จากคู่รัก กลายเป็นคู่กรณี เปิดไทม์ไลน์คดีฆ่า "เสี่ยต้น" เจ้าของธุรกิจสอนสปาและนวดแผนไทย ตำรวจชี้ "เจ๊มด" เมียรักเป็นผู้บงการสังหาร
จากกรณีการเสียชีวิตของ นายพิชิต กลีบจินดา หรือ "เสี่ยต้น" เจ้าของธุรกิจสอนสปาและนวดแผนไทย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังกลับไปหานางมด ภรรยา ที่บ้านพักในจังหวัดมหาสารคาม กระทั่ง น.ส.ณัฐปภัษร์ ธนภัคนันท์หิรัญ หรือ เจ น้องสาวของเสี่ยต้น เข้าปรึกษาเพื่อขอความช่วยเหลือกับทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เนื่องจากสงสัยการตายมีเงื่อนงำ เพราะสภาพศพดำคล้ำผิดปกติ เหมือนถูกวางยาพิษ จึงได้เดินหน้าร้องขอให้ตำรวจรื้อฟื้นคดีการเสียชีวิตของพี่ชาย จนในที่สุดตำรวจได้ออกหมายจับ น.ส.วรรณิภา หรือ เจ๊มด ภรรยาของเสี่ยต้น พร้อมกับพรรคพวกในข้อหาจ้างวานฆ่าในพื้นที่ สน.วังทองหลาง ส่วนการตายของเสี่ยต้นในจังหวัดมหาสารคามนั้น เชื่อว่ามีหลักฐานเชื่อมโยงมัดตัวกลุ่มคนร้ายได้แน่นอน
จากเหตุสลดใจนี้ ทีมข่าวขอสรุปไทม์ไลน์ คดีฆ่า "เสี่ยต้น" ออกมาเป็นดังนี้
• วันที่ 8 เมษายน 2567 คนร้ายขี่มอเตอร์ไซค์ประกบยิงเสี่ยต้น
เวลาประมาณ 23.35 น. เกิดเหตุคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ประกบข้างรถยนต์ของนายพิชิต กลีบจินดา (เสี่ยต้น) เจ้าของธุรกิจโรงเรียนสอนสปาและนวดแผนไทย และใช้อาวุธปืนพยายามฆ่าในพื้นที่ สน.วังทองหลาง แล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป เสี่ยต้นได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พงส.สน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายกับพวกรายดังกล่าวตามกฎหมาย
• วันที่ 15 เมษายน 2567 เสี่ยต้นไปหาเจ๊มดที่บ้านในจังหวัดมหาสารคาม
เสี่ยต้นเดินทางกลับไปยังบ้านของ น.ส.วรรณิภา (เจ๊มด) ภรรยาที่ อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม และร่วมนั่งรับประทานอาหารและดื่มสุรากันที่หน้าบ้าน โดยมีรายงานว่า ทั้งคู่ได้นัดพูดคุยเรื่องปัญหาครอบครัว โดย น.ส.มด บอกว่าหากเสี่ยต้นไม่มาจะตัดขาดความสัมพันธ์ และจะขายทุกอย่างให้หมด
• วันที่ 16 เมษายน 2567 เสี่ยต้นเสียชีวิตปริศนา เจ๊มดกล่อมญาติไม่ให้ชันสูตรศพ
เสี่ยต้นเสียชีวิตที่หน้าบ้านหลังภรรยาในช่วงเช้าโดยไม่ทราบสาเหตุ ต่อมาญาติของเสี่ยต้นสงสัยในสาเหตุการเสียชีวิตเพราะเป็นการตายผิดธรรมชาติ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวน แต่เจ๊มดพูดจาหว่านล้อมญาติทุกคนว่าไม่ให้มีการผ่าชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต เจ๊มดเร่งให้เผาศพทันที เป็นการพยายามทำลายหลักฐาน เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงได้
• วันที่ 19 เมษายน 2567 พิรุธศพดำผิดปกติ รีบสวด รีบเผา วันศุกร์ยังไม่เว้น
