วันที่ 29 พ.ย.67 จากกรณีหญิงสาวขับรถยนต์ ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู สีดำ ชนท้ายรถจักรยานยนต์ที่มีผู้เป็นแม่เป็นคนขับขี่ โดยมีลูกชายอายุ 16 ปี นักเรียนชั้นม.4 และลูกสาวอายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ขณะขับขี่อยู่บริเวณสะพานบนข้ามทางรถไฟบ้านหนองหมุก ถนนสายจ.ทางลัดเข้าตัวเมืองชุมพร ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร หลังเกิดเหตุหญิงคนขับรถได้อุ้มแมวหายไป
ล่าสุด สภ.เมืองชุมพร ได้แถลงความคืบหน้าคดีดังกล่าว ระบุว่า พนักงานสอบสวนได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ของนางสาวจิรันธนิน (สงวนนามสกุล)คนขับรถ BMW ด้วยวิธีการเป่าด้วยลมหายใจ จำนวน 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ค่าที่วัดได้ 29 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ครั้งที่ 2ค่าที่วัดได้ 27 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
จากนั้นได้นำตัวนางสาวจิรันธนิน ไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด ที่โรงพยาบาลชุมพรเชตรอุดมศักดิ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลตรวจวิเคราะห์
จากการสอบสวนปากคำพยาน ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ พบเห็นผู้ขับขี่หลังเกิดเหตุทันทีและช่วยหาแมวของผู้ขับขี่ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ให้พยานดูภาพถ่ายของนางสาวจิรันธนิน และผู้ครอบครองรถยนต์คันเกิดเหตุ เพื่อยืนยัน โดยพยานยืนยันว่าผู้ขับขี่รถยนต์คันเกิดเหตุในวันเวลาเกิดเหตุ คือ นางสาวจิรันธนิน
จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของ นางสาวจิรันธนิน พบว่า นางสาวรันธนิน ได้ถ่ายภาพโทรศัพท์มือถือไว้ในขณะขับขี่รถยนต์เก๋งคันเกิดเหตุ ระบุเวลาถ่ายภาพ 18.56 น.ของวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567พบความเร็วในภาพถ่ายประมาณ 207 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับ ขณะที่ภาพของกล้องวงจรปิดหน้ารถยนต์คันเกิดเหตุ จับภาพเฉี่ยวชนบริเวณด้านท้ายของรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุ จึงเชื่อว่าขณะเกิดเหตุ นางสาว จิรันธนิน ได้ขับขี่รถยนต์เก๋งคันเกิดเหตุ ด้วยความเร็วประมาณ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมกับใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายไว้ในขณะขับขี่ไปด้วย (ขับขี่รถด้วยมือข้างเดียว) จนเป็นเหตุให้เกิดการเฉี่ยวชน
จากการสอบสวนปากคำผู้ครอบครองรถยนต์คันเกิดเหตุ ให้การว่า ในวันเวลาเกิดเหตุ ผู้ครอบครองรถยนต์คันเกิดเหตุ ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุและในรถยนต์คันเกิดเหตุแต่อย่างใด ซึ่งครอบครองรถยนต์คันเกิดเหตุนั้น อยู่ที่งานบำเพ็ญกุศลศพของญาติที่บ้านทับตะโหนด ตำบลนาทุ่ง อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหานางสาวจิรันธนิน ว่า "ขับรถยนต์ในขณะเมาสุรา โดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ซึ่งขับขี่ด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ,ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลและทรัพย์สินของผู้อื่น แล้วไม่หยุดช่วยเหลือ แสดงตัว และแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ที่ใกล้เคียงทันที
ซึ่งนางสาวจิรันธนิน ผู้ต้องหานั้น ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนโดยไม่ได้เป็นผู้จับกุมและผู้ถูกออกหมายจับ พนักงานสอบสวนจึงไม่สามารถใส่เครื่องพันธนธนารได้ และไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถควบคุมตัวผู้ต้องหาเพื่อนำไปขอหมายขังที่ศาลได้อย่างใด จึงได้เชิญตัวผู้ต้องหาไปที่ศาลจังหวัดชุมพรเพื่อขอหมายขัง โดยได้คัดค้านการประกันตัว ด้วยเหตุว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี
Advertisement