ยังคงเป็นประเด็นที่ได้รับการติดตามจากคนในสังคม สำหรับการเสียชีวิตของสาวแตงโม นักแสดงชื่อดัง กระทั่ง “แซน - วิศาพัช มโนมัยรัตน์” เพื่อนที่อยู่บนเรือสปีดโบ๊ตลำเกิดเหตุ และเป็นผู้ที่เห็นสาวแตงโมพลัดตกน้ำ ออกมาไลฟ์สดแจงว่า "ตอนนั้นดื่มขาดสติ และเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น" ซึ่งหลาย ๆ คนก็ได้เข้าไปคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย
ล่าสุดวันที่ 3 มี.ค.65 เวลา 10.37 น. ตำรวจเรียกพนักงานเต็นท์รถมือ 2 พยานแวดล้อมของนายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ปอ เจ้าของเรือ ซึ่งเป็นเจ้าของธุระกิจเต้นท์รถมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำธุรกิจของนายปอ แม้จะผ่านไปกว่า 4 ชม. ตำรวจก็ยังสอบสวนไม่แล้วเสร็จ
เวลา 17.15 น. "ฮิปโป - ฉันท์ชนะ ยิ้มสาย" เพื่อนสนิท และเป็นผู้จัดการอีกคนหนึ่งของสาวแตงโม เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน โดยฮิปโป ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตนมาให้การว่าตอนที่ตนเดินทางไปพบกับกระติก และคนบนเรืออีก 4 คนที่อู่เรือ NBC หลังแตงโมตกน้ำไปแล้ว ตนยืนยันว่าคืนนั้นมีหลายคนอยู่ในอู่ แต่ตนจำหน้าได้ 3 คน คือ กระติก ปอ และแฟนปอ ซึ่งตอนนั้นตนก็ได้ถามกระติกว่า “ทำยังไง ดูแลยังไง ทำไมแตงโมตกน้ำได้” กระติกยืนยันว่า “แตงโม เดินไปปัสสาวะหลังเรือ” ตนมองว่าแตงโมไม่ได้โง่และเปรี้ยวขนาดนั้น ดังนั้นคำให้การทั้ง 5 คน ไม่น่าจะเป็นความจริงทั้งหมดหรือไม่
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยในการในการดำเนินคดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงกำชับสั่งการมาให้เร่งรัดคดี และกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ต้องทำอย่างรอบคอบ และตอบข้อสงสัยของสังคม ประชาชน ให้มีความโปร่งใส และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนความคืบหน้าทางคดีได้สอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ และพยานแวดล้อม รวม 29 ปากแล้ว และกำลังเชิญพยานแวดล้อมมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีก 8 ปาก พร้อมกับยึดเรือลำดังกล่าวไว้เป็นของกลางในคดีอาญาจนกว่าคดีจะแล้วเสร็จ
ส่วนกรณีใบพัดเรือหลุดขณะนำเครื่องไปจำลองเหตุการณ์นั้น ตนขอยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุ และงมขึ้นมาได้แล้ว นอกจากนี้ก็ไม่พบว่ามีการทำลายหลักฐานบนเรือแต่อย่างใด แต่ได้ส่งหลักฐานใบพัดเรือ หางเสือเรือ ที่อาจจะทำให้เกิดบาดแผลที่ขาของสาวแตงโมไปตรวจพิสูจน์หมดแล้ว หลังจากนี้จะดูว่าบาดแผลเข้ากันได้หรือไม่ แต่ตนยืนยันว่าแผลเกิดจากของแข็งที่มีคมอย่างแน่นอน
เวลา 21.15 น. ที่สภ.เมืองนนทบุรี "โบ-สุรัตนาวี สุวิพร" หรือ โบ TK (Triumphs Kingdom) ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนอื่นตนต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวน้องแตงโม เขาเป็นคนที่ทุกคน ๆ รู้จัก และการเสียชีวิตของเขาก็เป็นเรื่องใหญ่ ตนจึงรู้สึกเสียใจมาก ๆ ในวันนี้ตนได้เดินทางเข้ามาในฐานะพยานเพื่อให้ปากคำตามข้อเท็จจริง ตนขอเริ่มเล่าให้ฟังว่า ในคืนเกิดเหตุ (24 ก.พ.65) น้องกระติก โทรศัพท์มาหาตนเพื่อแจ้งให้ทราบว่า "โมตกน้ำ ๆ" ตอนนั้นตนก็ตกใจและทำอะไรไม่ถูก แล้วก็วางสายกันไป จากนั้นตนก็ติดต่อทุกคน อาทิ กรมเจ้าท่า, อาสาสมัคร, บีม, พี่จูน พี่เปิ้ล นาคร
