วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด (เป๊ปซี่โค ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว "เลย์" มันฝรั่งทอดกรอบยอดนิยมของไทย มีนโยบายให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตควบคู่กับแนวคิดในการสร้างความยั่งยืน เพื่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการมีธรรมาภิบาล (ESG : Environmental, Social and Governance) เพื่อตอบสนองเทรนด์ของผู้บริโภค
ปัจจุบัน เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ได้ให้การส่งเสริมเกษตรกรไทยในการปลูกมันฝรั่งภายในประเทศซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคเหนืออย่างยั่งยืน โดยเน้นการทำการเกษตรแบบฟื้นฟูและมุมมองการจัดการแบบทุกมิติ ผ่านการจัดทำฟาร์มต้นแบบ (Model Farm) ผ่านการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างภาครัฐและเอกชน ยกระดับศักยภาพพี่น้องเกษตรกร เพิ่มผลผลิตสร้างรายได้อย่างยั่งยืน ทางบริษัทเป๊ปซี่ฯ จึงได้ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ "โอกาสและความท้าทายในธุรกิจพืชมูลค่าสูง ภายใต้ระบบเกษตรพันธสัญญา (กรณีศึกษาพืชมันฝรั่ง) โดยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน"
"มันฝรั่งถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคเหนือที่ปลูกมานานถึง 60 กว่าปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2507 ซึ่งมันฝรั่งเป็นพืชฝังหัว ในการปลูกจะต้องใช้พื้นที่ที่ดินมีความเหมาะสมและมีอากาศเย็น การปลูกมันฝรั่งเป็นการทำงานภายใต้การดูแลของภาครัฐที่ทำร่วมกับบริษัทเป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) ซึ่งภาครัฐได้ดูแลในเรื่องของการผลิต การส่งเสริมการปลูก ร่วมทั้งมีการวิจัยในเรื่องของการดูแลรักษาเรื่องโรคต่าง ๆ นอกจากนี้กรมส่งเสริมการเกษตรมองว่า มันฝรั่งเป็นพืชหลังนา เป็นพืชที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร โดยภาครัฐได้ให้ความสำคัญกับการขยายพืชที่ปลูกมันฝรั่ง มีการส่งเสริมและสนับสนุนทั้งในเรื่องของการวิจัย ระบบดิน ระบบน้ำต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญและตอบสนองความต้องการของพี่น้องเกษตรกรได้เป็นอย่างดี" นางสาวเบญจพร ชาครานนท์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าว
โดยนางสุริวัสสา สัตตะรุจาวงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์และรัฐกิจประจำประเทศไทยและเวียดนาม กล่าวว่า "ในการจัดงานสัมมนาในครั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมและสร้างภาคีเครือข่าย ซึ่งเรามองว่าในการพัฒนาการเกษตรให้เกิดความยั่งยืนต้องเกิดจากความร่วมมือซึ่งกันและกัน เราจึงได้จัดงานสัมมนาในครั้งนี้เรามีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะยกระดับเสริมศักยภาพให้กับเกษตรกรและส่งเสริมธุรกิจพืชมูลค่าสูงในประเทศไทยแบบครบวงจรและยั่งยืน และเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างภาครัฐ เกษตรกร และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ให้เกิดการทำงานแบบบูรณาการร่วมกัน สร้างภาคีเครือข่าย เพื่อให้เกิดโอกาสและช่องทางต่าง ๆ ในอนาคต และเป็นการยกระดับศักยภาพพี่น้องเกษตรกร เพิ่มผลผลิตและสร้างรายได้อย่างยั่งยืน"
Advertisement