กรณีนายยอดรัก เถาย์ยา อายุ 30 ปี ถูกแทงด้วยอาวุธมีดโดยนายสมพจน์ การเพียร อายุ 30 ปี คู่เขย ซึ่งเป็นก่อเหตุคว้ามีดทำครัวแทงเข้าหน้าอกซ้ายและขวาอย่างละ 1 แผลเสียชีวิตคาที่ บริเวณหน้าบ้านพักหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ไพศาล อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ หลังจากทั้งคู่ทะเลาะและมีปากเสียงกันเรื่องเปิดเพลงเสียงดัง
จากการสอบสวน ก่อนเกิดเหตุนายสมพจน์ ใช้ให้ลูกสาวเดินออกไปเตือนนายยอดรัก ที่กำลังตั้งวงดื่มเหล้าและเปิดเพลงเสียงดังให้เบาลง เพราะห้องพักอยู่ติดกัน และนายสมพจน์ กำลังกล่อมลูกน้อยเข้านอน แต่นายยอดรัก ที่ไม่ค่อยถูกกันอยู่แล้วไม่ฟังเหตุผล แต่กลับเร่งเสียงเพลงให้ดังมากยิ่งขึ้น ทำให้ทั้งคู่เกิดการชกต่อยกัน ก่อนที่นายสมพจน์ จะคว้ามีดทำครัวแทงนายยอดรัก จนเสียชีวิต และยืนรอมอบตัวกับตำรวจไม่ได้หลบหนีไปไหน
ทั้งนี้ เหตุการณ์สลดที่เกิดขึ้นทำให้ลูกชายของนายยอดรัก ซึ่งเพิ่งจะคลอดลืมตาดูโลกเพียงแค่ 7 วัน ต้องกำพร้าพ่อ และในวันนี้ (1 เมษายน 65) คือ วันที่ภรรยาและลูกของนายยอดรัก จะต้องออกจากโรงพยาบาลกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้เจอกันกัน 3 พ่อแม่ลูก แต่สุดท้ายฝันกลับต้องพังสลาย เพราะทันทีที่ภรรยาของนายยอดรัก ทราบข่าวการเสียชีวิตของสามี ก็เอาแต่ร้องไห้ปานจะขาดใจ
ล่าสุดวันที่ 1 เม.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปบ้านที่เกิดเหตุ พบว่าภรรยาของผู้ตาย ได้ออกจากโรงพยาบาล กลับมาอยู่บ้านแล้ว บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า เพราะเมื่อฝ่ายหญิงเดินทางกลับมาถึงบ้าน ก็ต้องรีบไปจัดงานศพให้กับสามีตัวเอง
ทีมข่าวสอบถาม นางสุบุญศรี นุรินรัมย์ อายุ 26 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต เล่าทั้งน้ำตาว่า น้องปันปังเป็นเด็กผู้ชาย เพิ่งจะคลอดได้เพียง 7 วัน (25 มีนาคม 65) พ่อลูกก็ยังไม่ได้ทันเจอกัน พ่อก็จากไปแล้ว ตนเสียใจมากเพราะลุกชายจะไม่ได้เห็นหน้าพ่อของเขาอีกแล้ว จะมีแต่เพียงรูปถ่ายเท่านั้น และตนก็ยังช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนหน้าจะคลอดลูกสามีก็ตื่นเต้นมาก ๆ เพราะเป็นลูกคนแรกที่เขาตั้งหน้าตั้งตารอ
นอกจากนี้ ตนคิดว่านายสมพจน์ ทำเกินกว่าเหตุ แต่ก็ยอมรับว่าสามีเปิดเพลงเสียงดังจริง แล้วทำไมไม่คุยกันดี ๆ ชกต่อยกันก็พอแล้ว ทำไมต้องถึงขั้นใช้มีดแทงสามีของตนจนตาย ตอนนี้สงสารลูกชายมาก ๆ ที่จะต้องกำพร้าพ่อตั้งแต่เกิด ส่วนลางสังหรณ์ก่อนสามีเสียชีวิต ขณะที่ตนกำลังนอนรักษาตัวหลังคลอดที่โรงพยาบาล ตนฝันว่าได้กลับไปที่บ้าน แต่ว่าพื้นบ้านเต็มไปด้วยเลือด และก่อนหน้าสามีจะเสียชีวิต 1 วัน เขาได้พูดแปลก ๆ ด้วยว่า “คนเราเกิดมาเดี๋ยวไม่นานก็ตาย” ตนไม่คิดเลยว่า สามีจะต้องมาตายจริง ๆ
ขณะที่บรรยากาศที่วัดบ่อดิน แม่ของนายยอดรัก ได้นำศพลูกชายกลับจากโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ก่อนจะตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ที่วัด บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า แม่ของนายยอดรัก จุดธูป 1 ดอก เรียกดวงวิญญาณของลูกชายให้กลับมาที่งานศพ โดยครอบครัวตั้งใจจะบำเพ็ญกุศลศพเป็นเวลา 1 คืน จากนั้นวันพรุ่งนี้ (2 เม.ย.65) จะทำพิธีฌาปนกิจต่อไป
ส่วนเรื่องของคดี ล่าสุดตำรวจ แจ้งข้อหานายสมพจน์ฐาน ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และไม่มีการพาตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเนื่องจากกลัวชาวบ้านจะรุมประชาทัณฑ์โดยในวันพรุ่งนี้จะนำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์ต่อไป
นายสมพจน์ การเพียร ผู้ก่อเหตุ ให้การรับสารภาพว่า เหตุผลที่ตนต้องใช้อาวุธมีดแทง เพราะคู่เขยเข้ามาทำร้ายตนถึงในบ้านก่อน ตนเห็นท่าไม่ดีจึงหยิบมีดปลายแหลมในครัวเพื่อป้องกันตัว แต่ในจังหวะที่ชกต่อยกัน ตนก็พยายามผลักเขาออกไปข้างนอก แต่เขากลับไม่ยอมหยุด ยังพยายามจะเข้ามาทำร้ายตน อีกทั้งใช้มือบีบคอจนตนเกือบหายใจไม่ออก จึงตัดสินใจใช้มีดที่ถือในมือจ้วงแทงจนเป็นเหตุให้คู่เขยเสียชีวิต ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาจะแทงให้ถึงแก่ชีวิต
Advertisement