วันที่ 28 พ.ย.67 จากเหตุการณ์ที่คนร้ายยิงโหด 3 ศพ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 06.40 น.พื้นที่บ้านตะเคียนทองต.โนนม่วง อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู พบผู้เสียชีวิตชื่อนายปรีชา เพียใหม่ อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นผู้พิการขา นอนเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณหน้าบ้าน และจากการสอบถามเพื่อนบ้าน มีผู้บาดเจ็บเจ้าหน้าที่กู้ภัยมังกรศรีบุญเรืองนำตัวส่งโรงพยาบาลอำเภอศรีบุญเรือง คือ น.ส.วชินี เพียใหม่ อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของนายปรีชา และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นผู้ก่อเหตุยังได้ไปยิงนายถาวร แวดไธสง อายุ 66 ปี เสียชีวิตบริเวณสามแยกของหมู่บ้านอีก 1 ราย รวมผู้เสียชีวิตทั้งหมด 3 ราย ส่วนคนก่อเหตุคือ นายสามารถ อายุ 57 ปี หลังก่อเหตุ ขี่รถ จยย. หลบหนีไปในเขตรอยต่อ จ.หนองบัวลำภู และจ.เลย เจ้าหน้าที่กำลังปิดล้อมตลอดทั้งคืนกว่า 500 นาย
เมื่อช่วงเวลา 7 โมงเช้า ตำรวจพร้อมด้วยชุดปฏิบัติการฝ่ายปกครอง ได้นัดหมายที่จะประชุมวางแผนการทำงาน ปฏิบัติการภารกิจในการไล่ล่าตัวนายสามารถ ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่อำเภอศรีบุญเรือง หลังจากเมื่อวานนี้มีการจัดธีมไล่ล่า กันตลอดทั้งวัน และ หลายจุด เนื่องจากมีเบาะแสจากชาวบ้านที่พบเห็น ชายลักษณะคล้ายผู้ต้องหา มาขอน้ำ และข้าว แต่จนถึง ตอนนี้ยังไม่มีใครเห็นรถจักรยานยนต์ คันที่ ผู้ต้องหาใช้ขี่หลบหนี
โดยเช้าวันนี้มีการแบ่งภารกิจกัน โดยมุ่งเน้นไปที่การตามหารถจักรยานยนต์ ของผู้ก่อเหตุ รวมถึงส่งทีมไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีทุกตัว และส่งทีมปฏิบัติการ ค้นหาซ้ำในจุดเดิม ที่เมื่อวานมีเบาะแส
โดยเราได้ สอบถามจาก พ.ต.อ.สกล เฟื่องกระแสร์ รรท.ผกก.สภ.นากลาง ซึ่งเป็น หัวหน้าชุดในการทำงาน ระบุว่าวันนี้ต้องการให้ทีมไล่ล่ามุ่งเน้นการตามรถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุ ว่ามีการนำไปจอดทิ้งเอาไว้บริเวณใด เพราะหาก รู้จุดที่แน่ชัด ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเข้าใกล้ตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งชุดทำงานส่วนใหญ่ มั่นใจว่า ผู้ต้องหาน่าจะยังอยู่ในพื้นที่ และมีความพยายามที่จะกลับไปบ้านที่เกิดเหตุ และบ้านของตัวเอง ซึ่งก็เป็นไปได้ว่า ต้องการที่จะกลับไปก่อเหตุซ้ำตามที่ขู่เอาไว้ แต่เบื้องต้นทางตำรวจได้มีการ คุ้มกัน และเฝ้าระวัง อยู่โดยรอบ รวมถึงตัวผู้ที่ เป็นคู่กรณีก็ได้ย้ายที่พักแล้ว เพื่อความปลอดภัย จนกว่าตำรวจจะสามารถจับผู้ต้องหาได้
และวันนี้ ก็จะเน้นให้ชุดทำงาน ไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางทุกตัว ที่คาดว่าผู้ต้องหาจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี เพื่อกำหนด จุดการค้นหาให้แคบลงกว่าเดิม นอกจากนี้ ยังได้ให้ ชุดทำงาน เฝ้าติดตาม ครอบครัวและเพื่อนของผู้ก่อเหตุ ในกรณีที่สามารถติดต่อ ผู้ต้องหา ได้
โดยหลังจากที่มีการประชุมแล้ว ทั้งหมดก็ได้ แยกย้ายกันไป ลงพื้นที่ตามจุดที่ได้รับมอบหมาย ในเส้นทาง ที่คาดว่าผู้ต้องหาหลบหนี โดยส่วนใหญ่ จะเป็นบริเวณ ป่ายาง ป่าอ้อย และทางขึ้นเขา ซึ่ง ทีมทำงานได้ให้เวลาในการลงพื้นที่ จนถึงช่วงเวลาสิบเอ็ดโมง เพื่อที่จะกลับมาวางแผนร่วมกันใหม่อีกครั้ง โดยนำข้อมูล จัดการ ลงพื้นที่เช้านี้มาประเมินสถานการณ์
โดยนายเจษฎา ลูกชายนายสามารถได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อกับ นายสามารถ ซึ่งมีสัญญาณโทรศัพท์ แต่ยังไม่ยอมรับสาย
จากนั้นนางประมวล แม่ยายของนายเจษฎา ก็ได้ช่วยกันโทรศัพท์ถึงนายสามารถ ซึ่งก็รับสาย แล้วก็ถามว่าอยู่ที่ไหน ให้มามอบตัว และได้ส่งโทรศัพท์ให้กับนายเจษฎา ลูกชายคุยด้วย ซึ่งก็บอกให้มอบตัว และนายสามารถก็มีท่าทีสงบลงขึ้น และพร้อมที่จะมอบตัว พร้อมกับร้องไห้บอกว่ารัก นายปัง ลูกชาย โดยนายสามารถ ก็ร้องไห้อย่างหนัก โดยบอกว่าลูกไม่สนใจพ่อ ซึ่งลูกก็บอกว่ายังรักพ่ออยู่ และบอกกำลังจะไปหา
นายเจษฎา และนางประมวล ก็ได้เก็บข้าวของออกจากบ้านพักที่มาหลบหนีตัวอยู่ในจังหวัดอุดรธานี เพื่อจะเดินทางไปจังหวัดหนองบัวลำภู
โดยนางสาวส้ม ภรรยาของนายเจษฎา ก็บอกว่าดีใจที่นายสามารถมอบตัว ก็จะพาลูกและหลาน ไปรอพบที่จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งหากเจอหน้านายสามารถก็คงจะคุยกันถึงเรื่องมูลเหตุที่ลงมือก่อเหตุลงไปว่าทำเพราะอะไร แต่ก็คงคิดว่าเขามีเหตุผลของเขา และตอนที่พูดกับลูกชายทางโทรศัพท์ก็ร้องไห้อยู่ตลอดเวลา
ล่าสุดเวลา 12.19 น.ที่ผ่านมาตำรวจจับตัวนายสามารถได้แล้ว หลังประสานเมียว่าจะขอมอบตัว และแจ้งพิกัดให้ตำรวจเข้าไปควบคุมตัว
โดยสถานที่จับกุม หลังโรงเรียน บ้านซำขอนแก่น ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู
Advertisement