ญาติได้ทำการฌาปนกิจเสี่ยต้น แม้วันนั้นจะตรงกับวันศุกร์ที่คนไม่นิยมเผาศพก็ตาม โดยสัปเหร่อบอกว่า สภาพศพผิดสังเกตคือ บริเวณใบหน้าที่เขียวคล้ำจนเกือบดำจนผิดปกติ รวมถึงบวมและมีกลิ่น ตนจึงจัดการร่างตามขั้นตอนปกติอย่างเร่งด่วน ซึ่งหลังเผาเสร็จญาติมาเก็บกระดูก ตนก็แปลกใจอีกเพราะกระดูกมีสีดำ ทำงานนี้มาหลายปี ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน แต่ตนไม่ได้ถามหรือพูดอะไร แค่ทำหน้าที่ของตนให้เสร็จ
• วันที่ 22 พฤษภาคม เจ๊มดออกทีวี ยืนยันไม่รู้ไม่เห็น วอนสังคมให้เข้าใจหัวอกตนด้วย
เจ๊มด ไปออกรายการ โหนกระแส ให้สัมภาษณ์ถึงการเสียชีวิตของเสี่ยต้นผู้เป็นสามี เจ๊มดเล่าว่า เมื่อเสี่ยต้นเมาหนักจะมีอาการโมโหร้าย หมอจึงให้แยกกันอยู่ก่อนจนกว่าอาการจะดีขึ้น วันที่เกิดเหตุแม่ของตนพบเสี่ยต้นนอนเสียชีวิตอยู่หลังเมาสุราหลับไป ส่วนกรณีที่ถูกลอบยิง ตนไม่รู้ไม่เห็นเพราะไม่ได้ไปด้วยเนื่องจากต้องดูแลลูก ตนไม่รู้จักกับคนร้าย และไม่ทราบว่าเป็นการยิงขู่ หรือหวังเอาชีวิต หากตนไปด้วยคนที่โดนยิงตายอาจเป็นตนก็ได้ เนื่องจากตำแหน่งที่ถูกยิงเป็นตำแหน่งที่ตนนั่ง ขอยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการเสียชีวิตของสามี ขอวอนสังคมให้เข้าใจหัวอกตนที่เป็นทั้งเมีย และเป็นทั้งแม่ด้วย
• วันที่ 24 พฤษภาคม 2567 พยานปากสำคัญโดนขู่ สะกดรอยตาม
น.ส.หมวย ลูกพี่ลูกน้องของเสี่ยต้น และ น.ส.เจ น้องสาวเสี่ยต้น พยานปากสำคัญเข้าพบตำรวจ สน.วังทองหลาง ว่าถูกชายปริศนาโทรข่มขู่ และถูกบุคคลต้องสงสัยสะกดรอยตาม โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 พ.ค.67 ตนรู้สึกไม่ปลอดภัยจึงเข้ามาแจ้งความ เชื่อว่าเรื่องนี้มาจากกรณีที่ตนออกมาเคลื่อนไหวเรื่องเหตุลอบยิง และการเสียชีวิตของเสี่ยต้น
น.ส.หมวย เล่าว่าตนกับเสี่ยต้น และ น.ส.มด สนิทกันมานาน พอตนรู้ว่าเสี่ยต้นจะไปบ้านภรรยาที่มหาสารคาม ก็ถามว่าจะให้ไปเป็นเพื่อนมั้ย ตนเป็นห่วงเพราะเมื่ออาทิตย์ก่อนเพิ่งถูกลอบยิงมา แต่เสียต้นบอกไม่เป็นไร ไปเองได้ จนกระทั่งตนทราบข่าวว่าเสี่ยต้นเสียชีวิต จึงได้เดินทางไปที่จังหวัดมหาสารคาม พร้อมครอบครัวและญาติของเสี่ยต้นทันที เพื่อขอระงับการเผาศพ และสอบถามรายละเอียดการเสียชีวิต
ตำรวจแจ้งว่าภรรยาและญาติภรรยาไม่มีใครติดใจการตาย แต่หากฝั่งครอบครัวเสี่ยต้นติดใจจะให้ชันสูตรจะต้องดำเนินการเองและออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ตนกับครอบครัวของเสี่ยต้นจึงกลับไปปรึกษากันที่โรงแรมว่าจะทำอย่างไรต่อไป จนได้ข้อสรุปกันว่าภรรยาตั้งสวดศพของเสี่ยต้นไปแล้ว 1 คืน หากจะต้องนำร่างของเสี่ยต้นออกมาจากโลงเพื่อส่งชันสูตร ก็จะเป็นการไม่ให้เกียรติคนตาย ตนจึงบอกให้พ่อแม่เสี่ยต้นไปคุยกับเจ๊มดลูกสะใภ้ หลังจากนั้นแม่ของเสี่ยต้น ก็แจ้งกับทางตำรวจว่าไม่ติดใจสาเหตุการตายของลูกชายแล้ว ทำให้ไม่ได้ส่งศพไปชันสูตร
• วันที่ 25 พฤษภาคม 2567 พระพ่อเสี่ยต้นแฉลูกสะใภ้ บอกจะให้เงินถ้าไม่เอาศพไปชันสูตร
ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ พร้อมครอบครัวเสี่ยต้น ประกอบด้วย พระวสันต์ พ่อของเสี่ยต้น นางประภาพินท์ แม่เสี่ยต้น นางสาวณัฐปภัษร์ หรือ เจ น้องสาวเสี่ยต้น น.ส.หมวย และนายตั้ง ญาติสนิทเสี่ยต้น แถลงข่าวยืนยันติดใจการเสียชีวิตของเสี่ยต้นตั้งแต่แรก เนื่องจากเคยถูกลอบยิงในพื้นที่ สน.วังทองหลาง มาก่อนด้วย
