วันที่ 20 พ.ย.67 จากกรณีที่ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “นางสรารัตน์ หรือแอม ไซยาไนด์" ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และ ตัดสินจำคุก พ.ต.ท.วิฑูรย์ อดีตสามี เป็นเวลา 1 ปี 4 เดือน และ จำคุก น.ส.ธัญนิชา หรือ ทนายพัช เป็นเวลา 2 ปี ไม่รอลงอาญา พร้อมชดใช้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท ในความผิดฐานช่วยไม่ให้ผู้กระทำผิดรับโทษ, ซ่อนเร้นหลักฐาน หลังอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 และมารดาของ น.ส.ศิริพร หรือ ก้อย ผู้เสียชีวิต ได้ร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านพักของ นางวรรณเพ็ญ ตนายะพันธุ์ หรือ ยายเพ็ญ ชาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นยายของ นายสุทธิ์ศักดิ์ พูนขวัญ หรือ แด้ เป็นหนึ่งในอดีตสามีของแอม ที่เสียชีวิตอย่างปริศนา
โดยทันทีที่ทราบข่าว ยายเพ็ญได้เข้าสวมกอดผู้สื่อข่าว และร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ จากนั้นได้จุดธูปกลางแจ้งบริเวณหน้าบ้านเพื่อบอกผลคดีให้กับหลานชาย จากนั้นยายเพ็ญได้พาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพักของนายแด้ ก่อนจะจุดธูปบอกกล่าวต่อหน้ารูปภาพของนายแด้อีกครั้ง
ยายเพ็ญ เปิดเผยว่า หลังจากสูญเสียหลานชาย ตนเหมือนคนหัวใจแตกสลาย คิดถึงแต่ก็ทำได้แค่พูดคุยและร้องไห้กับรูปภาพของหลานทุกวัน ทว่าในวันนี้ยอมรับว่าตนดีใจมากที่สุดในชีวิต และรู้สึกขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ที่ช่วยคืนความยุติธรรมให้กับครอบครัวผู้สูญเสีย แม้จะว่าคำพิพากษาวันนี้จะไม่ใช่ผลคดีของหลานชาย
โดยส่วนตัวมองว่าโทษประหารยุติธรรมแล้ว เพราะครอบครัวของเหยื่อ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ญาติพี่น้อง และลูกกี่คนที่ต้องสูญเสีย ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ตนได้มีโอกาสเจอกับแอมที่ศาล ก็ดูไม่มีท่าทีสลด หรือรู้สึกผิดกับสิ่งที่กระทำลงไป และหากมีโอกาส ในวันที่ศาลตัดสินคดีของแด้ ตนจะเข้าไปนั่งฟังคำพิพากษาด้วยตัวเอง จะไปดูว่าคนที่กระทำความผิดจะรู้สึกอย่างไร จะเสียใจเหมือนที่ตนเสียใจไหม
ผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่า หากในนาทีสุดท้ายก่อนผู้กระทำผิดถูกประหารชีวิต จะขออโหสิกรรมที่กระทำกับแด้ ยายเพ็ญกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า ยังไงก็ไม่อโหสิกรรมให้ เพราะยายรักหลานคนนี้มาก
ซึ่งหลังจากพูดคุย ยายเพ็ญ ได้เดินไปที่บริเวณหน้าศาลพ่อปู่เจ้าที่บ้านของนายแด้ ก่อนจะนั่งพนมมือบอกกล่าวผลของคดี โดย ยายเพ็ญ ได้บนบานกับพ่อปู่เจ้าที่ว่า “ถ้าแอมทำผิดจริง ขอให้พ่อปู่ดลจิตดลใจให้ผู้พิพากษาตัดสินประหารชีวิต อย่าได้ผ่อนโทษ หากคำขอเป็นผลสำเร็จ ตนจะสร้างตำหนักใหม่ที่สวยงามให้”
Advertisement