศและสามารถให้เกษตรกรในทุกพื้นที่เข้าถึงสามารถเข้าไปติดต่อ เพื่อขอเมล็ดพันธุ์พืชชนิดต่างๆ เพื่อนำไปต่อยอดประกอบอาชีพเกษตรกรรมสร้างรายได้เลี้ยงดูครอบครัวต่อไป” พล.ต.ต.ชยุต ระบุ
Advertisement