ส่วนเหตุผลที่น้องกระติก โทรศัพท์หาตนก็เพราะว่าพวกเรา 3 คนผูกพันกัน เป็นพี่น้องคริสตจักร และส่วนใหญ่แล้วหากมีเหตุอะไรช่วงดึก ๆ ทุกคนในคริสตจักร ก็จะโทรศัพท์หาตนอยู่แล้ว เมื่อตนเดินทางมาถึงที่ท่าเรือก็ได้เจอกับทุก ๆ คนที่อยู่ในข่าว รับรู้เหตุการณ์ตรงนั้นจนถึงเวลา 03.00 น. หลังจากนั้นตนก็ขับรถของแตงโม ไปส่งน้องกระติกที่บ้าน และต้องขับผ่านท่าเรือพิบูลสงคราม แต่น้องกระติกบอกว่า "คนเยอะ มีนักข่าว ช่วงโควิดด้วย ไม่อยากเข้าไป" ตนก็เลยไม่ได้แวะเพราะด้วยอาการของน้องกระติกตอนนั้น ทำให้ตนต้องรีบขับไปส่งเขาที่บ้าน
"เรื่องแชตที่มันเกี่ยวกับโบ เพราะตอนนั้นน้องกระติก บอกว่าไม่เห็นเหตุการณ์ แต่อีกคนบนเรือเห็นเหตุการณ์ โบรู้ว่าแตงโมเป็นคนที่ห่วงตัวเองมาก ๆ การจะไปนั่งตรงนั้นก็ยาก แค่ลงรูปเขาอ้วนก็บอกให้เราลบรูปแล้ว โบจึงอยากจะถามว่า ใครที่เห็นเหตุการณ์ฉี่บนเรือจริง" โบ TK กล่าว
นายปริญญา ทนายความของ โบ TK ระบุว่า ตนได้รับการขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อทำให้คำให้การของ โบ TK ในวันนี้เป็นไปด้วยความยุติธรรมต่อรูปคดี ตนจึงขออนุญาตสื่อมวลชนให้ โบ TK ตอบข้อสักถามในประเด็นที่เกี่ยวข้องเท่านั้น แต่ว่าให้เชื่อและมั่นใจว่าคำให้การในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีแน่นอน ส่วนคำถามใครที่ โบ TK ไม่ตอบคือคำถามที่ได้ให้ปากคำกับตำรวจไปหมดแล้ว ตนยืนยันว่าหากมีข้อเท็จจริงในสำนวนปรากฏออกไปมากเกินไป เกรงว่าจะมีผลกระทบต่อรูปคดีได้
โบ TK กล่าวเสริมว่า หลาย ๆ คนอาจตั้งคำถามว่า เหตุใดตนถึงออกมาให้ข่าวช้าแบบนี้ ขอชี้แจงว่าตนเป็นคนแรก ๆ ที่น้องกระติก โทรศัพท์ไปหา และเห็นอะไรเยอะกว่าคนอื่น ๆ แต่เมื่อตนเห็นน้องกระติกให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่าง ๆ กลับมีบางอย่างไม่ถูกต้อง ในวันนี้ตนจึงคิดว่าเป็นวันที่เหมาะสมแล้ว และเหตุผลที่ตนเข้ามาพร้อมกับทนายความ เนื่องจากว่าการเสียชีวิตของแตงโม ได้รับการจับจ้องจากคนในสังคม แตงโมมีชื่อเสียง มีฐานะ มีสังคมในระดับหนึ่ง ตนจึงอยากจะมั่นใจว่าคำพูดของตนไม่ถูกบิดเบือน หรือย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองได้ ในวันนี้จึงต้องมีทนายความมาด้วย
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องของคุณเบนซ์ พริกไทย ภรรยาของคุณปอ เพราะมีรูปตนถ่ายคู่กับฝ่ายหญิง ตนจึงอยากจะชี้แจงว่า รูปถ่ายดังกล่าวเราถ่ายคู่กันจริงในงานมงคลงานหนึ่งของญาติตน หลังจากที่มีดราม่าคุณเบนซ์ก็โทรศัพท์มาหา แต่ตนไม่ได้รับสาย แม่ของตนก็เลยนำเบอร์ของเขามาให้ดู ถ้ามีเบอร์นี้โทรเข้ามาให้รับสาย ตนก็ถามแม่กลับว่า "โบเป็นญาติเขาเหรอ" จึงทำให้ทราบว่าเป็นญาติกันจริง เพราะเขาเป็นลูกของน้องชายแม่ตน แต่แม่เขาเลิกลากับน้องชายของแม่ตนไปนานแล้ว เขาจึงไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของนายตำรวจพ่อคนปัจจุบัน เป็นเพียงลูกติดภรรยาเท่านั้น
