กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part1” โพสต์ข้อความระบุว่า “ก็มาดิคร้าบบ สวนมาได้ไง ให้คลิปเล่าเรื่องแบบนี้ก็ได้เหรอคะ...” พร้อมกับคลิปวิดีโอที่บันทึกได้จากกล้องหน้ารถ ขณะที่หญิงสาวรายหนึ่งกำลังใช้รถสัญจรผ่านถนน 2 เลนขับสวนกันได้ โดยเธอได้พูดว่า "ไม่หลบ ๆ" กลายเป็นคลิปที่ถูกวิจารณ์อย่างดุเดือด เนื่องจากหลายคนมองว่าตำรวจนำขวบให้กับรถวีไอพีหรือไม่
ล่าสุดวันที่ 4 พ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ลงพื้นที่บริเวณถนนเพชรอุทัย หน้าสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งลักษณะเป็นถนน 2 เลนสวนกันได้ บรรยากาศในวันนี้พบว่ามีรถสัญจรผ่านไปมาอย่างต่อเนื่องตามปกติ และยังพบว่ามีป้ายปิดทางเพื่อปิดถนนให้เป็นเส้นวันเวย์ในช่วงเวลา 06.00 – 08.30 น. ตั้งอยู่ข้างฟุตพาท
ล่าสุดวันที่ 4 พ.ย. 64 ทีมข่าวโทรศัพท์ไปพูดคุยกับ นพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริษัทธนบุรีเฮลล์แคร์กรุ๊ป เปิดเผยว่า ตนยอมรับว่ารถคันสีขาวที่ปรากาฏในคลิปนั้น เป็นรถของตนและตนก็นั่งอยู่ในรถ ซึ่งในวันเกิดเหตุนั้น เป็นเวลา 08.30 น. ในช่วงดังเวลาดังกล่าวตำรวจจะมีการจำกัดพื้นที่ให้เป็นถนนวันเวย์ เพื่อระบายรถจากถนนพระราม 9 มุ่งหน้าไปถนนเพชรบุรี ตั้งแต่เวลา 06.00 – 09.00 น. ซึ่งคาดว่าผู้หญิงที่ถ่ายคลิปนั้นน่าจะไม่ทราบเรื่องนี้ เพราะเขาเข้าใจว่าถนนดังกล่าวเป็นถนนเลนสวน
ในความเป็นจริงแล้วในช่วงเวลานั้นเป็นถนนวันเวย์ ซึ่งรถของตนขับในเลนถนนที่ถูกต้องแล้ว แต่อีกฝ่ายขับมาในเลนถนนที่ผิด เพียงแต่เขาไม่รู้ตัวว่าผิด ซึ่งตนเชื่อว่าเขาอาจจะไม่เคยขับผ่านเส้นทางดังกล่าวหรือไม่ และอาจจะไม่รู้ว่าถนนช่วงเวลาดังกล่าวเป็นถนนวันเวย์ ตนไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองอะไรผู้หญิงที่ถ่ายคลิป ไม่คิดจะเอาผิดกับคนถ่ายคลิป เพราะเชื่อว่าการที่เขาถ่ายคลิปนั้นเขาคงจะหวังดีที่จะถ่ายคลิปคนที่กระทำความผิด
นพ.บุญ กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยเรื่องรถนำขบวนนั้น ตนอยากจะชี้แจงว่ารถตำรวจไม่ได้นำขวนให้ตน เพียงแต่เป็นตำรวจจราจรที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนบนถนน เพราะรถของตนอยู่ลำดับคันที่ 7 จากรถมอเตอร์ไซค์ตำรวจ จึงเป็นไปไม่ได้ที่รถตำรวจจะเป็นรถนำขบวนของตน เพราะถ้าเป็นรถนำขบวนของตนจริง ๆ รถตำรวจก็ต้องอยู่หน้ารถของตน คงไม่อยู่ห่างกันถึง 7 คัน และอีกอย่างเวลาตนเดินทางไปไหนก็ไม่มีตำรวจนำขบวนอยู่แล้ว
ต่อมาทีมข่าวได้พบกับนายสำเริง โชติ อายุ 56 ปี พ่อค้าขายโรตีละแวกใกล้เคียง กล่าวว่า ตนขายโรตีข้างถนนมาหลายปีแล้ว ปกติถนนเส้นดังกล่าวจะมีการตั้งป้ายปิดเส้นทางจราจร 1 เลน ให้เป็นวันเวย์ ในช่วงเวลา 06.00 - 08.30 น. ซึ่งตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ตนสังเกตเห็นว่าบางวันเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้นำป้ายมาปิดเส้นทางวันเวย์ หาความชัดเจนไม่ได้ว่าในวันไหนจะปิดหรือไม่ปิด
