จากกรณีรายการช่องส่องผี ผู้ดำเนินรายการกล่าวอ้างว่า ย่าบุญเหลือ ซึ่งเป็นลูกสาวบุญธรรมของย่าโม เป็นภรรยาของปลัดทองคำ เจ้าเมืองนครราชสีมา ส่วนย่าโมเป็นภรรยาหลัก ย่าบุญเหลือเป็นภรรยาสอง ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่ตำหนิวถึงความไม่เหมาะสมนั้น
ล่าสุดวันที่ 8 ก.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี สอบถามนายไพโรจน์ ชอบไวย อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 189 หมู่ 1 ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา แสดงความคิดเห็นในฐานเป็นชาวโคราชคนหนึ่งว่า แม้ว่าทางรายการชองส่องผี จะออกแสดงความรับผิดชอบด้วยการขอปลดรายการออกจากทางช่อง 8 แล้วก็ตาม ตนมองว่าน่าจะเป็นการดำเนินการรายการคล้ายกับในรูปแบบเก่า และยังคงสามารถเผยแพร่ได้อีกหลายช่องทาง ซึ่งการออกมาแสดงความรับผิดชอบแบบนี้ ไม่น่าจะเกิดประโยชน์อะไร เพราะทางรายการได้ลบหลู่ดูหมิ่นและทำลายชื่อเสียงวีรสตรีของชาวโคราชไปแล้ว
ทั้งนี้ที่สำคัญคือไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงประวัติศาสตร์นอกตำราตามที่ผู้ดำเนินรายการกล่าวอ้าง ซึ่งหากไม่ได้ศึกษาข้อมูลประวัติศาสตร์ความเป็นมาให้ชัดแจ้งท่องแท้แล้ว ก็ไม่ควรพูดจาให้เกิดความเสียหายแบบนี้ ดังนั้นผู้ดำเนินรายการจะต้องมาทำพิธีกราบขอขมาต่อย่าโมของชาวโคราช และนางสาวบุญเหลือด้วยตนเอง
ขณะที่นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เรียกนายไชยนันท์ แสงทอง วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา เจ้าหน้าที่นิติกรจังหวัดนครราชสีมา และตัวแทนกลุ่มพี่น้องชาวโคราช เข้าร่วมหารือถึงการดำเนินการกับรายการช่องส่องผีที่ลบลู่ดูหมิ่นคุณย่าโมและย่าบุญเหลือ โดยเบื้องต้นในวันนี้ทางจังหวัดนครราชสีมา จะทำหนังสือท้วงติงไปยังรายการดังกล่าวที่นำเสนอข้อมูลไม่เหมาะสมกับคุณย่าโมและย่าบุญเหลือ เพราะคุณย่าทั้ง 2 ท่านเป็นวีรสตรีที่ชาวโคราชและชาวไทยทั่วประเทศ ให้ความเคารพสักการะ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ทางรายการขอโทษต่อการกระทำดังกล่าว
พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ไปประสานกับลูกหลานของคุณย่าบุญเหลือ เพื่อให้แจ้งความดำเนินคดีกับรายการดังกล่าวในข้อหาหมิ่นประมาท เนื่องจากทางนิติกรจังหวัดแจ้งว่าการกล่าวหาในลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายหมิ่นประมาท แต่เนื่องจากคดีหมิ่นประมาทเป็นความผิดเฉพาะบุคคล ทายาทของผู้ที่ถูกกล่าวหาเท่านั้น ที่สามารถแจ้งความเอาผิดได้
นายกำปั่น ข่อยนอก หรือที่ชาวโคราชรู้จักในชื่อ “กำปั่น บ้านแท่น” ศิลปินพื้นบ้านอีสานแห่งชาติ ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า โดยส่วนตัวแล้วตนไม่อยากให้ความสำคัญกับรายการนี้ และวอนขอชาวโคราชอย่าตกเป็นเหยื่อรายการผีแบบนี้ เพราะจะเหมือนกับการไปประโคมข่าวให้รายการนี้ดังขึ้นมาจากเรื่องย่าโม และไม่เชื่อว่าเรนนี่ ซึ่งเป็นสาวอายุยังน้อย จะมีญาณวิเศษหยั่งรู้อดีตอนาคตได้จริงอย่างที่กล่าวอ้าง เพราะญาณวิเศษหยั่งรู้อดีต อนาคตนั้น จะเกิดขึ้นได้ต้องมีการบำเพ็ญตบะ บำเพ็ญเพียรมาอย่างเคร่งครัด ต้องเป็นพระอริยสงฆ์เท่านั้นถึงจะมีได้
