เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 ส.ค.63 พ.ต.อ.อานนท์ เดชรักษา รองผบก.ภ.จว.พังงา พร้อมด้วยพ.ต.อ.เอกรัฐ สวนแสน ผกก.สภ.ตะกั่วทุ่ง และพ.ต.อ.ประเทือง ศรีละมนตรี ผกก.สืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพังงา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยพิสูจน์หลักฐาน ผู้นำท้องที่กว่า 20 นาย คุมตัวนายภากร ทองวล อายุ 27 ปี ชาวอ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนจ่อยิงน.ส.เหลือง อายุ 38 ปี ชาวจ.บุรีรัมย์ ตายอย่างโหดเหี้ยม หมกร่องน้ำในสวนปาล์ม เมื่อคืนวันที่ 3 ส.ค.63 และพบศพเมื่อวันที่ 7 ส.ค.63 ที่ผ่านมา
โดยเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ก่อเหตุ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตั้งแต่เส้นทางเดินจากบ้านไปยังสวนปาล์ม ริมป่าชายเลน ซึ่งผู้ต้องหาได้ใช้โทรศัพท์โทรหาผู้ตายให้มาพบ โดยหลอกว่าให้มาเอาเงินไปไถ่ถอนรถมอเตอร์ไซค์ที่เอาไปจำนำไว้
จากนั้นก็รออยู่ที่จุดเกิดเหตุประมาณ 40 นาที เมื่อผู้ตายเดินมาถึงได้พูดคุยกันเล็กน้อย ก่อนจะใช้ปืนที่พกมาจ่อยิงเข้าที่ศรีษะ 1 นัด ล้มลงตายคาที่และตกลงในร่องน้ำ จากนั้นก็เดินกลับบ้านแล้วขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านไปรับเงินค่าจ้างจากผู้จ้างวาน ก่อนจะมาทำตัวอย่างปกติในหมู่บ้าน เมื่อถูกตำรวจกดดันหนักก็เลยหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในบ้านเช่าในเขตตัวเมืองพังงา
โดยคดีนี้มีสาเหตุมาจาก น.ส.เหลือง ได้กู้เงินกับคนในหมู่บ้าน และได้เกิดปัญหาทะเลาะ ทำร้ายร่างกายกัน และทางเจ้าหนี้เงินกู้ได้ข่มขู่หมายเอาชีวิต จากนั้นได้ว่าจ้างให้นายภากร ลงมือสังหารในราคา 2,500 บาท โดยการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในครั้งนี้ เพื่อออกหมายจับเจ้าหนี้เงินกู้โหดรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป
สำหรับการทำแผนจุดแรกเป็นจุดที่ผู้ต้องหา รับสารภาพว่า ได้ขับขี่จักรยานยนต์พร้อมนำอาวุธสังหารเป็นปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก มีกระสุนอยู่ในรังเพลิงพร้อมที่จะทำงาน ขับขี่จากพื้นที่บ้านเขาเปาะ ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง มุ่งหน้าเข้าพื้นที่บ้านพรุใหญ่ หมู่ 4 ต.กระโสม
จากนั้นได้โทรหา น.ส.เหลือง นัดแนะให้พบกันที่บริเวณร่องน้ำระหว่างสวนปาล์มน้ำมัน และป่าโกงกาง จากนั้นได้สอบถามผู้ตายกรณีติดหนี้สินแก่ผู้จ้างวาน เมื่อผู้ตายตอบคำถามจนเสร็จสิ้น ได้ชักอาวุธปืนพร้อมลั่นไกปืน เมื่อผู้ตายล้มลงในร่องน้ำ จึงได้ขับขี่จักรยานยนต์หลบหนี ออกจากซอยที่เกิดเหตุดังกล่าว หลบหนีเข้าสวนปาล์มน้ำมัน
ต่อมาได้นำปลอกกระสุนปืน ทิ้งลงคลองบริเวณสะพานถ้ำน้ำผุด อ.เมือง จ.พังงา และซุกซ่อนตัวที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 2 ต.ถ้ำน้ำผุด องเมืองพังงา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ในที่สุด
จากการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อว่า ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงทันที เนื่องจากหลักฐานจากศพผู้ตาย พบว่า มีสภาพศพลิ้นจุกปาก และมีลักษณะใช้ผ้ารัดคอจนขาดอากาศหายใจ ตามที่มีการชันสูตรศพผู้ตายมาก่อนหน้านี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้รอผลการชันสูตรจากแพทย์ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง เพื่อสรุปสาเหตุการเสียชีวิตของ น.ส.เหลือง
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ ยังสอบถามเกี่ยวกับค่าจ้างวานจาก นายภากร ซึ่งยังยืนยันว่า ได้รับค่าจ้างมาจำนวน 2,500 บาทเท่านั้น โดยทางเจ้าหน้าที่เตรียมนำคำการสอบปากคำผู้ต้องหารายนี้ เพื่อขออนุมัติหมายการจับกุมของศาลจังหวัดพังงา เข้าควบคุมตัว ผู้จ้างวานมาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น และจ้างวานฆ่า ต่อไป
นางเกล้า พะชะนะ อายุ 49 ปี อาของน.ส.เหลือง ระบุว่า หลังจากงานทำบุญกระดูกที่จังหวัดบุรีรัมย์เสร็จสิ้นลง กลางคืนได้มีหลานสาวมาเข้าฝันว่า "ตอนนี้หนาวทรมานมาก" อยากให้ญาติเอาพระไปสวดถอนกลับบ้านเกิดที่ จ.บุรีรัมย์ เมื่อมาเล่าให้ญาติ ๆ ฟัง ทุกคนต่างไม่สบายใจ เพราะสงสารหลานที่ตายอย่างทรมาน แล้ววิญญาณยังลำบากอีก อยากกลับบ้านก็กลับไม่ได้ เพราะอยู่ไกล ไม่มีเงินเอาพระไปสวดถอนหลาน
ทั้งนี้ญาติทุกคนต่างไม่สบายใจ เหมือนขาดอะไรบางอย่างทางประเพณี ซึ่งทุกครั้งที่มีคนเสียชีวิตกะทันหัน หรือเสียชีวิติจากอุบัติเหตุ จะต้องนิมนต์พระไปทำพิธีในที่เกิดเหตุ เพื่อเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน
Advertisement