เปิดที่มาดาบซามูไรลายแทงขุมสมบัติ ลูกชายเผยพ่อคืนถ้ำลิเจีย หลังวิญญาณทหารญี่ปุ่นทวง (คลิป)
จากกรณีเรื่องเล่าลือถึงการขุดค้นพบขุมสมบัติจำนวนมหาศาลของทหารญี่ปุ่น สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่นำมาฝังซุกซ่อนอยู่ตามภูเขาต่าง ๆ ในพื้นที่ถ้ำลิเจีย บริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จ.กาญจนบุรี หลังจากแพ้สงคราม ซึ่งต่อมามีทีมล่าสมบัติ 6 คน ไปหาสมบัติ และเสียชีวิตอยู่ภายในถ้ำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จากนั้นไม่นาน นายสุมิตร ชาวบ้านในพื้นที่ได้เข้าไปในถ้ำ จุดที่มีการพบศพ ซึ่งพบดาบซามูไร จึงได้นำกลับบ้าน ตกดึกมีวิญญาณทหารญี่ปุ่นตามไปกระชากคอลุงสุมิตรเพื่อตามทวงของคืน หลังจากนั้นประมาณ 2-3 ปี ลุงสุมิตรก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ส่วนดาบดังกล่าวได้หายสาบสูญไปแล้วนั้น
วันที่ 19 เม.ย. 63 นายวรินทร สามหล้า หรือ แม็ก อายุ 40 ปี ลูกชายของนายสุมิตร สามหล้า เล่าเหตุการณ์ว่า ในช่วงปี พ.ศ. 2542-2544 พ่อของตนอายุประมาณ 50 ปี เป็นชาวบ้าน ไม่ใช่นักขุดสมบัติ แต่แค่อาศัยอยู่ใกล้ถ้ำ ตอนนั้นน่าจะมีทีมขุดสมบัติเข้าไป 7 คน และมี 1 คนรอดออกมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน พ่อตนเป็นคนจึงอาสาเข้าไปช่วยชายทั้ง 6 คน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่นำเครื่องมือตามไปช่วย จากนั้นพ่อเข้าไปก่อนคนเดียว เพราะตอนนั้นไม่มีใครกล้าเข้าไปในถ้ำ
หลังจากที่พ่อเข้าไปพบว่าชายทั้ง 6 คนอยู่ในท่านั่งหลับหมดสติ เสียชีวิตแล้ว พ่อเล่าว่าสาเหตุที่เสียชีวิตมาจากเครื่องสูบน้ำที่ชายนักขุดหาสมบัตินำลงไปสูบน้ำในถ้ำเสีย และท่อไอเสียหัก ทำให้ควันฟุ้งกระจายในถ้ำ โดยชายทั้ง 6 คนไม่ได้จมน้ำตาย แต่อาจจะเผลอหลับไปช่วงที่ควันฟุ้งกระจาย
หลังจากที่พ่อตนส่งศพออกมาให้เจ้าหน้าที่หมดแล้ว ได้กลับออกมาจากถ้ำ แต่ปรากฎว่าโทรศัพท์มือถือของพ่อหาย ซึ่งโทรศัพท์มือถือในยุคนั้นถือว่ามีค่ามาก เพราะเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้ติดต่อครอบครัวที่อยู่ กทม.ได้ พ่อจึงกลับเข้าไปในถ้ำอีกครั้งในช่วงกลางดึก เมื่อเข้าไปถึงจุดดังกล่าวก็ฉายไฟฉายส่องหา แต่ไม่เจอ ไปเจอกับห่อผ้า จึงได้นำออกมา ก่อนที่พ่อได้เปิดดูจึงพบว่าเป็นดาบซามูไร
ผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ พ่อกลับมาหาครอบครัว ได้นำดาบกลับมาที่บ้านที่ กทม. ให้ครอบครัวดู ซึ่งตนได้เห็นดาบชัดเจน น่าจะยาวมากกว่า 1.5 เมตร ตัวดาบและปลอกดาบทำมาจากทองเหลือง มีอักษรคันจิของญี่ปุ่น มีรูปแม่น้ำ และภูเขาสวยงาม สลักอยู่บนดาบ ซึ่งในยุคนั้นอาจจะตีความได้ว่าเป็นลายแทงสมบัติ
นอกจากนี้ พ่อเล่าให้ตนฟังว่าในคืนแรกที่นำดาบออกมา พ่อรู้สึกแปลก ๆ ว่ามีคนเดินตามออกมาจากป่า แต่ไม่รู้ว่าเป็นใครตามมา และเกิดเห็นเงาแปลก ๆ บ่อยครั้ง คาดว่าดาบดังกล่าวน่าจะไม่ใช่สิ่งของธรรมดา พ่อจึงจะนำไปคืน แต่ดาบนั้นก็หายไปโดยไม่มีใครรู้ว่าพ่อเอาไปคืนไว้ที่ไหน
"ส่วนตัวตนมองว่าพ่อไม่ได้เสียชีวิตเพราะอาถรรพ์ เท่าที่ตนจำได้ พ่อน่าจะเสียชีวิตหลังจากนั้นประมาณเกือบ 10 ปี ไม่ได้เสียชีวิตหลังจากพบดาบ สาเหตุจากอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์ ในวัย 62 ปี" นายวรินทร กล่าว
Advertisement
