วันที่ 18 ธ.ค.67 นายสันธนะ ประยูรรัตน์ เดินทางมาที่เรือนจำจังหวัดนครนายกแห่งใหม่ เพื่อเข้าเยี่ยม นายสุนทร วิลาวัลย์ หรือ โกทร ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฆ่า สจ.โต้ง หลังถูกส่งตัวมาฝากขัง เนื่องจากศาลจังหวัดปราจีนบุรี ไม่อนุญาตให้ประกันตัว
นายสันธนะ เปิดเผยก่อนเข้าเยี่ยมโกทรว่า ปกติแล้วตนไม่ตื่นเช้า แต่ที่วันนี้ตื่นเช้า ถ้าไม่ใช่เพราะคนดีๆ แบบพี่ทร ก็คงยังไม่ตื่น สำหรับหารเข้าเยี่ยมในวันนี้ ตนมาเอง โดยไม่ได้ประสานผ่านทนายความหรือญาติ ซึ่งจะขอทางราชทัณฑ์ ให้สอบถามผู้ต้องขังเองว่าอยากพบตนหรือไม่ แม้ไม่มีรายชื่อ เชื่อว่าระเบียบ 10 รายชื่อ น่าจะมีการผ่อนปรนได้
ซึ่งที่ตั้งใจมาวันนี้ มีเรื่องที่อยากจะพูดกับ พี่ทร ประมาณ 3 เรื่อง เรื่องแรก คือการต่อสู้คดี โดยตนมองว่าจากการที่ตำรวจทำการสืบสวนสอบสวน ไม่ได้ตรงกับข้อเท็จจริงที่ฟังจากพี่ทร และลักษณะการทำงานของตำรวจ ตนเชื่อว่าน่าจะมีธงอยู่แล้วว่าพี่ทรวางแผนเตรียมการสั่งฆ่า ซึ่งขอถามว่า ตำรวจที่ทำคดี โตแต่ตำแหน่ง ทำงานกันเป็นหรือไม่ แค่จากการสอบปากคำผู้ต้องหา 7 คน หากไม่จริง ต้องให้การไม่ตรงกันแล้ว แต่พอเรื่องจริงไม่เข้าเป้า ก็เลยพยายามบิดเบือน เพราะรับนโยบาย คำสั่งใครมาหรือไม่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องทำงานรับใช้ประชาชน เพื่อความถูกต้อง ไม่ใช่รับคำสั่งจากฝ่ายการเมือง
ดังนั้น วันนี้ตนจะนำข้อมูลนี้ไปบอกกับพี่ทรว่าข้างนอกมีข่าวสารเป็นในแนวทางไหน มีใครปั่นอะไรบ้าง และฝากถึงพวกที่รู้มาก พูดว่ามีมือปืนรับงาน 30-40 ล้าน ก็ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติดำเนินคดีด้วย เพราะทุกวันนี้ไม่มีอาชีพแบบนั้นแล้ว
ยืนยันว่า ตนยังเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของ พี่ทร ตั้งแต่วันแรก สิ่งที่พี่ทรเล่าให้ฟัง ตนไม่คิดว่าโกหก เพราะรู้จักกันดี คบกันมาขนาดนี้
จากนั้นเวลา 10.30 น. นายสันธนะ ออกมาเปิดเผยว่า ทางเรือนจำได้แจ้งว่าวันนี้ยังไม่ครบกำหนดการกักตัวที่สามารถให้เข้าเยี่ยมได้ โดยตนเข้าใจผิด คิดว่าเริ่มนับตั้งแต่วันที่ส่งตัวเข้าเรือนจำ คือวันที่ 13 ธันวาคม แต่ทางเรือนจำ เริ่มนับวันกักตัวในวันรุ่งขึ้น หรือ 14 ธันวาคม ทำให้จะครบกำหนดระยะกักตัวในวันพรุ่งนี้ (19 ธันวาคม)
อย่างไรก็ตาม ตนได้พูดคุยว่า สามารถเยี่ยมผ่านการคุยโทรศัพท์ได้หรือไม่ แต่พยาบาลของเรือนจำก็บอกว่า การกักตัวไม่สามารถเข้าไปได้ ซึ่งตนมองว่าวันนี้เดินทางมาแล้วจึงเสนอแนวทางว่าจะเขียนจดหมายด้วยลายมือให้นำเข้าไปให้ พี่ทร ตอบกลับมา
โดยเนื้อหาในจดหมาย มีดังนี้
เรียน พี่สุนทรที่เคารพ
ผมมาเยี่ยมพี่ด้วยตัวเองในวันนี้ เนื่องจากทางเรือนจำแจ้งจะครบกำหนดกักตัว 5 วัน เป็นวันที่ 19 ธันวาคม (พรุ่งนี้)
ประเด็น 1. เรื่องแนวทางการต่อสู้คดี ขณะนี้สังคมส่วนใหญ่กล่าวหาว่าพี่เป็นผู้สั่งการ ไตร่ตรองไว้ก่อน รวมถึงตำรวจ (พลตำรวจโทอัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.)
