ทนายตั้ม แฉหมดไม่สนลูกใคร ขบวนการส่วยโยง "บิ๊กต่อ" เปิด 18 ธุรกิจเก็บค่าตั๋ว

ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ตั้งโต๊ะเปิดโปงขบวนการส่วยโยง "บิ๊กต่อ" ผบ.ตร. ย้ำยอมเจ็บแต่ทำเพื่อชาติ แฉ 18 ธุรกิจต้องตีตั๋วจ่ายส่วยให้สีกากี

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

 วันนี้ (26 มี.ค.) ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ตั้งโต๊ะแถลงต่อสื่อมวลชนเปิดโปงขบวนการส่วยที่มีตำรวจระดับบิ๊กเกี่ยวข้อง โดยระบุว่าวันนี้จะแถลงม้วนเดียวจบ บางคนอาจจะบอกว่าโง่หรือเปล่าที่มาทำแบบนี้ แต่ว่าตอนได้คุยกับครอบครัวแล้วว่าถ้าชาติได้ประโยชน์ตนก็ยอม

ทนายตั้มเผยว่า เรื่องนี้มีตัวละครหลัก 3 รายคือ ดาบยาว หรือ ด.ต.อภิชาติ มีหน้าที่รวบรวมส่วยของทุกทีม คนต่อมาคือ รองฟาง หรือ พ.ต.ท.สุรกุล และบิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ซึ่งวันนี้หากบิ๊กต่อดูอยู่ก็คงโมโหตนแน่นอน แต่ตอนตัดสินใจแล้วว่าวันนี้จะเปิดโปงทั้งหมด

ส่วยที่จะพูดถึงคือการตีตั๋ว หมายถึงจะทำธุรกิจสีเทาก็ต้องมาขอซื้อตั๋วเพื่อส่งส่วยก่อน ตอนนี้มีอยู่ 18 อย่างที่ต้องตีตั๋ว ได้แก่ 1.เว็บพนันออนไลน์ 2.บ่อนการพนัน 3.เงินกู้ไทยแขก 4.หวยใต้ดิน 5.สถานบันเทิง 6.ร้านนวดที่แฝงขายบริการ 7.อาบอบนวด 8.ซาวน่าที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย 9.ร้านเหล้าที่มีพีอาร์ 10.บุหรี่ไฟฟ้า 11.บุหรี่หนีภาษี 12.ตลาดนัด 13.สถานที่ประกอบการแรงงานต่างด้าว 14. จุดคอกรับซื้อน้ำมันเถื่อน 15.น้ำมันเขียวที่ช่วยรัฐช่วยชาวประมง 16.โต๊ะสนุกเกอร์ 17.หัวหน้าแขกที่เอาแขกมาขายถั่วโรตี 18.คนขายยาเซ็กซ์และมีเพศสัมพันธ์ไลฟ์สดเพื่อขายยาเซ็กซ์

ทีมเก็บส่วยแบ่งเป็นภาค ซึ่ง รองฟาง กับ ดาบยาว มีบัญชีม้าคอยโอนเงินเข้าและออก ส่วยที่เก็บมานั้นจะส่งยอดกันในทุกวันที่ 25 ของทุกเดือนที่ตึก สอท. โดยทนายตั้มอ้างว่า ก่อนหน้านี้มีการจับเว็บพนันรายใหญ่ของ นางพิมพ์วิไล เว็บบีเอ็นเค Master และวีนัส Master ซึ่งนางพิมพ์วิไล เคยโอนเงินให้บัญชีม้า และบัญชีม้าได้โอนเงินไปที่บัญชีม้าของดาบยาว ก่อนที่จะโอนเงินให้ เมีย พี่ชาย พี่สาว ของ ผบ.ตร. มีโอนให้ผู้สื่อข่าวด้วย และโอนสร้างวิหารวัดนครอินทร์ ซึ่งส่วนที่โอนไปสร้างวิหารวัดนครอินทร์ จำนวน 7 แสนบาท พบว่ามีชื่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นประธานทอดกฐิน ที่วัดดังกล่าวเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ทนายตั้ม ได้มีการต่อสายถึง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และนัดหมายเพื่อนำเอกสารต่างๆ ไปยื่นเพื่อให้มีการตรวจสอบ ในวันที่ วันที่ 28 มี.ค.นี้ เวลา 11.00 น.

ทนายตั้ม ยังเผยอีกว่า การออกมาเปิดเผยเส้นทางเงินของบัญชีม้าที่มีการโยงไปถึงตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในครั้งนี้ ได้มีการปรึกษาครอบครัวแล้ว เพราะรู้ถึงผลที่จะตามมา ตนยอมเจ็บ เพื่อให้สังคมเปลี่ยนแปลง การออกมาครั้งนี้ไม่ได้มีใครอยู่เบื้องหลัง และไม่มีคนว่าจ้างแต่อย่างใด และไม่ได้เป็นการช่วยบิ๊กโจ๊ก หรือ พล.อ.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ซึ่งเจ้าตัวได้มีการห้ามแล้วว่าถ้าแฉก็จะไมได้กลับมาแน่ แต่ตนเองยืนยันที่จะออกมาเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว

ทั้งนี้หลังการแถลงข่าว ทนายตั้มได้โพสต์เฟซบุ๊กเพจ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โดยระบุว่า "ผมรู้สึกว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผมหลงแสงสีและชื่อเสียง จนหลงลืมว่า ผมเกิดมาจากการเป็นทนายประชาชน ผมเลือกที่จะใส่เสื้อผ้าราคาแพง ใช้ของราคาสูง เพราะรู้สึกว่ามันก็แค่เรื่องของรสนิยม จนทำให้หลายคนรู้สึกต่อต้านและเกิดคำถามมากมาย วันนี้ผมคิดได้แล้วครับ และจะกลับมาเป็นไอ้ตั้มคนเดิม ใส่เสื้อยืดทนายประชาชนตัวเดิม ด้วยความภาคภูมิใจ ไม่ได้ใช้ชีวิตแบบบ้ายี่ห้อจนหลงลืม ปากท้องและชาวบ้าน วันนี้ผมเลยเลือกที่จะเปิดโปงส่วยตำรวจ ที่มีความเสี่ยงกับชีวิตตนเองและครอบครัว เพื่อพิสูจน์ว่าผมเปลี่ยนไป และผมไม่ใช่เด็กใคร ไม่ต้องเชื่อผมวันนี้ แต่ดูกันไปนานๆ ขอโทษที่ทำให้ผิดหวังและเสียความรู้สึกนะครับ"