จากกรณีเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 16 มิ.ย.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนแล้วหลบหนีที่บริเวณถนนนครเขื่อนขันธ์สามแยกพระประแดง ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงเดินทางเข้าตรวจสอบ
โดยที่เกิดเหตุพบมีรถถูกชนได้รับความเสียหายจำนวน 9 คัน ทำให้กีดขวางการจราจรรถไม่สามารถเคลื่อนตัวได้ และขณะเกิดเหตุมีฝนตก เจ้าหน้าที่จึงได้เคลียร์การจราจรและนำรถทั้งหมด 9 คันหลบเข้าข้างทางเพื่อเปิดการจราจร ส่วนรถคันก่อเหตุทราบว่าเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 9 กล-393 กรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุได้ขับหลบหนีไปทางถนนสุขสวัสดิ์ มุ่งหน้าไปทางสามแยกวัดสน
ทั้งนี้เป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สน.ราษฎร์บูรณะ จึงได้กระจายกำลังออกค้นหา กระทั่งมาพบรถคันดังกล่าวจอดอยู่หน้าโชว์รูม โตโยต้า ก่อนถึงแยกวัดสน และยังได้เฉี่ยวชนรถของบุคคลอื่นอีก 4 คัน รถทั้งหมดไม่ได้รับความเสียหายไม่มาก และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงไปในพื้นที่บริเวณถนนนครเขื่อนขันธ์สามแยกพระประแดง ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้พูดคุยกับนายวีรพล ปุนกลาง อายุ 46 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์และเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ขณะนั้นตนกำลังจอดรถไว้ที่บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งนายนวพล ได้ขับรถมาจอดคู่กับรถตน และไม่ได้เคลื่อนไปไหนอยู่พักหนึ่งทำให้รถติด มีคนลงมาจากรถเพื่อไปดูว่ารถนายนวพลเป็นอะไรหรือไม่ แต่เมื่อไปดูพบนายนวพลและเด็กชายวัย 4 ขวบ ซึ่งนายนวพลก็ไม่ได้ขอความช่วยเหลืออะไร และได้ออกตัวรถมาพุ่งชนรถของตน ทำให้รถบริเวณท้ายกระบะด้านขวายุบ ขณะนั้นนายนวพลไม่ได้โวยวาย ก็รู้สึกว่านายนวพลมีอาการเหมือนคนเมา แต่พอไปตรวจแอลกอฮอล์แล้วไม่พบ พูดคุยไม่รู้เรื่องเหมือนสติหลุด
จากนั้นนายนวพล ก็ได้ขับต่อแทรกรถคันอื่น ทำให้รถที่ติดบริเวณถนนนครเขื่อนขันธ์ สามแยกพระประแดง ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เสียหาย 10 คัน และที่ สน.ราชบูรณะ อีก 5 คัน หลังจากที่เกิดเหตุตนก็รีบไปแจ้งความที่ สน.พระประแดง แล้วทางญาติของนายนวพล ก็ยังไม่ได้ติดต่อตนมา อย่างไรก็ตามตนก็ขอฝากถึงผู้ที่ใช้รถใช้ถนนว่าควรระมัดระวัง
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ ให้ข้อมูลเบื้องต้นกับทางทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า ได้แจ้งข้อกล่าวหานายวรพล ขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย และอาละวาดในที่สาธารณะ ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง ได้ติดตามอายัดตัวนายวรพล ผู้ก่อเหตุเอาไว้เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายนวพล อาวามี อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 ซอยประชาอุทิศ 69 แยก 22 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ จากการสอบถามผู้ก่อเหตุเบื้องต้น ได้บอกว่าจะพาลูกชายวัย 4 ขวบ ไปโรงพยาบาล เนื่องลูกชายได้รับบาดเจ็บแขนข้างซ้ายหัก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ ได้ตั้งข้อหาขับรถประมาท ถูกปรับ 500 บาทเท่านั้น เพราะตรวจแอลกอฮอล์แล้วไม่พบ ซึ่งทางนายนวพล รถได้มีประกันชั้น 1 และได้เคลียร์กันแล้วกับรถคู่กรณีเมื่อวานที่ผ่านมา
ล่าสุดวันที่ 17 มิ.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับนายจัน (นามสมมติ) อายุ 48 ปี พ่อของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ลูกสะใภ้โทรศัพท์มาหาตน บอกว่าลูกชายของตนได้ขับรถไปชนรถคนอื่น ตนจึงรีบกลับจากที่ทำงานไปที่สน.ราษฎร์บูรณะ ครั้งแรกที่ตนได้ยินเสียงดังโวยวาย คล้ายกับเสียงลูกชายของตน แต่ตนก็ไม่ได้ปักใจเชื่อว่าเป็นจริง เพราะลูกชายเป็นคนเงียบ ๆ จากนั้นตนได้ขึ้นไปดูพบว่าลูกชายของตนถูกทำแผลอยู่ เนื่องจากเหยียบเศษแก้วบริเวณในห้องคุมขัง ได้รับบาดเจ็บตรงบริเวณขาทั้ง 2 ข้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ให้ตนขึ้นไปเพื่อควบคุมสติของลูกชาย ตนได้สอบถามลูกชายว่าทำไมถึงโวยวายเสียงดัง ลูกชายเล่าให้ฟังว่าถูกตำรวจล็อกตัวและพยายามทำร้ายร่างกาย ส่วนเรื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบหลายรอบแล้ว
เบื้องต้นลูกชายของตน เล่าให้ฟังว่า เมื่อวานที่ผ่านมา ลูกชายของตนได้พาหลานชายไปเที่ยวบ้านเพื่อน เพื่อรอรับภรรยา แต่หลานชายดันพลาด หล่นจากจักรยานยนต์ทำให้แขนข้างซ้ายหักและหมดสติไป ลูกชายตนด้วยความเป็นพ่อก็เป็นห่วงลูก จึงรีบนำตัวหลานขึ้นรถ โดยใช้มือซ้ายโอบแล้วมือขวาขับรถ เพื่อไปถึงโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด แต่ก็พลาดไปเฉี่ยวชนรถคนอื่น ขณะที่เฉี่ยวชนรถคันแรกทำให้ลูกชายของตนสติหลุดทำอะไรไม่ถูก จึงได้เฉี่ยวชนหลายคัน
หลังจากเกิดเหตุการณ์ ตนก็ได้ตำหนิลูกชายของว่า ไม่ควรกระทำแบบนั้น ซึ่งสภาพจิตใจของลูกชายตอนนี้ยอมรับว่าเสียใจและได้ร้องไห้กับตน วินาทีนั้นลูกชายของตนอยากให้ลูกไปถึงมือหมอให้เร็วที่สุด ลักษณะนิสัยใจคอของลูกชายของตนนั้นเป็นคนที่ไม่ได้โวยวาย ซึ่งมีลูกประจำตัวเป็นโรคหอบหืด โดยไม่สามารถควบคุมสติอารมณ์ได้ ถึงแม้ว่าลูกชายของตนจะอายุ 30 ปี แล้ว ซึ่งความคิดความอ่านยังเป็นเด็กอยู่ ตนอยากจะให้สังคมคนที่เสพข่าวอย่าด่าทอเลย หากไม่ได้รู้จัก อย่างไรก็ตามตนก็ได้ตำหนิลูกชายของตนไปแล้ว
Advertisement