“ทนายเดชา” แบ่งรับแบ่งสู้ อนาคตรับเป็นทนายความให้ “ตั้ม” หรือไม่

อย่าเชียร์เยอะผมยิ่งบ้าจี้อยู่! ทนายเดชา แบ่งรับแบ่งสู้ อนาคตรับเป็นทนายความให้ “ตั้ม” หรือไม่ ชี้วางแผนเช็ตทีมไว้ก่อนเข้าคุกแล้ว ไม่ใช่ชุด “สายหยุด”

วันนี้ (25พ.ย.67) นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความตั้งโต๊ะแถลงข่าว ภายหลังมีกระแสข่าวว่าอาจจะเป็นทนายความให้ให้กับ ทนายตั้มหรือไม่ หลังทนายสายหยุดประกาศถอนตัว

คอนเทนต์แนะนำ

ดับแล้ว 5 ศพ! นักท่องเที่ยวต่างชาติสังเวยชีวิตให้เหล้าผสมเมทานอลในลาว

ทำถึง! ทีมเชียร์ลีดเดอร์ขอนแก่นวิทยายน จากไวรัลชุดบอดี้มนุษย์และเปรต

รมช.คลัง แนะเข้าเว็บ Welfare.mof.go.th ยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

โดยทนายเดชา ยืนยันว่า ยังไม่ได้รับเป็นทนายความให้กับทนายตั้ม พร้อมกับเล่าว่าตนเองได้คุยกับทนายตั้ม ก่อนที่ทนายตั้มจะติดคุก ว่า ทนายสายหยุด ไม่ใช่ทีมทนายที่จะมาทำคดีนี้อยู่แล้ว เพราะทนายตั้ม ได้เซ็ตทีมงานไว้นานแล้ว ตั้งแต่เจ๊อ้อย ได้เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากนั้นทนายตั้ม ก็ได้วางแผนวางรูปคดี เซ็ตทีมงานไว้เรียบร้อย แต่ไม่ใช่ชุดของทนายสายหยุด

ซึ่งเท่าที่ตนเองคุยกับทนายสายหยุด และทนายตั้ม วันที่โดนจับที่ฉะเชิงเทรา นั้น ทราบว่า ทนายตั้ม ได้โทรศัพท์เรียกทนายสายหยุดไปช่วยที่กองปราบ ให้อยู่เป็นเพื่อน ระหว่างสอบปากคำ ซึ่งเรื่องราวก็มีแค่นี้ แต่ไม่ได้หมายถึงว่าจะให้รับผิดชอบคดี พอหลังจากนั้นทนายสายหยุด ก็ไปเยี่ยมทนายตั้มบ้างและดูแลเกี่ยวกับเรื่องการประกันตัว บทบาทหน้าที่เท่าที่ตนเองทราบก็มีเพียงประมาณนี้ แต่หากคนที่ทำงานจริงๆจะมีทีมที่เซ็ตอยู่แล้ว

เมื่อนักข่าวถามว่า หากทนายตั้มต้องการให้ทนายเดชาไปเป็นทนายให้จะรับหรือไม่ ทนายเดชา บอกว่าเป็นเรื่องในอนาคต เราไม่สามารถที่จะตอบได้ในอนาคตว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันตอบยากว่าวันข้างหน้าเราจะเป็นทนายให้เขาหรือไม่ แต่ตนเคยให้คำแนะนำทางด้านกฎหมาย กับทนายตั้มมาตลอด และหลายเรื่องในฐานะที่ตนเองเป็นพี่ใหญ่ เพราะในกลุ่มตนเองเป็นพี่ใหญ่ที่สุด น้องๆใครมีปัญหาอะไรก็มาปรึกษาตนเอง

เมื่อนักข่าวถามว่า แต่ไม่ได้ปฏิเสธใช่หรือไม่ ที่จะเป็นทนายให้กับทนายตั้ม ทนายเดชา บอกว่า ก็ยังไม่ถึงขนาดปฏิเสธหรือรับ เพราะต้องดูสถานการณ์ก่อน ว่าทีมเขาเป็นยังไง เรายังคงไม่ต้องไปเปิดตัวหรอก เพราะมันยังไม่ถึงเวลาขนาดนั้น ยังไม่ถึงขั้นต้องไปว่าความ เพราะกว่าจะต้องว่าความ ก็เกือบปี แต่ตนทราบมาว่าเขามีทีมอยู่แล้ว

