แม่ทัพภาคที่ 3 สั่งจำคุกทหารสิบเวรประจำวัน เป็นเวลา 45 วัน และงดบำเหน็จ กรณีทหารกองประจำการ มทบ.37 ถูกลงโทษไม่เหมาะสม
จากกรณีเพจสายไหมต้องรอดได้ลงข้อความว่าระบุว่า เปิดเผยเรื่องราวของพลทหารนายหนึ่งได้ถูกจ่าทหารทำโทษบังคับให้แก้ผ้าประจานหน้าบริเวรหน่วยฝึกศึกษาวิชาทหารมณฑลทหารบกที่ 37 จ.เชียงราย พลทหารถูกบังคับให้เปลือยกายคลานกับบนพื้นปูนเคยร้อง ผบ. แต่เรื่องเงียบกลับถูกจ่าทหารหมายหัว
ซึ่งพลทหารได้ขอความช่วยเหลือผ่านสายไหมต้องรอด โดยระบุข้อความว่า "ผมเป็นพลทหารอยู่ที่ มทบ.37 จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 67 ช่วงเช้าผมถูกจ่ากองร้อยทำโทษแบบวิตถาร ด้วยการบังคับให้แก้ผ้ายืนประจานหน้ากองร้อย ให้ทหารทั้งกองร้อยดู จากนั้นจ่าก็สั่งให้ผมคลานไปกับพื้นปูนขณะที่แก้ผ้าจนอวัยวะเพศถูไปกับพื้นปูน ถลอกได้รับบาดเจ็บ จากนั้นก็สั่งลงโทษผมอีกหลายอย่าง เช่นวิ่งรอบสนามพุ่งหลาว ลุกนั้ง คลานต่ำ ม้วนหน้า ฯลฯ โดยไม่ยอมให้ผมใส่เสื้อผ้า เหมือนตั้งใจจะประจานให้ผมอับอายทั้งๆ ที่ผมแค่วิ่งมาเข้าแถวช้าไม่ถึง 1 นาที เหมือนเขาหงุดหงิดอะไรมาจากที่อื่น แล้วก็มาหาเรื่องระบายอารมณ์ลงกับพลทหาร"
ล่าสุดพลโทประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 3 แถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าวว่าระบุว่า กองทัพภาคที่ 3 ได้สั่งการเร่งด่วนไปยังหน่วยต้นสังกัดให้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว ปัจจุบันกองทัพภาคที่ 3 ได้รับรายงานผลการสอบสวนแล้วดังนี้ เหตุการณ์ที่ปรากฎภาพทหารถูกลงโทษ เป็นเหตุการณ์เมื่อ 26 กรกฎาคม 2567 โดยนายทหารชั้นประทวน 1 นาย ซึ่งเข้าสิบเวรประจำวันได้กระทำการลงทัณฑ์ทหารกองประจำการเกินกว่าเหตุ พร้อมกับให้มีการถอดเครื่องแต่งกายทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่การลงทัณฑ์ตามแบบธรรมเนียมทหาร
ซึ่งจากกรณีดังกล่าว ทหารกองประจำการดังกล่าวได้รายงานให้ผู้บังคับหน่วยฝึกฯ ทราบแล้วว่าถูกลงทัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามระเบียบกองทัพบก และในวันที่ 5 สิงหาคม 2567 จึงได้สั่งการให้นายทหารประทวนดังกล่าว งดเข้าเวรรักษาการณ์ไปก่อน และแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง
จากการกระทำเหตุการณ์ข้างต้น ถือเป็นการลงโทษกำลังพลเกินกว่าเหตุที่ขัดต่อวินัยทหารอย่างชัดเจน และเป็นการละเลยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่ได้มอบหมายให้กำกับดูแลกำลังพลในหน่วยให้เรียบร้อยด้วยความยุติธรรม ทางหน่วยต้นสังกัดได้พิจารณาลงโทษกำลังพลนายทหารประทวนดังกล่าว ให้จำขังในเรือนจำทหารเป็นเวลา 45 วัน พร้อมทำการงดบำเหน็จ
สำหรับผู้บังคับหน่วยฝึกกองทัพภาคที่ 3 ได้ออกคำสั่งให้มาช่วยราชการที่กองทัพภาคที่ 3 เพื่อดำเนินการสอบสวนและพิจารณาลงทัณฑ์ต่อไป พร้อมกันนั้นได้สั่งการให้ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก ได้เข้าไปดูแลน้องทหารกองประจำการที่ได้รับผลกระทบ และยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมถึงที่สุด
ทั้งนี้กองทัพภาคที่ 3 ได้ให้ความสำคัญและกำกับดูแลหน่วยทหารในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่นอกจากจะต้องปฏิบัติตามระเบียบวินัยที่เข้มงวดแล้ว ยังต้องใช้ทักษะในการปกครองบังคับบัญชา และดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้เกิดความเรียบร้อย รวมทั้งได้มีสั่งการเน้นย้ำไปยังผู้บังคับบัญชาทุกระดับ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นได้อีก
Advertisement