โจ๋ 18 คะนอง ยิงผิดตัวใส่เจ้าหน้าที่ อุทยานน้ำตกหงาว บาดเจ็บ 2

โจ๋ 18 คะนอง ขี่รถจักรยานยนต์ 9 คัน บุกถล่มคู่อริต่างตำบล สุดท้ายยิงผิดตัวใส่เจ้าหน้าที่ อุทยานน้ำตกหงาว บาดเจ็บ 2 ตร.ล่าตัวรวบได้ยกแก๊ง 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกวันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สุรศักดิ์ จินตนา สว. (สอบสวน) สภ.ราชกรูด รับแจ้งเหตุ มีการใช้อาวุธยิง และปาระเบิดปิงปองเข้าใส่เจ้าหน้าที่อุทยานน้ำตกหงาว ชุดลาดตระเวนป่า บริเวณปากทางเข้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว ริมถนนเพชรเกษม ม.1 ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนอง จนได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ราย 

คอนเทนต์แนะนำ

นักอาชญาวิทยา ชี้พบ พิรุธหลายอย่าง ตัดสินใจเป็นพยานคดีแตงโม

รวบหนุ่มซุกปืนคาขนส่งหมอชิต อ้างซื้อจากแอปดังราคา 300 บาท

"ฟุตซอลหญิงทีมชาติไทย" เชือด อิรัก ศึกชิงแชมป์เอเชีย 2025 รอบคัดเลือก

คนขี่รถถูกสะเก็ดระเบิดปิงปองเข้าขาทั้ง 2 ข้าง ส่วนคนซ้อนท้ายถูกยิงเข้าน่องขวากระสุนฝังใน ก่อนรีบเข้าที่ทำการอุทยานน้ำตกหงาว ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนเจ้าหน้าที่ พร้อมนำตัวส่งไปรักษาที่ รพ.ระนองทันที 

จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ราย เพิ่งกลับจากเดินลาดตระเวนป่า เมื่อกลับถึงที่พักได้นำเสื้อผ้า และเครื่องแบบไปซักยังร้านซักอบผ้าหยอดเหรียญ บริเวณตลาดเทศบาลหงาวในช่วงค่ำ ก่อนเดินทางกลับ ระหว่างทางผ่านวัดหงาวได้สังเกตเห็นกลุ่มวัยรุ่นทีมใหญ่ร่วม 18 คน ใช้รถจักรยานยนต์ จำนวน 9 คัน แล่นสวนมา เกรงหวั่นจะมีเรื่อง เลยรีบบิดรถกลับที่ทำการอุทยานทันที ซึ่งอยู่ห่างเพียง 2 ก.ม. แต่วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวคงเข้าใจผิดว่าเป็นคู่อริจากบ้านท่าฉาง ต.หงาว จึงเลี้ยวรถไล่ติดตามมาบนถนนเพชรเกษมทันที 

จนถึงปากทางเข้าอุทยานน้ำตกหงาว 1 ในกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ชักอาวุธปืนยิง และปาระเบิดปิงปองเข้าใส่ 2 เจ้าหน้าที่อุทยาน โชคดีทิศทางกระสุนเจาะเข้าที่น่องขวา 1 คน อีกคนถูกสะเก็ดระเบิดปิงปองเข้าที่น่องทั้งสองข้างก่ อนรีบเข้าไปขอความช่วยเหลือภายในที่ทำการ และส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.ระนองทันที

 ส่วนกลุ่มวัยรุ่นที่ผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีทันที การก่อเหตุในครั้งนี้เป็นการแก้แค้นยิงผิดตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานน้ำตกหงาวไม่ได้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งจากวัยรุ่นทั้ง 2 กลุ่มที่มีการปาระเบิดปิงปองถล่มกันไปมาระหว่างวัยรุ่น 2 ตำบลที่หมู่บ้าน และชุมชนอยู่ห่างกันร่วม 10 กิโลเมตร 

จนช่วงเช้าวันที่ 10 ธ.ค. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ราชกรูดพร้อมชุดสืบสวนฯ และหน่วยพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสถานที่เกิดเหตุ บริเวณทางเข้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว พบปลอกกระสุน จำนวน 3 ปลอกตกอยู่บนพื้นถนน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน หลังสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องได้รายงานให้กับทางผู้บังคับบัญชาทราบเหตุ 

พล.ต.ต.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา ผบก.ภ.จว.ระนอง ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เสน่ห์ มณีฉาย ผกก.สืบสวนภ.จว.ระนอง พ.ต.ท.สมศักดิ์ ดำมี สว.กก.สืบสวนภ.จว.ระนอง และ ร.ต.อ.ปิยพงศ์ ชายสุด รองสว.(สืบสวน) สภ.ราชกรูด นำกำลังตำรวจร่วม 30 นายเข้าแกะรอยกลุ่มผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุ จนได้ภาพจากกล้องวงจรปิด จากปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนนเพชรเกษม จึงทำให้เห็นกลุ่มวัยรุ่นที่ใช้รถจักรยานยนต์แวะเข้าเติมน้ำมันภายในปั๊ม ก่อนจะขี่รถตามกันออกไปสู่ถนนเพชรเกษม เพื่อกลับเข้าพื้นที่ตัวเมืองระนองแล้วแยกย้ายตัวกัน 

