โจรฟิตเนส ฉกทรัพย์เสี่ยหนุ่ม 10 ล้าน สารภาพเล็งเหยื่อไว้นานแล้ว ยืนยันทำเป็นครั้งแรก
ตำรวจนนทบุรีนำตัวคนร้ายลักทรัพย์สิน เสี่ยหนุ่มนักธุรกิจอสังหาในฟิตเนสไปกว่า 10 ล้าน มาสอบปากคำ ยันเพิ่งทำครั้งแรก และปั๊มกุยแจล็อกเกอรืไปแค่ 2 ดอก
คอนเทนต์แนะนำ
จากกรณีนายสาธิตเสี่ยหนุ่มนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เข้าเล่นฟิตเนสบนชั้น 15 ห้างดังย่านงามวงศ์วาน แล้วทรัพย์สินมีค่า เช่น นาฬิกา พระ สร้อยพระ เลส แหวน กุญแจรถ ที่เก็บเอาไว้ภายในล็อกเกอร์ได้สูญหายไปจากที่เก็บของในสถานที่ดังกล่าวโดยที่ไม่พบร่องรอยของการงัดแงะแต่อย่างใด ต่อมาทางผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามทรัพย์สินดังกล่าวกลับคืนมา
หลังเกิดเหตุทาง พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.ท.วรทัศน์ วัฒนชัยนันท์ รอง ผกก.สส. ร.ต.อ.วิสายันต์ หิรัญรัตน์ รอง สว.สส. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนร่วมกับสืบสวนภาค 1 สืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรีลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดหาหลักฐานรายละเอียดในที่เกิดเหตุสถานที่ออกกำลังกายฟิตเนสดังกล่าว จนทราบตัวคนร้ายคือ นายณรงค์พล พลโสธร อายุ 38 ปี ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดขอหมายศาลจังหวัดนนทบุรีจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในสถานที่พักย่านเมืองนนทบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนขยายผลติดตามทรัพย์สินของเสี่ยหนุ่มนักธุรกิจรายนี้
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 มกราคม 2566 พ.ต.อ.จตุรนต์ อักษรบัณฑิต ผู้กำกับสภ.เมืองนนทบุรี พร้อมด้วยชุดสืบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาออกมาจากห้องควบคุมเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม โดยนายณรงค์พลให้ปากคำว่าตนเพิ่งทำเพียงครั้งแรก แอบปั๊มกุญแจล็อกเกอร์ในสถานที่ฟิตเนสดังกล่าวไว้เพียง 2 ดอก หลังขโมยทรัพย์สินของนายสาธิตเสี่ยหนุ่มรายนี้แล้วตนได้นำนาฬิกาโรเล็กซ์ฝังเพชรหน้าแดงของผู้เสียหายไปให้เพื่อนสนิทที่รู้จักกันนำไปเพื่อตรวจสอบยังห้างสรรพสินค้าย่านงามวงศ์วานว่าเป็นของจริงหรือไม่ ปรากฏว่าทางร้านยืนยันเป็นของจริงและบอกว่าถ้าจะขายก็จะได้ราคาประมาณ 3-4 แสนบาท แต่เนื่องจากนาฬิกาดังกล่าวไม่มีใบเซอร์และอุปกรณ์ที่ติดมาด้วย ซึ่งถ้ามีเอกสารยืนยันจะราคาสูงถึง 7-8 แสนบาท ตนจึงนำกลับมาที่ห้องก่อนโดยไม่ทันได้นำไปขาย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาตรวจค้นและพบของกลางทั้งหมดที่ห้องและนำกลับคืนไป
นายสาธิตหนุ่มนักธุรกิจผู้เสียหายกล่าวว่าตนรู้สึกโล่งใจ ทรัพย์สินที่ตนเห็นจะมีนาฬิกาสร้อยพระสมเด็จองค์เดียว พระอีก 2 องค์ยังไม่เห็น คนร้ายเอาพระไปแกะเอากรอบทองคำไปขายเหลือแต่พระ ที่เหลือมีเสื้อผ้า เข็มขัด ซึ่งคนร้ายบอกไม่รู้เอาไว้ไหนและเลสแหวนเพชรเอาไปจำนำ ตนน่าจะต้องไปไถ่ออกมาเอง คนร้ายบอกเอาไปจำนำแล้วนำเงินไปซื้อทองคำมาใส่ 3 บาท และเงินส่วนหนึ่งเอาไว้ในบัญชี ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ตนยังไม่ทราบว่าตำรวจจะดำเนินการต่อ ยังไงตนคงต้องไปไถ่ของออกมาเองก่อน
ส่วนจะเข้าไปใช้บริการฟิตเนสแห่งนี้อีกมั้ยคงไปแต่ก็จะย้ายไปใช้บริการสาขาอื่นมากกว่า และคงจะระมัดระวังตัวมากกว่านี้ ทางฟิตเนสมีประสานงานเรื่องคดีแต่ไม่เคยโทรมาหาตนส่วนตัวเลย ตนอยากให้ทางฟิตเนสเพิ่มมาตรการให้มากกว่านี้ ติดกล้องให้มากกว่าเดิม เพิ่มความปลอดภัยเรื่องล็อกเกอร์ให้มากกว่านี้ คนร้ายให้การว่าเล็งตนมานานแล้วและนั่งดักรอตนตรงหน้าเคาน์เตอร์เช็กอิน พอเห็นตนเข้ามาใช้บริการก็จะรีบวิ่งขึ้นมาดูว่าตนจะใช้บริการล็อกเกอร์ตรงกับที่คนร้ายปั๊มกุญแจไว้มั้ย และวันนั้นก็ตรงกันพอดีตนจึงถูกขโมยดังกล่าว
Advertisement
