กรณีตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับเเจ้งจากญาติของ นายณัฎฐกรณ์ ฉนำกลาง หรือ ต่อ อายุ 38 ปี ชาวตำบลเจริญสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ หายตัวลึกลับไปตั้งเเต่วันที่ 3 ธันวาคม 2564 รวมระยะเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ โทรศัพท์มือถือไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนเฟซบุ๊กก็ไม่มีความเคลื่อนไหว
กระทั่งมาทราบภายหลังว่าผู้สูญหายมีปากเสียงทะเลาะกับชายที่คบหากันเป็นแฟน ปมไม่ยอมให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย ล่าสุด ตำรวจได้นำตัว นายเต่า แฟนหนุ่มไปเค้นสอบปากคำที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ แล้วนั้น
ล่าสุด วันที่ 16 ธ.ค. 64 มีการเดินค้นหาในป่าเขากระดูกซึ่งอยู่ติดกัน มีเพื่อนของผู้สูญหาย 2 คน ได้ฝันเห็นผู้สูญหายเหมือนกัน โดยในความฝันผู้สูญหายมาบอกว่าอยู่บนเขากระดูก ชาวบ้านเเละญาติก็ได้ช่วยกันเดินค้นหา แต่ไม่พบ
ทีมข่าวได้พูดคุยกับเพื่อนสนิทของผู้สูญหาย คือ น.ส.น้อย เดินทางมาร่วมค้นหาด้วย บอกว่าเมื่อคืนที่ผ่านมามีเพื่อน 2 คน ฝันเห็นนายต่อ ผู้สูญหาย โดยในความฝันนายต่อได้โทรมาบอกว่าตอนนี้อยู่บนเขากระดูก คิดถึงตนมาก ให้ตนมารับด้วย ซึ่งเพื่อนทั้ง 2 คน ฝันเหมือนกัน ตนเองจึงนำเรื่องดังกล่าวมาบอกญาติผู้สูญหาย และเดินทางมาค้นหา
น.ส.น้อย เปิดเผยว่า นิสัยของนายต่อเป็นคนไม่ค่อยพูด มีเรื่องทุกข์ใจก็จะเก็บไว้คนเดียว แต่มีอยู่เรื่องเดียวที่เคยเล่าให้ฟัง คือเรื่องที่พ่อกับเเม่ของนายต่อไม่ชอบนายเต่า ชายคู่ขา ซึ่งทำให้นายต่อไม่ค่อยสบายใจ สำหรับนายเต่า ตนเองก็รู้จัก เพราะเป็นเเฟนของเพื่อนสนิท โดยนายเต่าเป็นคนอารมณ์รุนเเรง เคยทำร้ายร่างกายผู้สูญหายต่อหน้าตนมาเเล้ว เเต่ทั้งคู่ก็ดูรักกันดี เวลาจะไปไหนก็มักจะไปด้วยกันตลอด
ที่ผ่านมา นายต่อจะมาหาตนที่บ้านทุกวัน จะพานายเต่ามาด้วยทุกครั้ง เเต่ช่วง 1 สัปดาห์ก่อนหายตัวไป นายต่อไม่มาหาเลย จึงทักข้อความทางเฟซบุ๊กไปถาม ตั้งเเต่วันที่ 28 พฤศจิกายน เเต่นายต่อเพิ่งมาตอบ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม โดยตอบเป็นสติกเกอร์ยิ้ม เเล้วถามตนว่าทำอะไรอยู่ ตนก็ตอบไปว่ากำลังปลูกต้นไม้ พบว่านายต่อมีการอ่าน เเต่ไม่ได้ตอบ ตนก็รู้สึกเเปลก ๆ ว่าเพื่อนมีเรื่องเครียดอะไรหรือไม่ เพราะปกติจะคุยกันทุกวัน จนกระทั่งวันที่ 8 ธันวาคม หลังจากทราบข่าวการสูญหาย จึงได้ทักข้อความ เเละโทรหา เเต่นายต่อไม่อ่าน เเละไม่ตอบใด ๆ เลย ตอนนี้จึงรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนมาก ส่วนในทางคดี ส่วนตัวเชื่อว่าต้องมีคนพาไป เพราะนายต่อเป็นคนกลัวผีมาก จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะขับรถเข้าป่าตามลำพังตอนกลางคืน
ด้านพ่อของผู้สูญหาย พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง เเละชาวบ้านกว่า 20 คน ได้ร่วมกันเดินปูพรมค้นหา ในป่าเขาอังคารอีกครั้ง ตามคำเเนะนำของหมอดูที่บอกว่ายังมีสิ่งลี้ลับบังตาอยู่ในป่า โดยนายชวน ฉนำกลาง อายุ 63 ปี ได้จุดธูปเทียน บอกเจ้าที่เจ้าทา "ขอให้เจอลูกโดยเร็ว พ่อกับเเม่คิดถึง ขอให้เจ้าป่าเจ้าเขาปล่อยตัวลูกชายออกมา"
นายชวน ฉนำกลาง พ่อของผู้สูญหาย บอกว่า ตอนนี้พ่อก็ยังมีความหวังว่าลูกยังมีชีวิตอยู่ หลังจากที่มีการปรึกษาหมอดูหลายคน ส่วนใหญ่พูดตรงกันว่าลูกชายยังปลอดภัย โดยเมื่อวานมีหมอดูรายหนึ่ง อยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ บอกว่าลูกชายอยู่อีกมิติหนึ่ง มีสิ่งลี้ลับบังตาอยู่ แนะนำให้ไปทำพิธีขอขมาบริเวณจุดพบรถจักรยานยนต์ เนื่องจากจุดนั้นมีประตูไปสู่อีกมิติ
