เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ธ.ค. ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม ดารานักแสดง ยังไม่ประสานพบตำรวจหลังถูกหมายเรียกคดีเรียกรับเงิน ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตนเสียใจที่สุดในชีวิตครั้งหนึ่ง ที่ต้องรับรู้เรื่องของเขาผ่านกลไกต่างๆ แม้กระทั่งเรื่อง K4 บริษัทลงทุนที่มีปัญหาอยู่ ไม่สามารถเบิกถอนเงินได้ก็มีนายรัฐภูมิ เป็นพรีเซนเตอร์ด้วย ซึ่งตนจะเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย เพื่อให้พิจารณาว่านายรัฐภูมิ เข้าข่ายมีความผิดด้วยหรือไม่
“ผมก็อยากจะบอกว่าคุณฟิล์ม เป็นคนที่ใช้ชีวิตด้วยความประมาทหรือไม่ แทนที่จะใช้หน้าตาความรู้ความสามารถ ชื่อเสียงตัวเอง ผมว่าดังเป็นอันดับต้นๆของประเทศ แต่กลับใช้วิธีการเทคนิคต่างๆ เพื่อรวยทางลัดด้วยหรือไม่ และผมทราบว่าเขาจะฟ้องผมด้วย มีการติดต่อผ่านทนายและพรรคพวกที่รู้จักกันก็บอกผมอยู่ว่าเขาจะฟ้องผม ผมก็ยินดีทุกการต่อสู้” นายแทนคุณ กล่าว
นายแทนคุณ กล่าวต่อว่า ตนได้ข้อมูลของผู้เสียหายที่บอบช้ำจากนายรัฐภูมิ จึงอยากจะสื่อสารออกไปเพื่อช่วยเหลือและให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย คนตัวเล็กตัวน้อย คนที่อยู่จ.ตรัง ที่ตนเคยออกมาเปิดเผยเรื่องราว เคยคิดสั้นฆ่าตัวตายมาแล้ว จึงถึงเวลาต้องบอกคนอื่น ว่าการกระทำของนายรัฐภูมิทำร้ายคนไปพอสมควร ยืนยันว่าอยากให้ตำรวจขยายผลจะให้ตนไปให้ข้อมูลเพิ่มก็ได้ ตนยินดี เพราะทำงานบนพื้นฐานข้อมูลหลักฐานและความเห็นอกเห็นใจผู้เสียหายเป็นหลัก และพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหากตนทำผิดพลาดไป
“สำนึกของเราเป็นเรื่องสำคัญ เราจะรวยสักเท่าไหร่ ถ้ามาจากเงินบาปที่ไปเบียดเบียนคนอื่น จนเกือบเอาชีวิตเขาและครอบครัวเขา คุณจะไม่มีวันมีความสุข และผลกรรมนี้จะต้องตามทันคุณ น่าเสียดายอย่างเดียว ประเทศไทยเราโทษในการดำเนินคดีกับคนทุจริต ผมว่าน้อยและเบาไป” นายแทนคุณ กล่าว
นายแทนคุณ ยกตัวอย่างกรณีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ติดคุกคดีรับจำนำข้าว ศาลสั่งจำคุก 48 ปี แต่ 7 ปีก็ออกมาแล้ว ซึ่งมีผู้เสียหายจากนายบุญทรงอยู่ ตนจึงคิดว่า เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขกฎหมายไม่เช่นนั้นคนก็จะทุจริตกันเต็มบ้านเต็มเมือง ติดไม่กี่ปีก็ออกมาแล้ว ได้ใช้เงินที่ไปซุกซ้อน ได้ไปเสวยสุข จึงอยากเรียกร้องให้เพิ่มโทษในคดีทุจริตสูงสุดเป็นประหารชีวิต ยึดทรัพย์ตกคืนแผ่นดินและผู้เสียหาย
Advertisement