วันที่ 21 พ.ย.67 นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ยื่นหนังสือถึง วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พร้อมนำพยานหลักฐาน เป็นคลิป การโพสต์เกี่ยวกับเด็กเชื่อมจิต ไปทํากิจกรรมที่เป็นการบิดเบือนหลักการคําสอนของพระพุทธศาสนาเถรวาท ซึ่งเป็นกระทําที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ ,พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก และคําสั่งศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2567 คดีที่ พมจ.สุราษฎร์ธานี เป็นผู้ร้องให้ศาลมีคําสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กชายกับพวกรวม 2 คน โดยขอให้ศาลมีคําสั่ง 1.ห้ามนํากิจกรรมไลฟ์ สดอันเกี่ยวกับการเชื่อมจิต 2.ห้ามเผยแพร่คําสอนทางพุทธศาสนาอันเป็ นการบิดเบือนหรือผิดเพี้ยนจากหลักทางพระพุทธศาสนาและไม่ปรากฎหลักฐานในพระไตรปิฎก
นายแทนคุณ ระบุว่า เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 ได้ตรวจพบการโพสต์ของ ทนายธรรมราช สาระปัญญา ในเฟซบุ๊คชื่อว่า Lawyer of legality ผลปรากฎว่ายังมีการเผยแพร่คำสอนและคำสัมภาษณ์ของเด็กคนดังกล่าว เกี่ยวกับเรื่องเชื่อมจิตโดยมีข้อความตามเอกสารแนบ โดยเด็ก บอกว่า การเชื่อมจิต ต้องทำด้วยตัวเองและน้องไนซ์ก็ไม่เคยบอกเลยนะครับว่า เชื่อมจิตแล้วจะทำให้บรรลุธรรมได้เลย รักคำรามจำไม่ได้แล้วเหรอครับ? เป็นต้น
ตนจึงได้นำเรื่องดังกล่าวไปแจ้งความดำเนินคดีที่ กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) และรับทราบว่าให้แจ้งต่อ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อนำกราบเรียนต่อศาลเยาวชนฯ จังหวัดสุราษฏร์ธานี โดยเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 11 .00 น.ที่ในพื้นที่ สอบสวนกลาง เมื่อสื่อมวลชนได้สอบถามถึงการโพสต์ ดังกล่าวกับทนายธรรมราชว่าทำไมยังโพสต์ข้อความเกี่ยวกับเด็กชายนิรมิต คำตอบที่ได้คือ "ศาลไม่ได้สั่งห้ามผม" ซึ่งในความเป็นจริง ทนายธรรมราช เป็นทนายความที่ทำคดีดังกล่าวและคดีที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมจิตในทุกคดี การที่กล่าวว่า "ศาลไม่ได้สั่งห้ามผม" จึงเชื่อว่ามีเจตนาจงใจฝ่าฝืนและขัดคำสั่งศาลเยาวชนฯ ซึ่งย่อมส่งผลต่อความเชื่อมั่นศรัทธาที่มีต่อกระบวนการยุติธรรมและคำสั่งในการคุ้มครองสวัสดิเด็กชายคนดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีการตีความว่า คำสั่งศาลดังกล่าวมีอายุเพียง 6 เดือน ทั้งที่ในความเป็นจริงมิใช่เป็นอย่างนั้น
ดังนั้นเพื่อให้คําสั่งศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดสุราษฎร์ธานี ศักดิ์สิทธิ์ และใช้บังคับได้จริงเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพของเด็กชาย 8 ขวบ จึงได้ทําหนังสือเรียนเพื่อให้ตรวจสอบและดําเนินการตามกฎหมาย และดําเนินการร้องเรียนมรรยาททนายความต่อสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างในการขัดคําสั่งศาลและละเมิดต่อสวัสดิภาพเด็กชายคนดังกล่าว และมิให้เป็นการละเว้นต่อการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
นายแทนคุณ ทิ้งท้ายด้วยว่าไม่เข้าใจว่าทำไมถึงจะทู่ซี้ดึงดันให้เด็กคนนี้เป็นเด็กพิเศษให้ได้ ผู้ใหญ่ต้องดูแล ควรให้เด็กได้ใช้ชีวิตตามพัฒนาการที่สมวัย จึงให้ดำเนินการเพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่าง
ด้านนางจตุพร โรจนพานิช รองปลัด กระทรวงพาณิชย์ เป็นตัวแทนในการรับเอกสารและยืนยันจะนำข้อมูลเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบและทำงาน ตามอำนาจและหน้าที่ของกระทรวงเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กต่อไป
Advertisement