ส่วนการมาอ้างว่าได้พูดคุยกับปลัดทองคำ ย่าโม และแม่บุญเหลือ ระบุว่าแม่บุญเหลือเป็นเมียน้อยปลัดทองคำ ตนเองมองว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะเป็นการกล่าวหาแบบลอย ๆ ไม่มีข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจนมายืนยันได้ ซึ่งประวัติศาสตร์ที่ชาวโคราชและชาวไทยทั่วไปรู้คือ แม่บุญเหลือ เป็นลูกสาวบุญธรรมของย่าโม ซึ่งก็เท่ากับเป็นลูกบุญธรรมของปลัดทองคำเหมือนกัน ดังนั้นจึงทำให้ชาวโคราชทุกคนรู้สึกโกรธแค้น ไม่พอใจกับการกระทำของรายการนี้มากที่มาลบหลู่วีระสตรีอันเป็นที่เคารพศรัทธา เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวโคราชทุกคนเช่นนี้ ถึงอย่างไรก็ตาม หากใครจะไปแจ้งความเอาผิดรายการนี้ ตนเองก็ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่ เพราะเป็นเกี่ยวกับเรื่องความเชื่อ ที่รายการก็ระบุไว้ใต้คลิปว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” คำนี้แหละที่จะทำให้รายการต่าง ๆ ที่ทำเกี่ยวกับความเชื่อพ้นผิดทุกอย่าง
ทั้งนี้แฟนเพจ Anti สื่อรายการโทรทัศน์ที่บิดเบือนประวัติศาสตร์ชาติ โพสต์ข้อความ ยังได้ออกมาโพสต์ว่า "สายฝนขอโทษบีบน้ำตาไร้สามัญสำนึก บอกตัวเองไม่ผิด ต่อไปนี้พ่อแม่พี่น้อง อยู่จังหวัดไหน ก็ช่วยกันแบนรายการนี้ อย่าให้เข้าไปถ่ายทำเลยนะครับ"
คำทำนายที่สร้างปัญหา คือ อ้างว่าตัวเองเคยคอหักตาย 49 วัน แล้วฟื้นกลับขึ้นมาในห้องดับจิต และอ้างว่าย่าโมเป็นเมียหลัก ปลัดทองคำ แม่บุญเหลือเป็นเมียสอง
คำทำนายที่สร้างปัญหา คือ อ้างว่าอดีตชาติ ผู้กองเบนซ์ เป็นลูกเขยนายจันหนวดเขี้ยว และอ้างว่าอดีตชาติ ณอน บูรณะหิรัญ เป็นลูกหลานพญากือนา เจ้าเมืองเชียงใหม่
คำทำนายที่สร้างปัญหา คือ อ้างว่า สุนทรภู่เสียชีวิตที่เมืองแกลง จ.ระยอง ฝีมะม่วงในท้อง คือ สาเหตุการเสียชีวิต และอ้างว่าสุนัขที่วัดวรเชษฐ์ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นเจ้าพระยาเกียรติ กลับชาติมาเกิด
คำทำนายที่สร้างปัญหา คือ อ้างว่าเจดีย์วัดกุฏีดาวถูกปืนใหญ่พม่ายิงหัก ทั้งที่เจดีย์เพิ่งหักไม่ถึง 100 ปีที่ผ่านมา และอ้างว่าอดีต ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่ง ทุรจิตรับเงินใต้โต๊ะตายไปเป็นเปรต
ส่วนทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ฯ เตรียมเอาผิดปมบิดเบือนประวัติศาสตร์
ขณะที่ พล.ท.พีรพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ เปิดเผยว่า หากมีช่องไหนนำเสนอเนื้อหาบิดเบือนประวัติศาสตร์ ทำให้เกิดการเข้าใจผิดแก่ประชาชน ก็จะเรียกผู้ดำเนินรายการดังกล่าว เข้าชี้แจงในวันที่ 16 ก.ค.63 และที่ประชุมจะพิจารณาความผิดอีกครั้งหนึ่ง
Advertisement