เมื่อคืนที่ผ่านมาทางญาติก็ไปจุดธูปขอขมาแล้ว วันนี้พ่อก็มาจุดธูปอีกรอบเพื่อความสบายใจ ส่วนในทางคดีพ่อก็ยังเชื่อว่าต้องมีคนพาลูกไป ส่วนที่ผู้ต้องสงสัยให้การไม่ตรงกัน ก็มองว่าน่าสงสัย
ในส่วนของความคืบหน้าทางคดี ตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ ยังคงเค้นสอบปากคำ นายเต่า ชายคู่ขาของผู้สูญหาย โดยสอบปากคำตั้งแต่เวลา 09.00 น. นายเต่า แฟนผู้สูญหาย ชี้เเจงรายละเอียดกรณีเข้ารีสอร์ต ในวันที่ 5 ธันวาคม เวลาประมาณ 02.00 น. ตนได้นัดเกย์ชื่อว่านายโต้ง ผ่านทางเเอปลิเคชัน เจอกันบริเวณด้านหน้า อบต.โคกว่าน นายโต้งขี่รถจักรยานยนต์มารับ ตนได้ซ้อนท้ายพากันไปที่รีสอร์ต ส่วนนายต่อ ผู้สูญหาย ก็ขี่รถจักรยานยนต์ตามไปด้วย เพื่อหวังจะสวิงกิ้ง เมื่อไปถึงรีสอร์ตได้เปิดห้องเบอร์ 5 นอนกับนายต่อ 2 คน ส่วนนายโต้ง เเยกไปเปิดห้องเบอร์ 4 ซึ่งอยู่ติดกัน
กระทั่งรุ่งเช้าเวลาประมาณ 06.00 น. มาทราบภายหลังว่านายนพธเนศน์ หรือ หมอต่อ ก็มาเปิดห้องพักเบอร์ 8 นอนกับชายอีกคน ซึ่งอยู่ห้องตรงข้ามกัน ตนกับผู้สูญหายจึงเดินไปเคาะประตูเรียกขอให้ฉีดยาไอซ์ให้ จากนั้นนายนพธเนศน์เดินตามเข้ามาที่ห้องเบอร์ 5 เเละได้ฉีดยาไอซ์ผสมน้ำเกลือให้กับตน ปริมาณ 10 cc. ส่วนนายต่อน่าจะฉีดเอง ปริมาณไม่ทราบว่าฉีดมากน้อยเเค่ไหน cต่ที่ผ่านมานายต่อฉีดประมาณ 10-15 cc.
จากนั้นเวลา 08.00 น. ตนชวนนายต่อกลับบ้าน แต่นายต่อยังไม่ยอมกลับ ตนจึงเกิดความน้อยใจเดินออกจากรีสอร์ตไป ก่อนที่นายต่อจะขี่รถจักรยานยนต์ตามออกไป จากนั้นตนก็ซ้อนท้ายกลับบ้าน หลังจากนั้นช่วงเย็นเกิดมีปากเสียงกันเรื่องไม่ยอมมีเซ็กซ์ ตนจึงไล่นายต่อออกจากบ้าน นายต่อขี่รถจักรยานยนต์ออกไป ต่อมาเวลา 20.00 น. ตนโทรหานายต่อถามว่าอยู่ที่ไหน นายต่อก็ตอบว่าอยู่บ้าน หลังจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีก
ส่วนกรณีที่พบรถจักรยานยนต์อยู่ในป่า ก็เชื่อว่าต้องมีคนพาเข้าไป เชื่อว่าตอนนี้ผู้สูญหายยังมีชีวิตอยู่ คงซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักเเห่ง เเต่เนื่องจากตอนนี้เป็นข่าวดัง มีเรื่องยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้องคงจะเกิดความอับอายชาวบ้าน เเละคงเครียดเรื่องครอบครัว เพราะเวลาทำอะไรไม่ดี นายต่อจะกลัวครอบครัวรู้
"ตอนนี้รู้สึกเครียดมาก ตำรวจสอบปากคำทุกวัน สอบตั้งแต่เช้ายันค่ำ ผมกลับไปร้องไห้ที่บ้านทุกวัน สงสารเเม่ เพราะเเม่ก็เครียดไม่ต่างกัน เเต่ผมยืนยันว่าผมบริสุทธิ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสูญหาย ตอนนี้ถูกเเรงกดดันจากครอบครัวนายต่อ เเละถูกเเรงกดดันจากสังคม จึงอยากขอความเป็นธรรมด้วย ส่วนกรณีที่ให้ปากคำที่ไม่ตรงกัน เป็นเพราะตนมีอาการเบลอ บางครั้งก็เกิดจากความเครียดที่ถูกเค้นสอบ จึงทำให้หลง ๆ ลืม ๆ ไปบ้าง" ส่วนถ้านายต่อดูข่าวอยู่ ก็ขอให้ออกมาคุยกัน ตอนนี้ทุกคนเป็นห่วง ตนเองก็เป็นห่วง
ล่าสุดเวลา 19.20 น. หลังจากนายเต่า ให้ปากคำกับตำรวจเสร็จ ยังยืนยันกับทีมข่าวว่าตัวเองบริสุทธิ์ สาบานต่อหน้าองค์พระพุทธรูปด้านหน้า สภ.เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์
โดยการจุดธูป 3 ดอก พร้อมกล่าวคำสาบานว่า "ข้าพเจ้านายจารุพันธ์ ข้าพเจ้าขอสาบานว่า ข้าพเจ้าไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการหายตัวไปของนายต่อ ถ้าข้าพเจ้ามีส่วนรู้เห็นกับการหายตัวไปของนายต่อ ขอให้ชีวิตฉิบหาย ขอให้ข้าพเจ้าตายโหง ขอให้ข้าพเจ้าตาย ภายใน 3 วัน 7 วัน"
Advertisement