"ที่สำคัญปกติแล้วถนนเส้นนี้ มักจะมีการนำขบวนรถเข้ามาบ่อยครั้งมาก จนบางครั้งรถติดยาว สัญจรกันอย่างลำบาก ก็มีความกลัวว่าประชาชนคนที่ใช้เส้นทางจะเกิดเป็นการเข้าใจผิด ยิ่งถ้าเป็นคนนอกพื้นที่อาจจะไม่ทราบเลยด้วยซ้ำว่า แท้จริงแล้วทุกตอนเช้าจะเป็นเส้นทางวันเวย์" พ่อค้าขายโรตี กล่าว
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวเดินทางไปยัง สน.มักกะสัน และได้เข้าพูดคุยสัมภาษณ์กับ พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุ์ ศุภพนารักษ์ ผกก.สน.มักกะสัน เปิดเผยว่า ตนต้องกราบขอโทษประชาชนจากปัญหาการจราจรที่เกิดขึ้น เดิมทีก่อนโควิด-19 ระบาด ตำรวจจะไปปิดจราจรถนนกำแพงเพชร 7 ให้เดินรถช่องทางขวาทางเดียวในช่วงเวลา 06.00 - 08.30 น. แล้วแต่การจราจร หากรถไม่ติดก็ไม่ปิดเป็นวันเวย์ แต่ถ้ารถติดมากต้องระบายรถจากถนนเพชรบุรีตัดใหม่ขาเข้า ก็จะนำแผงเหล็กไปกั้นให้เดินรถทางเดียว
ทั้งนี้ ตนไม่อยากให้มองเป็นเรื่องผิดหรือถูก แต่ด้วยเจตนาการเดินรถ คือ เข้าใจผิดทั้งคู่ แต่ฝ่ายตำรวจต้องขอโทษ เพราะลูกน้องตนที่ไปกั้นรถช้า จึงเป็นฝ่ายผิด ไม่ควรปล่อยรถเข้ามาในช่วงเช้า ในคลิปจะเห็นว่ามีรถตำรวจจราจร สน.มักกะสัน 1 คัน แซงไปอำนวยความสะดวกการจราจรข้างหน้า ก่อนมีรถตำรวจอีกคันตามมาพร้อมรถอื่น ๆ
ในกรณีผู้หญิงถ่ายคลิป แล้วเกิดเป็นความเข้าใจผิด เพราะตำรวจไม่ไปกั้นรถด้านหน้า ส่วนรถที่สวนมาอีกทางก็เข้าใจว่าปรับเป็นการเดินรถทางเดียวแล้ว ซึ่งก่อนช่วงโควิด-19 ช่วงเช้าชาวบ้านและคนใช้รถแถวนี้จะรู้ดีว่าเป็นการเดินรถทางเดียว ทั้งคู่จึงไม่ทราบ ดังนั้นไม่ควรไปชี้ว่าใครผิดถูก เพราะทั้งคู่ไม่มีเจตนา แต่สังคมสนใจเรื่องมีรถนำขบวนมากกว่า หากจะมีรถตำรวจจากท้องที่อื่นเข้ามานั้น ต้องมีการประสานกับท้องที่อยู่แล้ว เพราะพื้นที่ สน.มักกะสัน มีโรงพยาบาลใหญ่ 5 แห่ง ไม่รวมโรงพยาบาลสัตว์ มีห้างฯ ร้านค้า ตึก ชุมชน และคนอยู่หนาแน่น มีเหตุร้องขอความช่วยเหลือเป็นปกติมาก
"แต่หากเป็นการนำรถแล้วผิดช่องทาง ผมขอตรวจสอบก่อน ถ้าผิดก็จะดำเนินคดี ซึ่งหลังเกิดเรื่อง ก็ได้กำชับ ตักเตือนลูกน้องที่ปิดแผงเหล็กช้าไปแล้ว เขาเป็นตำรวจใหม่ก็ต้องฝึกไป เรื่องนี้มีคลิปหลักฐานชัดเจน ตำรวจไม่เพิกเฉย แต่ขอตรวจสอบก่อนแล้วจะเชิญตัวมา หากเป็นความผิดก็ยืนยันจะดำเนินคดีตามกฎหมายแน่ครับ" พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุ์ กล่าว
พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) กล่าวว่า ตามระเบียบกำหนดไว้ว่า รถนำขบวนบุคคลสำคัญจะนำขบวนบุคคลสำคัญ เช่น นายกฯ รัฐมนตรี หรือ ประธานรัฐสภา แต่เท่าที่เป็นข่าวไม่ใช่รถนำขบวนบุคคลสำคัญ แต่เรื่องของตำรวจท้องที่ ตนได้สั่งการให้นครบาลตรวจสอบแล้วว่าเป็นกรณีจำเป็นฉุกเฉินเร่งด่วนหรือไม่ เข้าข่ายถูกต้องตามระเบียบหรือไม่
ทั้งนี้ หากไม่เข้าข่ายก็จะต้องพิจารณาข้อบกพร่อง พร้อมกับย้ำว่าเส้นทางที่เกิดเหตุเป็นเส้นทางแบบทางเดียว หรือวันเวย์ ส่วนคนที่ถ่ายคลิปอาจไม่ทราบว่าเส้นทางดังกล่าวเป็นการเดินรถทางเดียว จึงไม่สามารถขับรถสวนไปได้ และไม่ใช่การนำขบวนบุคคลสำคัญ ต้องดูเหตุผลว่าเป็นเหตุฉุกเฉินจำเป็นหรือไม่อย่างไร หากทำโดยพละการไม่มีเหตุผลเพียงพอก็ถือว่าพกพร่องหน้าที่
Advertisement