หลวงพ่อวสันต์ เล่าว่า หลังลูกชายเสียชีวิตครอบครัวไม่มีเงินจ้างรถและจ้างแพทย์ชันสูตรศพ หลวงพ่อไปเคารพศพที่บ้าน น.ส.มด ภรรยานายต้น ขณะกำลังจุดธูป น.ส.มด เข้ามานั่งข้างๆ และบอกว่า ถ้าเอาศพไปผ่า แล้วเจอสารที่ทำให้กล้ามเนื้อใหญ่ ประกันจะไม่จ่ายเงินให้ แต่ถ้าไม่ผ่าก็จะได้เงินมาบ้าง และ น.ส.มด จะถวายให้ 2-3 ล้านบาท หลวงพ่อตอบกลับไปว่า ถ้าจะให้ ขอไม่รับ แต่ขอคอนโดให้แม่ของเสี่ยต้น เพราะไม่มีที่อยู่อาศัย และขอให้ น.ส.มด สร้างกุฎิถวายสงฆ์ อุทิศส่วนกุศลให้นายต้น ปัจจัยที่จะให้ หลวงพ่อไม่เอา ขอแค่นี้
ด้านนางประภาพินท์ ก็สงสัยว่าทำไมสภาพลูกชายถึงดำขนาดนี้ ดำเหมือนถ่าน แต่ไม่ได้ถามอะไร ลูกสะใภ้ยังต่อว่าตนทำนองบ้านของเค้ากับลูกชาย แม่ไปอยู่บ้านเค้าโดยที่แม่ไม่ได้ซื้อ พร้อมเผยที่ผ่านมาเป็นคนเลี้ยงหลานทั้ง 3 คนมาตั้งแต่เกิด อยู่กันมาหลายสิบปี จะมาไล่แม่ออกจากบ้าน ซึ่งอยากเรียกร้องความยุติธรรมให้ลูกชาย อยากให้ทุกคนช่วยเท่าที่จะช่วยได้
• วันที่ 29 พฤษภาคม 2567 ทนายเดชาบอกตำรวจรู้แล้วใครทำ มีหลักฐานเชื่อมโยงหมด
ทนายเดชา เผยความคืบหน้าทางคดีว่า ตำรวจมีข้อมูลทั้งหมดแล้วว่าใครเป็นคนยิง ใครนัดแนะและจ้างวาน ใครจ่ายเงินให้ใคร เพราะลักษณะการก่อเหตุทำเป็นขบวนการ มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน พร้อมกับเฝ้าสะกดรอย ก่อนจะลงมือก่อเหตุและจ่ายเงินค่าจ้าง โดยเมื่อคืนวันที่ 8 เมษายน คนร้ายมีการวางแผนจะก่อเหตุฆ่าเสี่ยต้นที่จุดอื่นก่อนแล้ว แต่ไม่สำเร็จ จึงนัดแนะให้มาที่ร้านโรงเหล้าแสงจันทร์อีกครั้ง แล้วก็ลงมือก่อเหตุหลังออกจากร้านนี้
ส่วนความเชื่อมโยงระหว่างคดีลอบยิงที่ สน.วังทองหลาง กับคดีการเสียชีวิตปริศนาที่ สภ.ยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม ทนายเดชา มองว่า มีบุคคลที่เชื่อมโยงกันแน่นอน ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน
• วันที่ 3 มิถุนายน 2567 รวบ เจ๊มด เมียเสี่ยต้น ใจอำมหิตจ้างวานลอบยิงผัว
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. สั่งการให้ตำรวจนำกำลังไปจับกุม น.ส.วรรณิภา หรือ มด ภรรยาเสี่ยต้น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2562/2567 ลงวันที่ 2 มิ.ย. 67 และนายสาโรจน์ หรือ นายแป๊ะ และนายวีรภัทร หรือ วี โดยจับกุมได้ที่บ้านพักย่านรามอินทรา และย่านลาดพร้าว
จากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า น.ส.วรรณิภา หรือ มด ทำหน้าที่จ้างวานพยายามฆ่าเสี่ยต้น เนื่องจากมีสาเหตุโกรธเคืองเพราะถูกสามีนอกใจ และมีการทะเลาะกันหลายครั้ง จนถึงขั้นมีการทำร้ายร่างกาย จากนั้นจึงเริ่มมีการวางแผนที่ฆ่าเอาชีวิตเสี่ยต้น โดยมีการว่าจ้างนายสาโรจน์จัดหาอุปกรณ์อาวุธปืนในการก่อเหตุครั้งนี้
