คือเรื่องมันเป็นอย่างงี้ครับพี่แจ็ค! สุดหลอนเจอหม้อดินสายสิญจน์มัดกลางน้ำ ผ้ายันต์ปิดผนึก แม่หมอทำพิธีเปิดดูหลอนกว่าเดิม
ชาวบ้านถึงกับหลอน! แจ้งให้นักข่าวไปตรวจสอบด่วน หลังมีคนหาปลาในลำห้วย พบ หม้อดิน ปริศนามัดสายสิญจน์ปิดผนึกด้วยผ้ายันต์สีแดง พร้อมมีอักขระเขมรกำกับ ลอยอยู่ภายในคลองลำห้วยใกล้ฝายน้ำล้น ชาวบ้านในพื้นที่เชื่อว่าเป็น หม้อถ่วงวิญญาณ ก่อนเผยเรื่องสุดหลอนกลางดึกจากคนที่พบคนแรก เล่าบอกมีหญิงสาวมากระโดดลงน้ำก่อนจะหายตัวไปในความมืดกลางลำห้วย ก่อนจะเจอหม้อดินในเวลาตอนเช้า
ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านตากุย ม.4 ต.ตรมไพร อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ว่า พบไหปริศนาลอยอยู่กลางลำห้วย พร้อมกับมีสายสิญจน์มัดรอบและ มียันต์สีแดงปิดผนึก พร้อมกับมีอักขระตัวเขมร ซึ่งชาวบ้านพบเจอตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมา แต่ไม่มีใครกล้าลงไปดู เนื่องจากกลัวว่าจะเป็นของไม่ดี ที่มีคนทำแล้วนำมาทิ้ง จุดที่พบอยู่ภายในลำห้วยถนนเส้น บ้านตากุย-บ้านตะแบก ต.ตรมไพร อ.สีขรภูมิ จ.สุรินทร์
ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบยังจุดรับแจ้ง โดยจุดที่พบหม้อดินดังกล่าว ต้องขับรถเข้าไปตามเส้นทางบนลำห้วย ประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดที่ชาวบ้านมักจะพากันไปหาปลาตอนกลางดึก พอไปถึงผู้สื่อข่าวก็ถึงกับหลอนเหมือนกัน เพราะไม่มีใครกล้าจับกลัวว่าอาจจะเป็นของไม่ดีและ อาจจะเข้าตัวได้จึงได้ติดต่อไปหาแม่หมอ ชื่อดังเมืองสุรินทร์ ที่ชาวบ้านนับถือและเชื่อว่าเก่งเรื่องด้านปราบคุณไสย “แม่ครูขวัญธิดาเทพ” ให้มาช่วยทำพิธี
หลังจากที่ “แม่ครูขวัญธิดาเทพ” มาถึงพบว่า ชาวบ้านได้ลงไปนำหม้อดินขึ้นมา แม่ครูได้สื่อจิตและสวดเป็นบทภาษาเขมร ก่อนจะใช้เคียวที่เป็นมรดกตกทอดที่ปู่ย่าตายายให้มา ซึ่งเป็นเคียวที่เคยใช้ตัดมาตราสังผีก่อนที่จะเผา ถ้าใช้สิ่งของอื่นมาตัดไม่ได้ของจะย้อนเข้าตัวคนตัด เพราะเคียวอันนี้กันคุณไสยได้
หลังจากที่แกะสายสิญจน์ออกแล้วเปิดดูข้างในถึงกับช็อก พบเศษขี้เถ้า เศษผ้า และมีเทียนจำนวน 9 ดอก ธูปอีก 16 ดอก และมีเส้นผมด้วยจำนวนหนึ่ง แม่ครูบอกว่าอันนี้เรียกว่า “หม้อดินถ่วงวิญญาณ” ที่ผ่านพิธีมาแล้ว ก่อนที่แม่ครูขวัญจะได้สวดส่งดวงวิญญาณและทุบหม้อดิน ก่อนจะจุดไฟเผาทิ้งเพื่อทำลาย เพื่อปลดปล่อยดวงวิญญาณที่โดนกักขังทรมานให้ไปสู่สุขติ
