วันที่ 28 พ.ย. 67 น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง พร้อมด้วยนาย วัน อยู่บำรุง สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ร่วมกับ เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กราชวิถี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หนองแขม และน.ส.นรินรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี อาของ น.ส.เอ อายุ 16 ปี และ ด.ญ.บี อายุ 13 ปี เพื่อเข้าช่วยเหลือเด็กอายุ 13 ปี
หลังจากที่พี่สาววัย16 ปี ถูกพ่อเลี้ยงล่วงละเมิดทางเพศ เป็นคนเล่าเหตุการณ์ ที่ตนและน้องสาวถูกพ่อเลี้ยงกระทำอะไรมาบ้าง แม่เด็กพยายามบังคับลูกวัย 13 ให้โกหกตำรวจว่าอยากอยู่กับแม่ แล้วตอนนี้น้องวัย 13 ปีไม่ได้ไปโรงเรียน 3 วันแล้ว คาดว่าแม่จะให้อยู่แต่ในบ้านไม่ออกไปไหน หลังจากอาของเด็กได้พาหลานสาววัย 16 ปี เข้าแจ้งความตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา
วันนี้อาเด็กแจ้งว่า ตำรวจเรียกไปพบ เพื่อให้ยอมความ อ้างว่าจะได้เอาเด็ก13 ออกมาได้ ซึ่งทางอามองว่าตำรวจแนะนำไม่ถูกที่จะให้ยอมความ จึงมาขอความช่วยเหลือจากทางมูลนิธิฯ เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยหลานสาวทั้ง2
น.ส.นรินรัตน์ กล่าวว่า เด็กทั้งสองคนเป็นลูกของพี่ชายตนที่เสียชีวิตไปแล้ว อาศัยอยู่กับมารดา และพ่อเลี้ยง โดยเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ไปพบกับ น.ส.เอ หลานสาว ที่ รร.และได้รับทราบเรื่องราวจากหลานสาวว่าถูกนายพรเทพ เรืองสินธุ์ พ่อเลี้ยง กระทำชำเราเมื่อ 7 เดือนที่ผ่านมา และหลังจากนั้นก็ได้ถูกพ่อเลี้ยงทำอนาจาร ลูบคลำตามร่างกายมาโดยตลอด ต่อมาเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 67 น้องได้แชตไลน์มาบอกว่าได้ถูกพ่อเลี้ยงลวนลามอีกครั้ง ตนจึงได้ตัดสินใจว่าหากปล่อยให้เด็กทั้งสองคนอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวคงไม่มีความปลอดภัยอย่างมาก จึงตัดสินใจให้เด็กรวบรวมเอกสารแล้วเข้าแจ้งความ เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา
น.ส.นรินรัตน์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเด็กเคยมาขอความช่วยเหลือ โดนแม่และพ่อเลี้ยงตบตี แต่ทางอาไม่สามารถช่วยได้ เพราะแม่ได้ไปแจ้งความว่าทางอาจะลักพาตัวเด็กๆ แล้วแม่เด็กอ้างกับตำรวจว่า ตีลูกเป็นเรื่องธรรมดา และแม่ก็ทราบว่าพ่อเลี้ยงมีพฤติกรรมลูบคลำเด็กตลอดเวลา แล้วเด็กไปบอกแม่ แม่บอกกับเด็กๆว่า ป๊าทำด้วยความรัก พอเด็กอายุ 16 ปีถูกกระทำล่วงละเมิด เลยตัดสินใจไปบอกแม่ แม่บอกกับน้องอายุ 16 ปีว่าให้ลืมๆไป แล้วน้องจึงคิดไปตัดผม ให้ตัวเองเป็นผู้ชายและใส่สเตร์รัดหน้าอก เพื่อไม่ให้พ่อเลี้ยงมาบีบคลำได้ หลังจากที่น้องไปตัดผม แม่และพ่อเลี้ยงก็ด่า และโมโหใส่น้องตลอดเวลา เพราะเขาชอบให้น้องแต่งตัวเป็นผู้หญิง
ส่วนที่ต้องเข้าร้องเรียนกับมูลนิธิเป็นหนึ่งและสื่อมวลชนก็เพราะว่าพนักงานสอบสวนได้ติดต่อมา เพื่อให้ยอมความ จนจึงเกรงว่าคดีดังกล่าวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
ต่อมา ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กราชวิถี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หนองแขม เดินทาง มาตรวจสอบบ้านพักของพ่อเลี้ยง และแม่ แต่พบว่าทั้ง 2 คนไม่อยู่บ้าน และได้พา ด.ญ.บี ไปด้วย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อไปยังโรงเรียนของเด็กจึงทราบว่าเด็กไม่ได้มาโรงเรียน 4 วันแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้พยายามติดต่อ น.ส.แม่และพ่อเลี้ยงให้พาเด็กเข้ามาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ที่ สน.หนองแขม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Advertisement