เปิดนาทีคณะราษฎรประชิดนายกฯ ถึงทำเนียบ จน “พุทธะอิสระ - สุเทพ” ผนึกกำลังคัมแบ็ก (คลิป)

วันที่ 14 ต.ค. 63 ตั้งแต่ช่วงสายที่ผ่านมา การชุมนุมกลุ่มคณะราษฎร 2563 ชุมนุมโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กรุงเทพฯ ท่ามกลางการตรึงกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะเคลื่อนไปยังทำเนียบรัฐบาลและเข้ามาปักหลักในช่วงเย็น พร้อมจัดตั้งเวทีปราศรัย

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำแท่งปูนแบริเออร์และรั้วลวดหนามปิดประตูทางเข้า โดยเฉพาะสะพานเทวกรรม ทางเข้าทำเนียบรัฐบาลประตูสะพานอรทัย ซึ่งเป็นประตูทางเข้าทำเนียบรัฐบาลที่เป็นเส้นทางผ่านของกลุ่มผู้ชุมนุม ส่วนประตูตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการยังคงเปิดปกติ

สำหรับเจ้าหน้าที่สวมใส่ผ้าพันคอที่มีสีต่างกัน เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่ามาจากหน่วยไหน และยังเป็นการวางกำลังตามจุดต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง พ.ต.อ.อัศวยุทธ นุชพุ่ม รอง ผบก.น.6 ให้ข้อมูลว่า สำหรับผ้าพันคอสีแดงมาจากภูธรจังหวัดชัยนาท ดูแลที่สะพานผ่านฟ้า

ผ้าพันคอสีน้ำเงิน-เหลือง มาจากภูธรจังหวัดสระบุรี ดูแลที่ถนนราชดำเนินใน

ผ้าพันคอน้ำเงินมาจาก ภ.จว.นนทบุรี ดูแลความเรียบร้อยบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ผ้าพันคอสีส้มมาจาก ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ดูแลความเรียบร้อยบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ผ้าพันคอสีเขียวมาจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ดูแลความเรียบร้อยบริเวณทำเนียบรัฐบาล

ผ้าพันคอสีม่วงเข้มมาจาก ภ.จว.ชัยภูมิ

ผ้าพันคอสีชมพูเข้มมาจาก ภ.จว.ลำพูน ดูแลความเรียบร้อยบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ถ.ราชดำเนินนอก

 

ทั้งนี้ กลุ่มปกป้องสถาบัน มีการนัดรวมพลตามจุดต่าง ๆ ที่ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. รอรับเสด็จฯ

บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ร่วมกับนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้ากลุ่มไทยภักดี และอดีตพระพุทธะอิสระ รอร่วมรับเสด็จฯ โดยมีประชาชนเข้าร่วมกว่าหมื่นคน

ส่วนบรรยากาศที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ตั้งแต่เช้ามีประชาชนสวมเสื้อเหลืองเดินทางมาจากต่างจังหวัด พร้อมธงชาติ ธงตราสัญลักษณ์ และภาพพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อรอรับเสด็จ จุดที่กลุ่มอดีตพระพุทธอิสระ ในฐานะกลุ่มประชาชนปกป้องสถาบัน และนพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ มาร่วมด้วย

นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ยืนยันเจตนารมณ์ว่า ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง ตนเองในฐานะคนไทยจึงออกมาปกป้องเพื่อไม่ให้ใครคิดร้ายกับประเทศไทย

อดีตพระพุทธ อิสระ บอกว่า การรวมตัวกันวันนี้ไม่ใช่เป็นการจัดกิจกรรมหรือเรียกร้องข้อเสนอใด แต่เป็นเพียงการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน พร้อมทั้งขอให้กลุ่มที่เรียกร้องประชาธิปไตยได้แสดงออกหรือมีการจัดกิจกรรมภายหลังวันสำคัญ ตนมองว่าวันนี้ยังไม่เหมาะสม แต่กลุ่มของตนเองก็จะไม่ขัดขวางหรือมีปัญหาต่อการจัดกิจกรรมดังกล่าว

ทำเนียบรัฐบาลแจ้งต่อสื่อมวลชนให้ทราบว่า นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลทั้งหมด งดเข้าปฏิบัติงานในทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 15 ต.ค.นี้ ส่วนกำหนดการที่ นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนจะเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในวันพรุ่งนี้ เวลา 11.15 น. ได้มีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ แต่ไม่มีการเปิดเผยว่าเป็นที่ใด

 

ขณะเดียวกันที่บริเวณเต็นท์หน้าเสาธง รพ.มหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มเยาวชนปลดแอกโคราช ได้เดินทางมารวมตัวเพื่อรอขึ้นรถบัส เดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ เพื่อร่วมชุมนุมกับคณะราษฎร 63 เรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งเยาวชนส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมปลาย ที่มีการนำกระเป๋าเป้ใส่สัมภาระจำเป็น พร้อมที่จะปักหลักร่วมการชุมนุมยืดเยื้อหลายวัน

ขณะเดียวกันที่บริเวณรั้วด้านหน้า รพ.มหาราชนครราชสีมา ก็มีประชาชนเดินทางมาร่วมสมทบกับกลุ่มเยาวชนปลดแอกโคราชด้วย โดยมีรถบัสปรับอากาศ 2 ชั้น มารับที่บริเวณป้ายรถเมล์ ด้านหน้า รพ.จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

ส่วนที่ จ.ขอนแก่น บริเวณอาคารที่ทำการองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น นักเรียนนักศึกษาในนามกลุ่มคณะราษฎรขอนแก่น และกลุ่มนักศึกษาจากชมรมต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย ได้ร่วมกันจัดเวทีปราศรัยคู่ขนานกับการจัดการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร 63 ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อแสดงออกถึงการสนับสนุนข้อเรียกร้อง 3 ข้อของกลุ่มคณะราษฎร 1.นายกรัฐมนตรีต้องลาออก 2.เปิดสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ 3.ปล่อยตัวไผ่ ดาวดิน