สอบถาม นายน้อย อายุ 63 ปี (ชาวบ้านที่มาหาปลาและพบหม้อดินดังกล่าว) เล่าว่า เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมา ตนได้มาดักปลาในตอนกลางดึก เวลาประมาณ 22.30 น. ซึ่งวันนั้นได้มีฝนตกปรอยๆ รวมกับมีลมด้วย ตนได้วางกับดักปลาอยู่ข้างๆ ห้วย จู่ๆ ตนก็เห็นผู้หญิงวิ่งมาจากฝั่งต้นไม้ (ต้นหว้า) แล้วก็กระโดดลงไปในน้ำ ก่อนที่จะหายไปกับความืด ตนคิดว่าเป็นคนอยากจะกระโดดลงไปช่วย แต่ก็ว่ายน้ำไม่เก่ง ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดอะไรนึกว่าตาฝาดไป พอตอนเช้ามา กะจะมายกกับดักปลาที่วางไว้ แต่ก็เหลือบไปเห็นหม้อดินดังกล่าว ตนเห็นว่ามีสายสิญจน์มัดรอบพร้อมกับมียันต์ปิด จึงไม่กล้าลงไปเก็บและ เรียกชาวบ้านมาดูไม่มีใครกล้าลงไปเก็บ จึงได้แจ้งผู้สื่อข่าวมาตรวจสอบ
ส่วน แม่ครูขวัญธิดาเทพ เล่าว่า หลังจากที่ชาวบ้านเชิญให้มาที่นี่ ตนจึงได้สื่อจิตและพบว่าหม้อดินดังกล่าวนั้น อาจจะเป็นหม้อดินที่หมอผีจับผีที่ดุร้าย หรือผีที่มาจากคนเล่นของ แล้วเสกลงหม้อถ่วงน้ำ เพื่อที่ไม่ให้ไปผุดไปเกิด และเปิดดูด้านในพบว่ามีเศษขี้เถ้า เสื้อผ้าและ เส้นผมจำนวนหนึ่ง พร้อมธูปเทียน สมัยโบราณคนที่กักขังวิญญาณมาถ่วงน้ำ มักจะนำเศษขี้เถ้าของคนตายมาใส่ เพื่อเป็นการสะกดไม่ให้ออกจากหม้อได้ ตนจึงได้จุดไฟเผาทำลายหม้อดินดังกล่าว และทุบตีให้แตก เพื่อปลดปล่อยดวงวิญญาณ ให้ไปสู่สุขติ แต่ที่ตรงนี้แรงมากโดยเฉพาะต้นไม้ต้นนั้นที่อยู่ในน้ำ (ต้นหว้า) มีสิ่งลี้ลีบอยู่กันเป็นครอบครัว
คุณบัว อายุ 45 ปี ชาวบ้านที่มาอาศัยนอนที่ทุ่งนาใกล้จุดพบไหหม้อดิน เล่าว่า ย้อนไปเมื่อ 30 ปีที่แล้วตอนนั้นตนยังเด็ก บริเวณนี้เคยเป็นจุดอาถรรพ์ สมัยก่อนบริเวณนี้จะเป็นถนนเกวียนซึ่งอยู่ลึกคล้ายกับลำคลอง ได้มีคนมารับซื้อวัว หรือ นายฮ้อย ได้จูงนำวัวมาจากการรับซื้อจากชาวบ้านเพื่อกลับไป ด้วยความมืดคิดว่าคลองที่อยุ่ด้านข้าง เป็นถนนเกวียน ได้เกิดอุบัติเหตุตกไปในลำคลองตายทั้งคนทั้งวัว ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ใกล้ๆ กับที่พบหม้อดิน หลังจากนั้นชาวบ้านก็มักจะพบเจอสิ่งลี้ลับมาโดยตลอด เช่น เห็นลิงตัวใหญ่กระโดดขึ้นๆ ลงๆ ต้นหว้าตนนี้ และบางคนก็ได้ยินเสียงดนตรีไทย บางคนขับรถมาในเวลากลางคืน ก็โดนดึงรถ แต่แปลกที่ต้นหว้าต้นนี้ทำไมยังอยู่รอดมาถึงทุกวันนี้กลางน้ำ ไม่มีใครกล้าไปตัด บางคนแค่คิดก็เจ็บไข้ได้ป่วยจนต้องมาขอขมา
Advertisement