ส่วนหลังจากนี้นายตั้ม จะมาขอคำปรึกษาหรือขอให้เข้าเยี่ยม ทนายเดชายินดีหรือไม่ ทนายเดช าบอกว่าอย่างที่บอกตนเองเป็นคนรักเพื่อนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอะไรที่เราช่วยเพื่อนได้ยินดีอยู่แล้ว แต่ถึงขนาดจะต้องไปเปิดตัวว่าความ ตนเองว่ามันยังไม่ถึงเวลา เพราะคดียังไม่ไปถึงศาล และทุกคดีที่ผ่านมาของทนายตั้ม ยังไม่ไปถึงศาล ไม่ว่าคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 100/2 ยังไม่มีคดีไหนถึงศาลเลย

ทนายเดชา บอกว่า ได้คุยทนายตั้ม ก่อนที่จะถูกจับซึ่งทนายตั้มยืนยันว่า ไม่มีความคิดที่จะรับสารภาพเลย และบอกว่า “อาจารย์ครับงานนี้ผมผ่านไปได้ผมผ่านมาเยอะแล้ว และเขาไม่เคยคิดจะสารภาพอะไรเลย” ซึ่งเขามั่นใจว่าเขามีทางออก ส่วนจะออกทางไหนยังไงก็ถือเป็นเรื่องของเขา

ส่วนคิดว่าพอจะมีช่องทางหรือแนวทางต่อสู้คดี ในฝั่งทนายตั้มยังไงบ้าง ทนายเดชา บอกว่า ทุกวันนี้เห็นข้อมูลที่ผ่านสื่อ และสื่อที่เป็นสายของพวกผู้เสียหาย แต่เรายังไม่เคยเห็นข้อมูลในสำนวนตำรวจเลย และตนเองเชื่อว่ากองปราบเป็นมืออาชีพเป็นกลาง เคียงข้างประชาชน คงไม่ให้ข้อมูลที่เป็นความลับในสำนวน กับนักข่าวหรือว่าผู้เสียหายดู เพราะมันเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และตนเองก็ยังไม่รู้ว่าในสำนวนของตำรวจมีพยานหลักฐานแน่นหนาขนาดไหน ซึ่งก็ฟังจากสื่อ ฟังจากฝ่ายผู้เสียหายบ้าง แต่เราไม่เคยเห็นในสำนวน ว่ามีพยานหลักฐานอะไรบ้าง ที่มัดแน่น

ส่วนเอกสารที่มีอยู่ในมือทนายสายหยุด กับนายปานเทพ ไม่ตรงกันนั้น ทนายเดชา มองว่า ต้นฉบับและคู่ฉบับต้องตรงกัน แต่หาก ของทนายตั้มไม่ตรงกัน แต่มันก็ยังไม่ได้มีการนำมาใช้ และตนเองก็ไม่เชื่อว่า ทนายตั้มจะเอาเอกสารปลอมมาใช้เพราะเขาเป็นทนาย เขาจะนำมาใช้เพื่ออะไร และเท่าที่ทราบมา ยังไม่มีการยื่นพยานเอกสารในสำนวนเลย ก็แสดงว่า เขาก็ต้องรอดูว่าฝ่ายผู้เสียหาย ปล่อยมุกอะไรมาหมดหรือยัง ตำรวจดำเนินการจนเสร็จสิ้นหรือยังมีอะไรบ้างและหลังจากนั้นเขาก็อาจจะไปยื่นในชั้นอัยการชั้นศาลซึ่งจะยื่นเมื่อไหร่ก็ได้แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ยื่นอะไรเลย

ส่วนประเด็นที่ว่า ในมุมทนายมองว่าเป็นคดีที่สู้ยากหรือไม่จึงไม่มีใครเข้ามารับทำคดีต่อ ทนายเดชาบอกว่า “คดีสู้ยากหรือไม่ยาก ไม่ได้ฟังจากสื่อ เพราะตอนนี้ หักฟังจากสื่อคือทนายตั้มแพ้คดีไปแล้ว พิพากษาประหารชีวิตไปแล้วแต่ในสำนวน ของพนักงานสอบสวน เรายังไม่เคยเห็นและตำรวจก็ไม่มีใครมาบอกว่าในสำนวนของพนักงานสอบสวนมีอะไรบ้าง”