2.การยื่นประกันตัวที่ชั้นศาล เรื่องคำร้องฝากขัง พฤติการณ์ทางคดีไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่พี่คุยกับผมที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี
3.การเลือกตั้ง นายก อบจ. ปราจีนบุรี (ความเห็นส่วนตัว) เพื่อยุติทุกปัญหา และความขัดแย้ง ของประชาชนพี่น้องชาวปราจีนบุรี อยากให้พี่ตัดสินใจเสียสละส่วนตัวอีกครั้ง ช่วงชีวิตอันดีงามมาตลอดของพี่ ประกาศตัวลงรับสมัครเลือกตั้ง นายก อบจ. ปราจีนบุรี อีกสมัย
นายสันธนะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนก็จะรอว่าพี่ทรจะเขียนจดหมายตอบกลับมาหรือไม่ ส่วนเรื่องที่อยากให้ลงสมัคร นายก อบจ.นั้น มองว่าไม่มีอุปสรรค เพราะคดียังไม่ถึงที่สุด ไม่ได้ผิดคุณสมบัติอะไร ส่วนสาเหตุที่อยากให้ลง เพราะตอนนี้มีนักการเมืองที่ประกาศตัวเป็นคนดี และมาพูดถึงพี่ทรไม่ดี ตอนนี้ปราจีนบุรีมีมลพิษอยู่เต็มจังหวัดแล้ว ยังจะเอานักการเมืองท็อกซิกมาอีกหรือ
ต่อมาเวลาประมาณ 12:30 น. นายสันธนะ ได้นำจดหมายตอบกลับจาก โกทร มาเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน หลังจากที่ไปปักหลักเฝ้ารอ นานกว่า 1 ชั่วโมง โดยเนื้อความในจดหมายระบุเอาไว้ว่า
"เรียน ท่านสันธนะที่รัก
โกได้รับหนังสือแล้ว ขอบคุณมาก ไม่ต้องเป็นห่วงโก โกบริสุทธิ์ 100% พรุ่งนี้มาเยี่ยม เอานักข่าวมามากๆ โกจะแถลงด้วยตนเอง อยากได้ หนุ่ม กรรชัย ขอเวลาออกรายการสด 3 ชั่วโมง มีข้อเท็จจริงให้นักข่าว และพี่น้องประชาชนทั่วประเทศทราบ
รัก
สุนทร วิลาวัลย์
18 ธ.ค. 67"
ส่วนหลังจากนี้ทางกรมราชทัณฑ์ โดยเรือนจำจังหวัดนครนายก จะอนุญาตให้โกทร ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในวันพรุ่งนี้หรือไม่ และมองว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้จะเป็นวีไอพีในการให้สัมภาษณ์ หรือไม่ นายสันทนะบอกว่าหลังจากนี้ตนจะเดินทางเข้าไปที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อยื่นขอให้โกทร ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ส่วนจะเป็นเรื่องของวีไอพีหรือไม่ ตนมองว่าเรื่องนี้เป็นที่จับตาของประชาชนทั่วประเทศ และเป็นสิทธิ์ของโกทร เพราะตอนนี้ยังไม่ได้เป็นผู้ต้องหาที่ถูกตัดสินจนถึงที่สุด
ส่วนในวันพรุ่งนี้ตนเองก็จะเดินทางมาที่เรือนจำจังหวัดนครนายก เพื่อเยี่ยมโกทรด้วยตนเองอีกรอบ แต่ตนเองก็อยากจะให้โกทรได้คุยกับสื่อมวลชนด้วยตนเอง โดยไม่ต้องผ่านตน
Advertisement