หลังจากได้ภาพจากกล้องวงจรปิด พล.ต.ต.เชิดพงษ์ ได้โพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ได้รับมา พร้อมประกาศให้กลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดรีบเข้าแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที จนช่วงบ่ายกลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุ 16-18 ปี ได้ทยอยกันเข้ามอบตัว พร้อมนำรถจักรยานยนต์ที่ขี่ไปก่อเหตุในพื้นที่ ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนอง และได้ 2 ตัวหลักที่ขี่รถจักรยานยนต์ อายุ 18 ปี และคนซ้อนท้าย อายุ 16 ปี ที่ใช้อาวุธปืนยิงได้เข้ามอบตัว พร้อมรับสารภาพกับผู้การระนอง เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 รายถูกตั้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น แต่ยังขาดอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ 

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนระนองต้องหัวปั่น หลังจากที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พยายามปกปิดแหล่งที่ซ่อนปืนแบลงค์กันสิ่งเทียมอาวุธมาดัดแปลงใช้กับกระสุนจริงได้ ซึ่งมีจำหน่ายตามเพจในโซเชียลออนไลน์ โดยผู้สื่อข่าวได้ติดตามตำรวจชุดสืบสวนออกติดตามค้นหาอาวุธปืนตามคำรับสารภาพ แต่ยังไม่สามารถตรวจค้นเจอจน ต้องมีการนำตัวผู้ต้องหา ทั้งมือยิงและมือขี่รถจักรยานยนต์ที่ก่อเหตุมาเค้นสอบความจริง ที่กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดระนอง 

จนกระทั่งเวลา 18.00 น. มือปืนวัย 16 ปี เปิดปากสารภาพว่าปืนที่ใช้ก่อเหตุได้มอบให้เพื่อนวัย 18 คนที่ขี่รถจักรยานยนต์เป็นผู้เอาไปแอบซ่อน จนมีการออกไปค้นหายังบ้านแถวเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.บางนอน อ.เมือง ที่มีเพื่อนวัย 18 อาศัยอยู่ แต่ไม่ได้เป็นผู้ร่วมก่อเหตุ ทั้ง 18 คนโดยการค้นครั้งแรกภายในห้องแถวเช่าค้นหาในกล่องพลาสติก มีลิ้นชัก 4 ชั้น ภายในห้องนอน แต่ไม่เจอจึงนึกว่าเพื่อนร่วมห้องที่พักนอนอยู่เป็นคนนำไปแอบซ่อนที่อื่นอีก เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถจักรยานยนต์ติดตามไปหาตัวเพื่อนที่อาจจะขึ้นไปเล่นกีตาร์บนเนินเขาใกล้ห้องเช่าจนได้ตัวมาตอนค่ำแล้วประมาณ 19.00น. และสารวัตรสืบสวนได้แจ้งให้น้องที่พักอยู่ในห้องทราบว่าทางตำรวจมาที่นี้เพราะต้องการอาวุธปืนโดยเพื่อนที่ตกเป็นผู้ต้องหาได้เอาปืนมาซ่อนไว้ที่นี้ แต่ก็ปฏิเสธเช่นกันว่าไม่เคยเห็นปืนที่ถูกนำมาซ่อนไว้ จนตำรวจต้องติดตามไปค้นหายังเป้าหมายในพื้นที่ข้างเคียง แต่ก็ไร้วี่แวว 

สุดท้ายเมื่อเวลา 20.00 น. ชุดสืบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาวัย 18 กลับมาค้นห้องแถวเช่าหลังเดิมอีกครั้ง พร้อมชี้กล่องพลาสติก 4 ชั้นมีลิ้นชัก ซึ่งอยู่ในห้องรับแขกหน้าบ้าน และชี้ไปยังลิ้นชักชั้นที่ 2 เจ้าหน้าที่จึงนำออกมาตรวจค้นจนพบกล่องพลาสติกสีดำแกะภายในพบอาวุธปืนแบลงค์กัน พร้อมกระสุนปืน .38 อีกจำนวนหนึ่ง ตำรวจสอบถามครั้งแรกที่มาค้นทำไมไม่บอกความจริง น้องวัย 18 บอกว่า หากพบอาวุธปืนกลัวจะมีความผิดเพิ่มขึ้นอีก แต่สุดท้ายต้องยอมรับสารภาพความจริง เพราะไม่สามารถหลบหลีกได้อีก กลัวเพื่อนๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องจะมีความผิด 

ก่อนนำตัวกลับพร้อมอาวุธปืนมาที่กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดระนอง เมื่อเวลา 20.50 น. พร้อมส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวน สภ.ราชกรูดที่มาดำเนินการสอบปากคำ เบื้องต้นจะมีการแจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นกับ 2 ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ ส่วนวัยรุ่นรายอื่นๆ อีก 16 รายจะดูความผิดว่าไปเกี่ยวข้องกับความผิดข้อไหนจะแจ้งความผิดเพิ่มเติม รวมทั้งให้ทีมสหวิชาชีพสอบสวนในกระบวนการช่วยเหลือเด็กเข้าร่วมสอบสวนปากคำต่อไป