เบื้องต้น นายสาโรจน์ และนายวีรภัทร รับสารภาพว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการและได้รับเงินค่าจ้างจริง แต่ในส่วนเจ๊มด ภรรยาเสี่ยต้น ยังให้การภาคเสธ บอกเพียงว่า มีเรื่องโกรธเคืองและขัดแย้งกันมาตั้งแต่เดือนมีนาคม เป็นปัญหาในครอบครัวที่มีประเด็นเรื่องการหึงหวงด้วย
ส่วนประเด็นเรื่องการจ้างวานนั้น จากข้อมูลทางการสืบสวน พบว่า ก่อนหน้านี้ ภรรยาเสี่ยต้น ได้มีการเสิร์ชหาข้อมูลเกี่ยวกับมือปืนรับจ้าง ผ่านทางโซเชียลมีเดีย จากนั้นก็มีการทักพูดคุยกับมือปืน คือ นายณัฐพล แล้วต่อมาวันที่ 1 เมษายน ได้มีการนัดพบกันที่สวนหลวง ร.9 เพื่อนัดแนะและวางแผน จากนั้น นายณัฐพล มือปืน ไปติดต่อนายสาโรจน์ให้เตรียมจัดหาที่พัก อาวุธปืน และรถมอเตอร์ไซค์ ทำให้นายสาโรจน์ไปติดต่อให้นายวีรภัทรมาร่วมขบวนการ ซึ่งพบว่าเจ๊มด มีการจ่ายเงินค่าจ้างผ่านทางนายณัฐพล มือปืน รวมเป็นจำนวนเงินกว่า 3 แสนบาท โดยมีทั้งการโอนเข้าบัญชีและจ่ายเป็นเงินสด
เจ้าหน้าที่ตำรวจยังเผยอีกว่า ความเชื่อมโยงระหว่างคดีที่ สน.วังทองหลาง กับ คดีที่ สภ.ยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม เบื้องต้นเชื่อมโยงกันแน่นอน ในเรื่องของตัวบุคคลที่เป็นกลุ่มก่อเหตุซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องกัน โดยหลังจากก่อเหตุลอบยิงครั้งแรกไม่สำเร็จ จึงมีการพูดคุยกันและล่อลวงให้เสี่ยต้น ไปที่จังหวัดมหาสารคาม ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีคนในครอบครัวของภรรยาเสี่ยต้น มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผล โดยยืนยันว่าหากมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใคร จะดำเนินการทั้งหมด แต่ยืนยันว่า คดีลอบยิงเสี่ยต้นนั้น ตำรวจมีหลักฐานชัดเจนว่า ภรรยาเสี่ยต้นซึ่งตกเป็นผู้ต้องหา ฐานใช้จ้างวาน ได้ทำหน้าที่เป็นคนชี้เป้า ส่งพิกัด และนัดเสี่ยต้นไปที่โรงเหล้าแสงจันทร์ ก่อนจะให้มือปืนลงมือก่อเหตุ
• วันที่ 4 มิถุนายน 2567 แม่เสี่ยต้น ยื่นหนังสือคัดค้านการประกันตัวเจ๊มด จ้างลอบยิง
ทีมทนายความของทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้เดินทางเข้ามายังสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง พร้อมกับแม่และน้องสาว รวมถึงคนสนิทของเสี่ยต้น เพื่อยื่นหนังสือขอคัดค้านการประกันตัวนางสาววรรณิภา หรือ เจ๊มด ผู้ต้องหาในคดีจ้างวานฆ่าเสี่ยต้น แม่ของเสี่ยต้นเผยว่าไม่อยากเจอหน้าลูกสะใภ้เลย เพราะทำใจไม่ได้ ไม่คิดว่าจะโหดร้ายขนาดนี้
ด้านกองบัญชาการตำรวจนครบาล เผยว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการเร่งติดตามตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 1ราย ส่วนพยานหลักฐาน แม้ เจ๊มด ภรรยาเสี่ยต้น ผู้จ้างวานจะให้การปฏิเสธ แต่ยืนยันว่า ตำรวจมีความมั่นใจในพยานหลักฐาน ถ้าไม่มั่นใจคงไม่จับกุม ส่วนจะมีใครเข้ามาเกี่ยวข้องนอกจาก 4 ผู้ต้องหาหรือไม่นั้น ขอเวลาตำรวจทำงานก่อน ส่วนความเชื่อมโยงกับคดีการเสียชีวิตในมหาสารคามนั้น คดีลอบยิงถือเป็นจิกซอว์ที่จะเชื่อมโยงกัน เนื่องจากคนร้ายเป็นกลุ่มเดียวกัน
Advertisement