ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีปิดโครงการเสริมสร้างวินัยทางการเงินภาคครัวเรือนขับเคลื่อนชุมชนเข้มแข็ง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พร้อมด้วยนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ โดยร่วมเปิดกระปุกออมสิน นับยอดเงินออมผ่านระบบออนไลน์แบบเรียลไทม์พร้อมกันทั่วประเทศ ชูสร้างวินัยการเงินภาคครัวเรือน กระตุ้นให้เกิดการออม
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายสำคัญในการยกระดับรายได้ของเกษตรกร โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมการสร้างอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ อีกทั้งส่งเสริมการเพิ่มความรู้ทางการเงินการบัญชี และส่งเสริมการออมในรูปแบบใหม่ ๆ ที่สอดรับกับวิถีชีวิตของคนไทย ซึ่งดำเนินงานภายใต้ หลักการร "ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้" ด้วยการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิต สร้างมูลค่าเพิ่ม ส่งเสริมการบริหารจัดการแบบแปลงใหญ่ ด้วยเกษตรสมัยใหม่ เกษตรแม่นยำ ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการเพิ่มผลผลิตและแก้ไขภาคการเกษตร ขับเคลื่อนงานผ่านหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มุ่งให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม
จึงมอบนโยบายให้กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ดำเนินงานขับเคลื่อนการนำระบบบัญชีไปวางรากฐานในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร อีกทั้งเสริมองค์ความรู้ให้ภาคประชาชน สามารถนำบัญชีไปใช้วางรากฐานของชีวิต เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและความสมดุลในการดำรงชีวิตและกระตุ้นให้เกิดการออม ซึ่งการสร้างวินัยทางการเงินให้กับประชาชนและครัวเรือน ถือเป็นแนวทางสำคัญที่จะสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวให้ประสบผลสำเร็จเป็นรูปธรรมได้อย่างดียิ่ง
ด้าน นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าว เป็นการดำเนินกิจกรรมสร้างความสามัคคีให้แก่ประชาชนในชุมชน ตามแนวคิด "บวร" (บ้าน-ชุมชน/วัด-ศาสนาสถาน/โรงเรียน-ส่วนราชการ) มุ่งเน้นการสร้างวินัยทางเงินภาคครัวเรือน ส่งเสริมการออม โดยมีการ Kick Off เปิดโครงการดังกล่าว เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 และมีการจัดทำกระปุกออมสิน จำนวน 10,000 กระปุก แจกให้ผู้เข้าร่วมโครงการ 89 ชุมชน ใน 77 จังหวัด และบุคลากรกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ร่วมกิจกรรมฝึกการออม อย่างน้อยวันละ 10 บาท ผลการดำเนินการภายใต้โครงการ มีประชาชนในชุมชนและบุคลากรกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เข้าร่วมกิจกรรม รวม 10,473 ราย 89 ชุมชน ใน 77 จังหวัด
ซึ่งบรรยากาศภายในงาน ได้มีน้องๆ นักเรียนนำเสนอกิจกรรมการส่งเสริมฝึกอาชีพเสริมรายได้ จากการทำโดนัทจิ๋ว น้องได้มีอาการตื่นเต้น จนร้องไห้ออกมา ทำให้ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการเข้าไปโอบกอดและร่วมพูดคุยกับน้องนักเรียนอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง ทำให้ภายในงานเติมไปเสียงหัวเราะ เพราะความน่ารักของน้องนักเรียนดังกล่าวและเติมไปด้วยเสียงปรบมืออย่างล้นหลามเพื่อเป็นกำลังให้กับนักเรียนในการนำเสนอกิจกรรมภายในงานอีกด้วย
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว ส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้และเข้าใจการจดบันทึกบัญชีรับจ่ายในครัวเรือนและสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ในการดำรงชีพและประกอบอาชีพของตนเอง ได้สร้างวินัยทางการเงิน ลดรายจ่าย ลดหนี้สิน เพิ่มรายได้ มีเงินออม มีคุณภาพชีวิตที่ดีและสามารถน้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางการประกอบอาชีพและการดำเนินชีวิต สร้างให้เกิดเงินออมในครัวเรือนทั่วประเทศ รวมจำนวน 21,380,751 บาท
Advertisement