ส่วนเรื่องการทำลายพินัยกรรม ก็ต้อง ดูว่ามีการลงลายมือชื่อหรือยัง ถ้าหากมีการลงลายมือชื่อในพินัยกรรมแล้ว และ นำพินัยกรรมของลูกความไปทำลายก็ต้องติดคุกโทษหนักด้วย แต่ก็ยังไม่เห็นตำรวจแจ้งข้อหาก็แสดงว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ หรือเป็นเรื่องที่เราคิดไปเองหรือเข้าใจไปเอง

ทนายเดชา ยังบอกอีกว่า ทนายตั้มเป็นคนใจใหญ่ กล้าได้กล้าเสีย ชอบเล่นเรื่องใหญ่ๆใจถึง เห็นได้จาก การออกมาแฉ และชน กับคน บิ๊กใหญ่ๆ

และมองว่าทนายตั้มเป็นคนฉลาดซึ่งเขารู้อยู่แล้ว ว่าเกมอะไรจะเกิดขึ้น และ เชื่อว่า เขาคิด อยู่แล้วว่าจะมีวันนี้ เพราะเขาวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน เป็นคนที่ไตร่ตรองไว้ก่อน และเชื่อว่าเขามีทางออก

ทนายเดชา ยังบอกว่า เดี๋ยวก็มีการเปิดตัวทนาย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นทนายความ ที่เคยทำคดีสำคัญๆ ไม่ได้อยู่หน้าสื่อหรือใน 'ษิทรา ลอว์เฟิร์ม'  ซึ่งอาจเป็นทนายที่อาจเคยทำคดีให้ตำรวจใหญ่หรือคนดังๆ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าต้องเป็น คนประเภทนั้น

ส่วนจะเป็นทนายเกิดผล หรือไม่ ทนายเดชา ยืนยันว่าไม่ใช่ ซึ่งมองว่าทนายตั้ม น่าจะเลือกคนที่พริ้วๆ ส่วนจะมีใครพลิ้วกว่าทนายเดชา หรือไม่นั้น ไม่รู้ เพราะคดีนี้ลีลาต้องพริ้วไหว

ส่วนประเด็นที่ว่าทนายตั้ม ไม่ให้นำโฉนดบ้านไปประกันเมีย เพราะ ต้องเก็บไว้ประกันตัวเองนั้น ทนายเดชา ถามกลับว่า เป็นเรื่องจริงหรือไม่ หรือเป็นคำพูดของทนายอาคมคนเดียวหรือเปล่า และเป็นไปได้ไหม ที่ ทนายตั้มจะไม่มีหลักประกันเลย  หรือคนอย่างทนายตั้มไม่มีตังค์เลย และอีกอย่างตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาที่ต้องยื่นประกันตัว  เพราะเท่าที่ตนเองทราบมา จะประกันตัวต่อเมื่อตำรวจสรุปสำนวนก่อน เพราะในคำสั่งของศาล จะให้ประกันตัวต่อเมื่อการสอบสวนเสร็จสิ้น ซึ่งตอนนี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ดังนั้นที่ทนายอาคมพูดก็ไม่รู้ว่าเรื่องจริงหรือเท็จ ก็ได้แต่ฟังเขาพูด เพราะทนายตั้มอยู่ในคุก แต่ส่วนตัว ท่าที่รู้จักทั้งทนายตั้มและเมียทนายตั้ม เชื่อว่าทนายตั้มเขารักเมียมาก และทนายตั้มไม่ได้มีแค่บ้านหลังเดียว

ทั้งนี้เชื่อว่าจะประกันตัวเมียก่อน เพราะเมียโดนแค่ข้อหาฟอกเงินอย่างเดียว แต่ทนายตั้มโดนหลายคดี หากมองเรื่องการเชื่อมโยงพยานหลักฐานก็น่าจะง่ายกว่า ในการขอปล่อยตัวชั่วคราว

ส่วนมีการวางแผนจะไปเยี่ยมทนายตั้มหรือไม่ ทนายเดชา บอกว่า ยังไม่มีเวลา

ในช่วงท้าย นักข่าวได้อ่านคอมเมนต์ให้ทนายเดชาฟัง ว่ามีคนเชียร์ทนายเดชา เป็นทนายความให้กับทนายตั้ม ทนายเดชาบอกว่า "จริงเหรออย่าเชียร์เยอะ ผมยิ่งบ้าจี้อยู่"