สำหรับอาการของน้องกระติก ช่วงที่ตนไปถึงอู่เรือดังกล่าว ก็เห็นว่าเขาช็อกและตกใจ หน้าแดง เสียงดังโวยวาย อยู่ในอาการเครียดมาก ๆ และมีน้ำตาคลอจนทำอะไรไม่ถูก ตนก็เป็นคนพาเขาไปที่โรงพัก จึงเสียความรู้สึกและเสียใจที่เขาให้สัมภาษณ์บางอย่างไม่ตรงกับที่ตนพบเจอ ถ้าวันนี้เขากลับใจตนก็จะหันมาช่วย และเขาก็พยายามติดต่อมาหาตนเพื่อขอโทษที่ลากตนไปยุ่งเกี่ยวกับคดี ตนก็บอกไปคำเดียวเลยว่า "กระติก ความจริงของคุณเท่านั้น ที่จะปกป้องคุณได้" ก่อนที่เขาจะส่งรูปร้องไห้กลับมา
"ตอนโบไปถึงอู่เรือสิ่งที่ถามน้องกระติก คือโทรหาเบิร์ดยัง โทรหาแม่ยัง โบบอกว่าต้องโทรนะ เขาก็บอกว่าพี่ ๆ โมตกน้ำหาคนช่วยหน่อย โบก็ถามว่าตกได้ไง เกิดอะไรขึ้น เพราะที่โบสถ์ใครจะเป็นตาย ไปโรงพยาบาล หรือหัวใจวาย ก็จะโทรหาโบหมด เพราะเราเป็นพี่น้องคริสตจักร ปกติแตงโมมีอะไรจะปรึกษาโบเสมอ กระติกเลยรู้ว่าโบสนิทกับแตงโม โบก็เลยไม่แปลกใจว่าทำไมโทรหาโบบอกให้คนช่วย ส่วนโรเบิร์ตเขารู้จักกับพี่ชายโบ โบก็เลยถามเขาว่ารู้ยังพี่ชายโบติดโควิด เขาก็ทำท่าไม่รู้เรื่อง ถามกลับโบว่านี่น้องเหรอ เขาก็เลยเพิ่งรู้ว่าโบเป็นน้อง" โบ TK กล่าวยืนยัน
อย่างไรก็ตาม ตนขอย้ำว่าคำให้การทั้งหมดของตน จะเป็นประโยชน์กับรูปคดี แต่คำสัมภาษณ์ของน้องกระติก จะเป็นอย่างไรก็เป็นส่วนของเขา เพราะเมื่อตนรู้ว่าเขาให้สัมภาษณ์แบบนั้น ตนก็ไม่ได้คุยกับเขาอีกเลย ตนคิดว่าจะพูดในส่วนของข้อเท็จจริงที่ตนได้เห็นเท่านั้น แต่จะไม่ขอแสดงความเห็นใด ๆ "โบคิดว่าถ้าโบได้เห็น หรือได้พบอะไรที่มันต้องพูด มันก็ไม่ได้เป็นภาระอะไร โบไม่ทราบว่าการให้ปากคำของโบจะเปลี่ยนคดีไหม โบไม่ใช่นักนักกฎหมาย แต่โบได้ดูผ่านรูปว่าเขาทำอะไรบ้างบนเรือ เขาก็ส่งรูปมาให้โบ ก็เลยได้โพสต์รูปทั้ง ๆ ที่โบไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ค่ะ ถ้าตอนนั้นเพื่อนตกน้ำแล้วโบไม่ไป อันนี้น่าจะแปลกกว่านะคะ และโบก็เป็นคนนำอธิษฐานเอง ตามความเชื่อที่เรารักพระเจ้า โบรู้ว่าตอนนี้แตงโมอยู่กับพระเจ้า ไม่ว่าพระเจ้าจะอยู่ที่ใดก็ตาม"
ทั้งนี้ ยังมีประเด็นที่โซเชียลฯ ตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมช่วงที่กระติก ขับรถเก๋งเข้ามาจอดก่อนที่จะขึ้นรถไปที่อู่เรือกับแตงโม รถเก๋งของกระติกถูกจอดหันหน้าเข้า แต่บางช่วงกลับพบว่ามีภาพปรากฏรถเก๋งหันหน้าออก หรือใครจงใจจะขยับรถหรือไม่ แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบความจริงว่า แม่บ้านของแตงโม เป็นผู้ขับรถคันดังกล่าวออกไป ก่อนที่จะขับกลับมาแล้วจอดหันหน้าออก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ฮิปโป เผยหนี้สิน แตงโม ยังต้องผ่อนบ้าน - รถ ตอนมีชีวิตหิ้วข้าวกองกลับมากินตลอด
- โบ TK เคืองสมาชิกสปีดโบ๊ตบิดเบือนเรื่อง แตงโม ฝาก กระติก สัจจะจะทำให้คุณเป็นไท
- นายกสมาคมแพทย์นิติเวช ไม่เกี่ยงส่งร่าง แตงโม ชันสูตรที่ไหน ย้ำอย่าเชื่อคนอื่นนอกจากหมอ
Advertisement