"นายหมี" ผู้เสียหายบุกค้านประกันลูก-เมียหมอบุญ ลั่นไม่เรียก"หมอบุญ" ขอเรียก “อาเฮียบุญ” หลอกให้ลงทุน 170 ล้านทำชีวิตพัง
วันนี้ (23 พ.ย. 67) เมื่อเวลา 15.00 น. ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบปากคำ นาง จารุวรรณ อายุ 79 ปี และน.ส.นลิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของ นพ.บุญ วนาสิน ผู้ต้องหาทั้งสองรายอยู่นั้น ได้มีผู้เสียหายจำนวนหนึ่ง เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อยื่นขอคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน จะหลบหนี นายหมี อายุ 40 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่าตนเองได้ร่วมลงทุนกับเพื่อนผ่านโบรกเกอร์บริษัทดังรายหนึ่ง
โดยตนเองถูกชักชวนให้ไปลงทุนร่วมกับเพื่อนตนเองลงทุนไป 70 ล้านบาทเพื่อนลงทุนไป 100 ล้านบาทรวมเป็นทั้งหมด 170 ล้านบาท พร้อมบอกว่าตนไม่ได้รู้จักกับนพ.บุญ เป็นการส่วนตัว แต่เห็นผ่านสื่อโฆษณา และเป็นหมอที่มีชื่อเสียง คิดไม่ถึงว่าจะมีพฤติกรรมเช่นนี้ โดยส่วนใหญ่จะอ้างว่าจะนำไปลงทุนโครงการเวลเนสริมแม่น้ำ พระราม 3 และโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง และ อ้างว่าจะนำไปลงทุนซื้อถุงมือทางการแพทย์ ในช่วง โควิด-19 / นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายรายอื่นอีกหลายราย มีผู้เสียหายรายหนึ่งเสียหายมูลค่าสูงสุดถึง 2,000 ล้านบาท ในการลงทุน และเชื่อว่ามูลค่าความเสียหายทั้งหมดน่าจะสูงถึง 20,000 ล้านบาท
ทั้งนี้โบรกเกอร์ และนายแพทย์บุญอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยร้อยละ 8% ต่อปี ซึ่งช่วงแรกมองว่าไม่สมเหตุสมผล แต่นายแพทย์บุญนำหุ้นของโรงพยาบาลธนบุรี มาใช้ในการค้ำประกันเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ ซึ่งผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งที่ได้หุ้น และยังไม่ได้หุ้นดังกล่าว และจากการตรวจสอบย้อนหลังหุ้นในตลาดหลักทรัพย์พบว่าหุ้นดังกล่าวเหลือเพียงหุ้นที่เป็นชื่อของลูก และภรรยาของ นายแพทย์บุญเท่านั้น ยังพบว่านายแพทย์บุญถือหุ้นอยู่เพียงเล็กน้อย
ส่วนกรณีของลูกสะใภ้ของนายแพทย์บุญที่ตำรวจกันไว้เป็นพยานแต่ไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา นายหมีระบุว่าตนเองรู้สึกแปลกใจที่ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา เพราะเชื่อว่า ลูกสะใภ้คนนี้มีส่วนรู้เห็นในขบวนการนี้เนื่องจากในเวลาจำนองหุ้น ตนเองได้เข้าไปร่วมระหว่างการโอนหุ้นด้วย พบว่ามีการใช้บัตรประชาชนตัวจริง และยืนยันทางโทรศัพท์กับเจ้าของหุ้นซึ่งมีพยานเป็นเจ้าหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์ และเชื่อว่าทุกคนมีส่วนร่วมในกระบวนการนี้
ส่วนกรณีที่ลูกสาว และภรรยาปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็น และถูกปลอมลายเซ็นนั้น นายหมี ระบุว่าไม่เชื่อเพราะเป็นครอบครัวเดียวกันน่าจะมีส่วนรู้เห็น / ส่วนที่เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลวันนี้เพื่อต้องการคัดค้านการประกันตัวของสองแม่ลูก เพราะ เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี เช่นเดียวกับนายแพทย์บุญที่หลบหนีไปตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 67 และเชื่อว่า ทรัพย์สินถูกส่งไปยังนายแพทย์บุญเป็นที่เรียบร้อย
พร้อมทั้งมองว่าการที่นายแพทย์บุญไปเสวยสุขอยู่ที่ ต่างประเทศ นายหมี มองว่า เป็นการกระทำที่ “จั_ไร” เพราะตนเองได้รับความเดือดร้อนจากการที่นำเงินไปลงทุน บ้านจะถูกยึด และต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะถามว่าหลังจากนี้ถ้าหากเจอนายแพทย์บุญยังจะเรียกคำนำหน้าว่า “หมอ” หรือไม่ นายหมี ระบุว่าขอไม่เรียกว่าหมอแต่จะเรียกว่า “ไอ้เ_ยบุญ”
Advertisement